มอสซาด (Mossad) คือสำนักงานข่าวกรองของอิสราเอลที่มีรายงานว่าอยู่เบื้องหลังเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนระเบิด อย่างไรก็ตาม แม้ทางอิสราเอลจะไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆถึงเรื่องนี้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในเลบานอนก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่า ต้องเป็นฝีมือของมอสซาดอย่างแน่นอน
Spotlight จะพาไปทำความรู้จักกับมอสซาด หน่วยข่าวกรองที่ไฮเทคและร่ำรวยที่สุดอีกหนึ่งแห่งของโลกใบนี้
มอสซาดก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปี 1949 ในฐานะสถาบันกลางเพื่อการประสานงาน โดยตั้งขึ้นเพราะต้องการให้มีหน่วยงานกลางในการประสานงานและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงต่างๆที่อิสราเอลมีอยู่แล้วในเวลานั้น
หน้าที่ความรับผิดชอบของมอสซาดคือการรวบรวมข่าวกรอง ออกปฏิบัติการ และต่อต้านก่อการร้าย โดยผู้อำนวยการของมอสซาดจะขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้น
คาดการณ์ว่า ในแต่ละปีได้รับงบประมาณจัดสรรมากถึง 2,730 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 90,500 ล้านบาท และมีเจ้าหน้าที่มากถึงราว 7,000 คน ทำให้มอสซาดกลายเป็นหนึ่งในหน่วยงานด้านการจารกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ย้อนกลับไปในปี 1972 กลุ่ม Black September ซึ่งเป็นปาเลสไตน์ได้จับตัวนักกีฬาชาวอิสราเอลจำนวน 11 คนไว้เป็นตัวประกันระหว่างมหกรรมโอลิมปิกที่มิวนิก เยอรมนี ตัวประกันทั้งหมดถูกสังหาร ส่วนผู้ก่อการร้าย 5 จากทั้งหมด 8 คนก็ถูกสังหาร และเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อิสราเอลเปิดปฏิบัติการที่มีชื่อว่า พระเจ้าพิโรธ หรือ Operation Wrath of God ด้วยการก่อเหตุระเบิดรถยนต์และวางกับดักเพื่อสังหารสมาชิกขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ หรือ PLO ด้วยการสับเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือของมาห์มูด ฮัมชารี ผู้แทน PLO ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ด้วยของปลอมที่ติดตั้งระเบิดเอาไว้ และเมื่อเขารับโทรศัพท์ อิสราเอลก็กดรีโมทระเบิดสั่งการทันที
ถัดมาในปี 1979 เกิดการลอบสังหารอาลี ฮัซซัส ซาลาเมห์ ผู้นำของ PLO ด้วยเหตุระเบิดรถยนต์ในกรุงเบรุตของเลบานอน ตอกย้ำให้เห็นถึงความมั่นใจของมอสซาดในการใช้ระเบิดลงมือ
นอกจากการลงมือในเลบานอนแล้ว ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มอสซาดจะลงมือพุ่งเป้าไปที่อิหร่าน โดยเมื่อปี 2004 รัฐบาลอิสราเอลสั่งให้มอสซาดขัดขวางไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และหลังจากนั้น มอสซาดก็ดำเนินปฏิบัติการบ่อนทำลายและโจมตีทางไซเบอร์ต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างต่อเนื่อง
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 มอสซาดเปิดปฏิบัติการสังหารโมห์เซน ฟาครีซาเดห์ นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยการลอบยิงด้วยปืนอัตโนมัติที่สั่งการด้วยคอมพิวเตอร์ ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที และไม่มีใครโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บไปด้วย แม้กระทั่งภรรยาของนายฟาครีซาเดห์ที่อยู่กับเขาด้วย
รายงานของนิวยอร์กไทมส์เปิดเผยว่า การลอบสังหารครั้งนี้ใช้ปืน FN MAG ที่ผลิตในเบลเยียม และสั่งการด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ อุปกรณ์ทั้งหมดมีน้ำหนักราว 1 ตัน และถูกลักลอบนำเข้าอิหร่าน ด้วยการแบ่งเป็นชิ้นส่วนต่างๆขนาดเล็ก ก่อนจะนำไปประกอบและก่อเหตุในท้ายที่สุด