ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 34.78 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานศุกร์ที่ระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนธ.ค.ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะยุติวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายในเดือน ม.ค.นี้
โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 154,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 212,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
ในขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.1% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.2%
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ระหว่างวันที่ 6-10 ม.ค.2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,383 ล้านบาท และขายสุทธิตลาดพันธบัตรไทย 3,354 ล้านบาท
ในสัปดาห์นี้มีปัจจัยที่ควรติดตามได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึง สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ด้วยเช่นกัน
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์กรอบค่าเงินบาทวันนี้ คาดว่าเงินบาทจะมีการเคลื่อนไหวที่ 33.60-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 34.60 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 34.61 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐ ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่านโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นและทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
มีรายงานจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่า ทรัมป์มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อให้เขามีอำนาจในการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้าตามที่ได้สัญญาไว้ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนวันศุกร์ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.2%
เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,446 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,216 ล้านบาท
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 34.67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 34.63 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าตามทิศทางสกุลเงินหลักในภูมิภาค เป็นผลจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับสูงขึ้น หลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศในช่วงนี้ยังคงออกมาค่อนข้างดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ขณะที่นักลงทุนพากันเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปี 2568 โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.
ส่วนปัจจัยในประเทศเองก็ยังคงกดดันทำให้เงินบาทอ่อนค่าต่อได้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่โตชะลอลง ตามการบริโภคและส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอ คาดว่าเงินบาทอาจอ่อนค่าไปทดสอบระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ได้ ทั้งนี้ตลาดยังคงต้องรอดูตลาดรอดูรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ อาทิจำนวนผู้ขอรับ สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทวันนี้ คาดว่าเงินบาทจะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ
เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,007 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,115 ล้านบาท
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 34.58 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 34.48 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.1 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 52.1 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.3
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 259,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.098 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ย.
เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 719 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,401 ล้านบาท