ทีเอ็มบีธนชาต เกิดมาจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วได้มีการรวมกันระหว่างธนาคารทหารไทย หรือ TMB กับธนาคารธนชาต หรือ TBANK รวมกันเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ มุ่งสู่ The Next REAL Change ให้กับชีวิตทางการเงินของคนไทยในทุกกลุ่มดีขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ลูกค้ารายย่อย SME และทุกกลุ่มดีขึ้น
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน โฟกัสไปที่เรื่องของโควิด-19 ที เอ็มบีธนชาตช่วยลูกค้าเยียวยา ดูแลกลุ่มเปราะบางให้ดีขึ้น วิกฤตต่างๆ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อ คงไม่ได้หนีหายไปไหนหรอก ก็ต้องมาดูว่าบทบาทของแบงก์ต่อคนไทย ต่อเศรษฐกิจไทย คือ อะไร จากโควิดคลี่คลาย ก็เจอปัญหาเรื่องใหม่ๆ คนไทยเองต้องประสบปัญหาเงินเฟ้อ ต้นทุนพลังงาน ดอกเบี้ยที่ขึ้น ซ้ำเติมภาระหนี้เดิม ทำให้ประชาชนที่มีปัญหาด้านสภาพคล่องหรือมีหนี้เดิมอยู่เกิดความยากลำบากทางด้านการเงินมากขึ้น โดยหนี้ครัวเรือนแตะระดับสูงถึง 86.8% ของ GDP ในไตรมาส 3/2565 พันธกิจของแบงก์ คือ เรื่องเดิม ปัญหาไม่ได้หมดไป
ในฐานะแบงก์ สิ่งที่พยายามทำแบ่งเป็น 4 เรื่อง คือ ฉลาดออม ฉลาดใช้, รอบรู้เรื่องกู้ยืม, ลงทุนเพื่ออนาคต และมีความคุ้มครองอุ่นใจ ธนาคารสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวก เพราะสามารถทำให้ลูกค้า 2 ล้านราย ได้รับความคุ้มครองฟรี ผ่านบัญชี All Free สามารถดูแลค่ารักษาพยาบาลและครอบครัวลูกค้าได้กว่า 110 ล้านบาท ธนาคารสามารถรวบหนี้ ราว 2,00 ราย ช่วยประหยัดดอกเบี้ยไป 270 ล้านบาท และเพิ่มสภาพคล่อง ด้วยสินทรัพย์บ้านกว่า 9,200 ล้านบาท พยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เรื่องการออม ช่วยลูกค้าให้เริ่มลงทุนด้วยเงินไม่มากผ่าน ttb smart port รวม 20,000 ล้านบาท
ปี 2023 เดินหน้าด้วย 3 กลยุทธ์หลัก
มาวันนี้ ปี 2023 ทีเอ็มบีธนชาตได้มีการรวมกันเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมเดินหน้าด้วย 3 กลยุทธ์หลักที่สำคัญ ได้แก่
1. Synergy Realization : การนำจุดแข็งและความแข็งแกร่งจากการรวมกิจการมาต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้า หลังรวมกิจการทำให้ทีเอ็มบีธนชาตมีความแข็งแกร่งด้วยฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านราย สะท้อนได้จากผลประกอบการปี 2565 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 14,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อนหน้า และได้รับผลประโยชน์ด้านค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการรับรู้ Cost Synergy ของการรวมกิจการ ทำให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงจาก 48% ในปี 2564 มาอยู่ที่ 45% วันนี้ธนาคารถือว่ามีความพร้อมทั้งศักยภาพที่แข็งแกร่งและงบประมาณในการลงทุน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า
จากเดิมที่ธนาคารมีสินเชื่อรถ สินเชื่อบ้าน บัญชีเพื่อใช้ เพื่อออม และบัญชีเงินเดือน เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าในตลาด ปีนี้ทีเอ็มบีธนชาตจะต่อยอดจุดแข็งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปสู่สินเชื่อรถแลกเงิน (ttb cash your car) สินเชื่อบ้านแลกเงิน (ttb cash your home) สินเชื่อ ttb payday loan และกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถ ซึ่งโซลูชันเหล่านี้นอกจากจะมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นแล้ว ยังจะสามารถช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาสภาพคล่องภายใต้เศรษฐกิจผันผวนของปีนี้ได้ด้วย
ตั้งเป้าเป้าหมายเป็น Top 3 Digital Banking Platform ใน 3-5 ปีข้างหน้า
2. Digitalization : การยกระดับประสบการณ์ทางการเงินและพัฒนาประสิทธิภาพของธนาคารผ่าน ttb touch เวอร์ชันใหม่ ธนาคารมีเป้าหมายนำดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และขับเคลื่อนองค์กรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนของธนาคาร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
โดยวันนี้ธนาคารมุ่งยกระดับและขยายขีดความสามารถของ ttb touch ให้ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละรายได้อย่างรอบด้าน ซึ่ง ttb touch เวอร์ชันใหม่ได้เปิดตัวไปเมื่อไตรมาส 2/2565 และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก จำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 46% และจำนวนรายการธุรกรรมบนแอปเติบโตขึ้น 25%
ถึงแม้ว่าเดือนกันยายนที่ผ่านมา ttb touch เกิดปัญหาขัดข้องทำให้ทีมงานได้เร่งปรับปรุงแก้ไข และวางแผนพัฒนาความสามารถในการรองรับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันนี้แอปมีความเสถียรและสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญด้วยศักยภาพของ ttb touch เวอร์ชันใหม่ทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ ให้กับลูกค้าแบบ 1 ต่อ 1 หรือ Segment-of-One ยกระดับการให้บริการลูกค้าได้
ทั้งนี้ ธนาคารจะเดินหน้าพัฒนาองค์กรให้เป็น Digital-First Experience เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมส่วนใหญ่ได้เองผ่าน ttb touch เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ในขณะที่พนักงานสาขาจะมีบทบาทสำคัญในการเป็น Trusted Advisor ให้คำปรึกษา แนะนำและให้บริการลูกค้าบนผลิตภัณฑ์และบริการที่ซับซ้อน
“ แนวโน้มแอปใช้การไม่ได้ลดลง ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ เรื่องของแอปล่ม โอนพร้อมเพย์ไม่ได้เนี่ยหายไปแล้ว แต่เราก็ไม่ได้ไว้วางใจ เพราะปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น เราก็ต้องปรับความสามารถในการรองรับธุรกรรมตามจำนวนการเพิ่มขึ้นของลูกค้าในแต่ละวัน ในแต่ละเดือน” นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb กล่าวกับ “Spotlight”
New Business Model เน้นกลุ่มลูกค้ามนุษย์เงินเดือน คนมีรถ มีบ้าน
3. Ecosystem Play : การสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้าบัญชีเงินเดือน มีรถ มีบ้านให้ดีขึ้นรอบด้าน
ทีเอ็มบีธนชาตเดินหน้าสร้างการเติบโตด้วย New Business Model มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ามนุษย์เงินเดือน กลุ่มคนมีรถ และกลุ่มคนมีบ้าน ซึ่งเป็น 3 กลุ่มหลักที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญและมีฐานลูกค้าเป็นแต้มต่อ
โดยธนาคารจะต้องเข้าไปอยู่ในชีวิตของลูกค้าตลอด Journey และช่วยให้ชีวิตของลูกค้าสามารถบริหารจัดการเรื่องสำคัญได้อย่างรอบด้าน โดยเน้นการทำงานจากทีมภายใน และร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำภายนอก (Partnership) โดยมี ttb touch เป็นตัวขับเคลื่อนให้ลูกค้าบริหารจัดการชีวิตได้อย่างครบวงจร
อาทิ สำหรับคนมีรถจะสามารถบริหารจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับรถ เช่น จ่าย-เช็คยอดสินเชื่อรถ ต่อประกันภัยรถและพรบ. เติมเงิน-เช็คยอดบัตรทางด่วน Easy Pass ค้นหาโปรโมชันเกี่ยวกับการดูแลรถ สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน แม้กระทั่งการขายรถแบบ e-auction ทุกอย่างสามารถทำบนฟีเจอร์ “My Car” บนแอป ttb touch ได้อย่างสะดวก
เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร
นอกจากนี้ ธนาคารให้ความสำคัญและเร่งทำ คือ การเตรียมความพร้อมบุคลากร เพื่อให้สามารถร่วมกัน Transform องค์กรได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเพิ่มศักยภาพและจำนวนทีมงานด้าน Tech & Data ให้มากขึ้น
ที่ผ่านมา ธนาคารได้จัดตั้งทีมดิจิทัล ttb spark และ ttb spark academy เพื่อที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้าง Talent รุ่นใหม่ที่มีความสามารถสอดรับกับโลกธุรกิจผ่านการขับเคลื่อนนวัตกรรมและดิจิทัลโซลูชัน
โดยปัจจุบันมีทีมงาน ttb spark มากกว่า 400 คน ดูแลทั้งในส่วนของฝั่ง Tech และ Beyond Banking Business พร้อมผลักดันและพัฒนาแอป ttb touch ให้มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ด้าน ttb spark academy ได้มีกิจกรรมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำและมีนักศึกษาเข้ามาฝึกงานด้วยอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้จัดกิจกรรม ttb hackathon: Financial Well-being for Thais ซึ่งมีผู้ร่วมสมัครมากกว่า 100 ทีม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ในกลุ่มเด็กรุ่นใหม่เพื่อให้ Talent เหล่านี้สนใจร่วมงานกับธนาคารในอนาคต”
“ ด้วยศักยภาพของทีเอ็มบีธนชาตที่มีความพร้อมในทุกด้าน ณ วันนี้ ผนวกกับกลยุทธ์ทั้ง 3 ด้าน จะสามารถทำให้ปีนี้ เราจะยังคงเดินหน้าไปสู่การเป็นธนาคารที่ Make REAL Change เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง” นายปิติกล่าว
ทีเอ็มบีธนชาตมุ่งสู่ Digital Only ไม่ต่างอะไรกับ Vitual Bank
“ ทีทีบี ในอนาคตก็จะมุ่งสู่ Digital Only เพราะว่าถ้ามีช่องทางเดียวเราสามารถทำได้ถูกกว่า พอถูกว่า แบงก์มีต้นทุนที่ถูกลง แบงก์เองก็สามารถหยิบยื่นดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้นให้กับลูกค้าได้ หยิบยื่นดอกเบี้ยเงินกู้ที่ถูกกว่าให้ลูกค้าได้เพราะเรามีต้นทุนที่ถูกกว่า นั่นสิ่งที่ทำไม่ได้แตกต่างอะไรกับ Virtual Bank แต่วันนี้ด้วยความที่เราเป็นแบงก์อยู่แล้ว เราทำได้เลย เราทำตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และทำต่อในวันพรุ่งนี้ และมะรืนนี้โดยไม่ต้องรอ Virtual Bank” นายปิติ กล่าวกับ “Spotlight”
วันนี้เราเริ่มเห็นพัฒนาการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของวงการธนาคารที่จะมุ่งไปสู่ Digital Banking Platform ที่จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ช่วยให้ชีวิตคนไทย สังคมไทยดีขึ้นไปด้วยกัน...