ข่าวเศรษฐกิจ

วิธีตรวจสอบสิทธิ์รับเงินผู้ประสบภัยน้ำท่วม 57 จังหวัด เช็คสิทธิที่นี่!

9 ต.ค. 67
วิธีตรวจสอบสิทธิ์รับเงินผู้ประสบภัยน้ำท่วม 57 จังหวัด เช็คสิทธิที่นี่!

น้ำท่วมปี 67 หนักหนาสาหัส! สร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงให้กับพี่น้องชาวไทย หลายพื้นที่ต้องเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วม บ้านเรือนไร่นาจมอยู่ใต้น้ำ สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว แต่ท่ามกลางวิกฤตนี้ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ เร่งออกมาตรการช่วยเหลือ เยียวยาพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่! บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์การรับสิทธิ์ เงินช่วยเหลือ ขั้นตอนการยื่นคำร้อง ช่องทางการติดต่อ เพื่อให้ทุกท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน

วิธีตรวจสอบสิทธิ์รับเงินผู้ประสบภัยน้ำท่วม 57 จังหวัด เช็คสิทธิที่นี่!

วิธีตรวจสอบสิทธิ์รับเงินผู้ประสบภัยน้ำท่วม 57 จังหวัด เช็คสิทธิที่นี่!

ครม. ไฟเขียว! งบกลางกว่า 3 พันล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 57 จังหวัดทั่วไทย ฝ่าวิกฤตน้ำท่วม! คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณกลางกว่า 3,045 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 57 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนปี 2567

ใครบ้างมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือ

การช่วยเหลือนี้ครอบคลุมผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง หรือแม้กระทั่งผลกระทบจากการระบายน้ำ โดยต้องเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 และที่อยู่อาศัยต้องอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติใน 57 จังหวัด

เงินช่วยเหลือแบ่งเป็น 3 ระดับ ตามระยะเวลาที่น้ำท่วมขัง

  • ระดับ 1: ที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมขังเกิน 24 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 7 วัน หรือถูกน้ำท่วมขังเกิน 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน จะได้รับเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท
  • ระดับ 2: ที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมขังเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน จะได้รับเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 7,000 บาท
  • ระดับ 3: ที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมขังเกิน 60 วันขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยว่า " ผู้ประสบภัยที่ได้รับเงินช่วยเหลือไปแล้วครัวเรือนละ 5,000 บาท หรือ 7,000 บาท จากการโอนเงินของธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน จนถึงวันที่ 9 ตุลาคมนี้ จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 2,000 บาท และ 4,000 บาท ตามลำดับ โดยยอดเงินรวมทั้งหมดจะต้องไม่เกิน 9,000 บาท ท่านอธิบดียังได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยทาง ปภ. จะส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินดำเนินการโอนเงินทันทีหลังจากตรวจสอบบัญชีของผู้ประสบภัยเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับเงินช่วยเหลืออย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุด"

แนวทางการขอรับสิทธิ์และการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 57 จังหวัด ท่านสามารถยื่นคำร้องออนไลน์ได้ที่: https://flood67.disaster.go.th และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ขั้นตอน ระยะเวลา หรือแม้แต่การกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ กองช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปภ. เพื่อความรวดเร็วในการรับเงินช่วยเหลือ

ช่องทางการติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

หากท่านมีข้อสงสัยประการใด หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถติดต่อได้ที่

  • โทรศัพท์: 0-2637-3508-10,12 หรือ 08-9600-6777 และ 08-4874-7387
  • สำหรับคำถามเกี่ยวกับการยื่นคำร้องออนไลน์: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปภ. โทร. 0-2637-3604-06 และ 08-9968-1232 เจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการตอบข้อซักถามและให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเร่งช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการตรวจสอบและลดขั้นตอนเอกสารต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงเงินช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ความช่วยเหลือนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความพยายามในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ

วิธีตรวจสอบสิทธิ์รับเงินผู้ประสบภัยน้ำท่วม 57 จังหวัด เช็คสิทธิที่นี่!

แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายและมาตรการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่การเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเพื่อรับมือกับภัยพิบัติก็ถือเป็นภารกิจสำคัญ ประชาชนควรติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น สำหรับการแก้ไขปัญหาอุทกภัย จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชนทุกคน การร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย การบริจาคสิ่งของ หรือการสนับสนุนในด้านต่างๆ ล้วนเป็นพลังสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้สามารถฟื้นฟูและก้าวผ่านวิกฤตการณ์นี้ไปได้

ที่มา รัฐบาลไทย

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT