บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) หรือ 'โออาร์' ยังคงเดินหน้าทุ่มงบขยายการลงทุนต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน(Non Oil) โดยเฉพาะในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ 'โออาร์' เน้นให้ความสำคัญตามแผนธุรกิจที่เคยประกาศไว้ว่าใน 5 ปี ระหว่างปี 2564-2568 จะมีกำไรก่อนภาษี, ค่าเสื่อม และดอกเบี้ยจ่าย(EBITDA) จากธุรกิจ Non Oil มีสัดส่วนเพิ่มจาก 25% เป็น 35% ของกำไรรวม
ล่าสุด 'โออาร์' ได้ส่งบริษัทย่อย คือ บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์(Modulus) ใช้งบลงทุนไม่เกิน 299.6 ล้านบาท ซื้อหุ้นสัดส่วน 25% ของ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ (DF) บริษัทย่อย ของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DUSIT) เพื่อมาต่อต่อจิ๊กซอว์ในกลุ่มธุรกิจอหารและเครื่องดื่มในเครือให้มีความหลากหลายเพิ่มากขึ้นั่นเอง หลังการเข้าลงทุนครั้งนี้ และกลุ่ม DUSIT จะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์(DF) ลดลงเหลือ 75% จากเดิมที่ถือ 100% ของหุ้นทั้งหมด
โดย บริษัท ดุสิต ฟูดส์ จำกัด ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจให้บริการอาหารและเครื่องดื่มของดุสิตธานี เพื่อลงทุนในธุรกิจอาหารที่มีแนวโน้มในการเติบโตสูง หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอาหาร การจัดหลักสูตรการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์อาหารที่วิทยาลัยดุสิตธานี และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงสำหรับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ รวมถึงวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ
ปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนหลักๆ ของ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ ประกอบด้วย บริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ให้บริการกับโรงเรียนนานาชาติที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 70% ในประเทศไทย บริษัท เดอะ เคเทอเรอร์ส จอยท์ สต็อก จำกัด (The Caterers Joint Stock) หรือ “เดอะ เคเทอเรอร์ส” (The Caterers) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดเลี้ยงสำหรับโรงเรียน และงานเลี้ยงรับรองนอกสถานที่ในประเทศเวียดนาม
ร้านอาหาร KAUAI (คาวาอิ) ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารสุขภาพยอดนิยมจากประเทศแอฟริกาใต้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยและมีแผนจะขยายตลาดเพิ่มในเอเชีย รวมถึง บริษัท บองชู เบเกอรี่ เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ขนมเบเกอรี่ “บองชู” (BONJOUR) และโรงงานผลิตเบเกอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ดีและทันสมัยที่สุดที่นำเข้าจากประเทศชั้นนำในยุโรป ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยปัจจุบัน ร้านแฟรนไชส์ขนมเบเกอรี่บองชู มีสาขาในประเทศไทยกว่า 50 แห่ง รวมถึงในประเทศจีนอีก 1 แห่ง
ขณะที่ 'จิราพร ขาวสวัสดิ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ 'โออาร์' เล่าถึง วิสัยทัศน์ใหม่ของ 'โออาร์' ต้องการมุ่งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตร ร่วมกับกลุ่มดุสิตธานี ลงทุนใน บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจอาหารที่หลากหลายและมีศักยภาพในการเติบโตในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจไลฟ์สไตล์ของ OR โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ทั้งที่เป็นธุรกิจที่ OR ดำเนินการเองและพันธมิตรที่ OR เข้าไปร่วมลงทุนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเติมเต็มความสะดวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร
อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันกับผู้ประกอบการแบรนด์ไทยเพื่อการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งเน้นเติบโตในแบบ Outside-In โดยแสวงหาโอกาสการลงทุนในตลาดใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตร
ส่วน 'ศุภจี สุธรรมพันธุ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี เปิดเผยว่า ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการสร้างโอกาสเติบโตร่วมกัน โดยอาศัยจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่าย โดย OR มีความเชี่ยวชาญในส่วนของธุรกิจค้าปลีก และเป็นเจ้าของเครือข่าย Retail Platform อันแข็งแกร่งที่สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนและกระจายอยู่ในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย ผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น (PTT Station) เกือบ 2,500 แห่ง และร้านคาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) อีกเกือบ 4,000 สาขา ในขณะที่กลุ่มดุสิตธานี เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความชำนาญในด้านธุรกิจการให้บริการชั้นนำของประเทศ
โดยที่ผ่านมาได้เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจอาหารที่เชื่อมโยงกับธุรกิจหลัก มีแนวโน้มการเติบโตสูง และครอบคลุมทุกห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งความร่วมมือกับ OR ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตของธุรกิจอาหารภายใต้การบริหารของกลุ่มดุสิตธานีได้อย่างแน่นอน
“วิสัยทัศน์ของดุสิต ฟู้ดส์คือ การนำเอเชียไปให้โลกรู้จัก (Bring Asia to the World) โดยที่ผ่านมา เราเลือกลงทุนในธุรกิจอาหารที่เน้นกระบวนการธรรมชาติ ออแกนิก มีสุขภาพที่ดี และช่วยสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการลงทุนครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังนั้น การที่มี OR มาถือหุ้นในดุสิต ฟู้ดส์ จะเป็นการช่วยต่อยอดขีดความสามารถในการเติบโตในเชิงกลยุทธ์ และการขยายธุรกิจผ่านช่องทางเครือข่ายค้าปลีกที่แข็งแกร่งของ OR ซึ่งกลุ่มดุสิตธานีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน ดุสิตธานีและ OR ต่างก็เป็นแบรนด์ไทย ที่มีความตั้งใจและมีเป้าหมายร่วมกันในการจะช่วยสนับสนุนและผลักดันการเติบโตของธุรกิจอาหารของไทยให้มีโอกาสเติบโตทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้และเป็น Growth Engine ตัวใหม่ที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือครั้งนี้มีพลังมากยิ่งขึ้น”
สำหรับความร่วมมือกับ OR ในครั้งนี้ กลุ่มดุสิตธานีวางเป้าหมายที่จะทำงานร่วมกับ OR ในการสร้างแพลตฟอร์มด้านอาหาร เพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็กในชุมชนและท้องถิ่นให้มีโอกาสเติบโตทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงขยายโอกาสในการเติบโตของพอร์ตด้วยการทำงานร่วมกับ OR และบริษัทอื่นๆ ที่ OR ได้ลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) รวมถึงร้านอาหารเพื่อสุขภาพโอ้กะจู๋ ซึ่งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อไปนี้ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้และความสามารถในการรักษากำไรที่ดีขึ้นให้กับกลุ่มดุสิตธานีในอนาคต