เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกเมื่อ ‘Titan’ เรือดำน้ำชมซากเรือไททานิคเกิดสัญญาณขาด พาผู้โดยสาร 5 คนหายไปในท้องทะเลลึกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ต้องแข่งกับเวลา เร่งหาตำแหน่งของ Titan กันอย่างแข็งขัน เพราะเรือมีออกซิเจนให้ผู้โดยสารหายใจใต้น้ำได้ต่อเนื่องเพียง 96 ชั่วโมงเท่านั้น
จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ เรือดำน้ำลำนี้เป็นของบริษัท OceanGate Expeditions ที่เปิดให้บริการนำผู้โดยสารลงไปชมซากเรือไททานิคที่ชนภูเขาน้ำแข็งจมมหาสมุทรแอตแลนติกไปในปี 1912 โดย OceanGate เริ่มให้บริการดังกล่าวแก่ผู้สนใจและผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการลงไปสำรวจใต้ท้องทะเลตั้งแต่ปี 2021
โดยจากข้อมูลของ OceanGate ผู้ร่วมทริปจะต้องนั่งเรือลงไปใต้นำถึง 3.8 กิโลเมตรเพื่อชมซากเรือ และใช้เวลา 8 วันเพื่อสำรวจสภาพรอบเรือ เพราะนอกจากจะลงไปเพื่อดูซากเรือไททานิกแล้ว การเดินทางแต่ละครั้งยังเป็นการลงไปสำรวจสภาพแวดล้อมใต้ทะเล สังเกตการผุกร่อนของซากเรือ รวมไปถึงสำรวจสัตว์น้ำและพืชรอบๆ ซากเรือด้วย
นอกจากนี้ ผู้สนใจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละถึง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8,683,125 บาท เพื่อที่จะร่วมทริปไปในแต่ละครั้ง ทำให้คนที่ลงไปส่วนมากจะเป็นคนรวย หรือบุคคลที่มีองค์กรสนับสนุน
โดยในทริปที่เกิดเหตุสัญญาณขาดหายไปนี้เอง ผู้โดยสารแต่ละคนก็ถือได้ว่าเป็นเศรษฐีกระเป๋าหนักทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Hamish Harding นักธุรกิจและนักสำรวจชาวอังกฤษ ประธานบริษัท Action Aviation และ Shahzada Dawood นักธุรกิจชาวปากีสถานและ Suleman Dawood ลูกชาย ส่วนแขกอีกสองคนยังไม่ได้รับการยืนยันตัวตน
สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? จะกู้ขึ้นมาได้ไหม?
ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านสำรวจทะเล และเดินทางในทะเลของหลายประเทศที่อยู่ติดมหาสมุทรแอตแลนติกไว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา แคนาดา และอังกฤษ กำลังเร่งหาตำแหน่งของเรือดำน้ำลำนี้กันอย่างเต็มที่
โดยจากการรายงานของ BBC เจ้าหน้าที่ได้ทำการตามหาทั้งการเดินเรือดำน้ำสำรวจใต้ท้องทะเล ใช้อุปกรณ์ที่ปล่อยคลื่นโซนาร์หาตำแหน่งวัตถุไปทั่วบริเวณที่คาดว่าจะมีเรือดำน้ำอยู่ รวมไปถึงใช้เครื่องบินตรวจสอบทางอากาศเพราะตัวเรือดำน้ำมีระบบนำเรือขึ้นสู่ผิวน้ำโดยอัตโนมัติอยู่ในกรณีที่เครื่องเกิดขัดข้อง ทำให้ในปัจจุบันเรือดำน้ำดังกล่าวอาจจะลอยเท้งเต้งกลางทะเลรอคนไปช่วยเหลืออยู่
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าในกรณีที่ดีที่สุด Titan ควรจะลอยขึ้นมาบนพื้นน้ำรอให้คนไปพบ แต่ในกรณีที่แย่ที่สุด ตัวเรือดำน้ำอาจเกิดการเสียหาย ทำให้มีรอยรั่ว ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็ยากที่คนภายใน Titan จะเอาชีวิตรอด เพราะ Titan ไม่มีเรือสำรองให้คนหนีออกมาในกรณีฉุกเฉิน และในความลึกระดับนั้นไม่ว่าใครก็ไม่น่าจะว่ายน้ำเอาชีวิตรอดขึ้นมาไหว
นอกจากนี้ หากตำแหน่งของ Titan ในตอนนี้อยู่ใต้ระดับผิวน้ำเกิน 200 เมตร ก็ยากที่จะค้นเจอได้ เพราะในโลกนี้มียานพาหนะไม่กี่ลำที่ลงไปสำรวจใต้ทะเลในระดับที่ลึกกว่านั้นได้
นี่จึงทำให้ภารกิจตามหาเรือดำน้ำหายในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นภารกิจที่ท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากโอกาสที่เรือดำน้ำลำนี้จะยังมีสภาพดี และอยู่ในระดับความลึกที่ทำให้ทีมช่วยเหลือสามารถค้นหาได้จะมีน้อยแล้ว ทีมช่วยเหลือยังต้องแข่งกับเวลาที่กำลังจะหมดลงเรื่อยๆ อีก เพราะถึงแม้เรือจะจมอยู่ในระดับที่ช่วยเหลือได้ หากไปไม่ทันก็ไม่มีประโยชน์