Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เงินบาทเสี่ยง Dutch Disease เมื่อเงินบาทแข็งค่าผิดเวลา กระทบเศรษฐกิจ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เงินบาทเสี่ยง Dutch Disease เมื่อเงินบาทแข็งค่าผิดเวลา กระทบเศรษฐกิจ

10 เม.ย. 68
09:49 น.
แชร์

เงินบาทดูอ่อนค่าลงในช่วงที่มีข่าวการขึ้นภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อประเทศต่างๆในโลกรวมถึงไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ภาษีสูงมาก แต่บทวิเคราะห์ของ KKP Research ตั้งข้อสังกตุว่า เงินบาทไทยอยู่ในทิศทางแข็งค่าขึ้น สวนทางกับปัจจัยพื้นฐานที่จะอ่อน เพราะตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 จนถึงต้นปี 2025 ก่อนทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษี ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือแม้ในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เงินบาทก็ไม่ได้แข็งค่าตามทันที 

KKP Research ระบุว่า เงินบาทกลับกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อวัดเทียบกับกลุ่มประเทศคู่ค้าของไทย ค่าเงินบาทแข็งแกร่งถึงขั้นใกล้เคียงกับช่วงหลังวิกฤตปี 1997 เลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่ค่าเงินแข็ง…แต่แข็งสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจ

โดยปกติค่าเงินจะแข็งหรือลดลงตามปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เช่น รายได้จากการท่องเที่ยว ดุลการค้า หรือความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ในรอบนี้ KKP Research ชี้ว่า การแข็งค่าของเงินบาทดูจะ “สวนทางกับความเป็นจริง” หลายด้าน เช่น

  1. รายได้จากต่างประเทศลดลง: ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยลดลงมาก เพราะการส่งออกยังไม่ฟื้นตัวดี และนักท่องเที่ยวยังกลับมาไม่มากเหมือนช่วงก่อนโควิด
  2. อัตราดอกเบี้ยไม่จูงใจเงินไหลเข้า: ดอกเบี้ยไทยต่ำกว่าสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก ปกติจะทำให้เงินไหลออก ไม่ใช่แข็งค่า
  3. เงินทุนไหลออกต่อเนื่อง: ทั้งจากตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทย

ทั้งหมดนี้ทำให้การแข็งค่าของเงินบาทครั้งนี้ดู “ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ”

เมื่อค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาก ย่อมส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออก เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นเคยเจอหลังการเข้าร่วม Plaza Accord ในอดีต ยิ่งในช่วงนี้ที่ภาคการผลิตของไทยยังเปราะบาง การแข็งค่าของเงินบาทยิ่งเพิ่มแรงกดดัน เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจในอดีต ไม่ได้มากพอจะชดเชยได้เหมือนก่อน

2 ปัจจัย ที่อาจเป็นเหตุผลว่า ทำไมบาทถึงแข็งขนาดนี้?

KKP วิเคราะห์ว่าค่าเงินบาทช่วงนี้ตอบสนองต่อ “ปัจจัยภายนอก” มากกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค สาเหตุเพราะราคาทองคำ และ ราคาน้ำมัน 

  1. ราคาทองคำ:เนื่องจากค่าเงินบาทมีความสัมพันธ์กับราคาทองคำอย่างชัดเจนโดยราคาทองคำที่สูงขึ้นมักจะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นตาม ทั้งนี้คนไทยมองว่าทองคำแท่งเป็นเครื่องมือในการเก็บรักษามูลค่าทางเลือกและตลาดทองคำในไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่ลำดับต้นๆในภูมิภาค ทั้งนี้ราคาทองที่พุ่งขึ้นช่วงปลายปี 2024 ทำให้คนไทยซื้อขายทองมากขึ้น และมีความเชื่อมโยงกับเงินบาทที่แข็งค่าตาม แม้ว่าข้อมูลการค้าจะชี้ชัดว่าเราไม่ได้ส่งออกทองเพิ่มขึ้นจริงจัง
  2. ราคาน้ำมันลดลง: ไทยพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันสูง เมื่อน้ำมันถูกลง ทำให้ต้นทุนนำเข้าน้อยลง ดุลการค้าไทยดูดีขึ้น ส่งผลให้เงินบาทแข็งขึ้นตาม

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ตรวจสอบได้ยาก หรือมีที่มาไม่ชัดเจน คือ Error and Omissions หรือค่าคลาดเคลื่อนทางสถิติในดุลการชำระเงินของไทย ซึ่งมีทิศทางเป็นบวกต่อเนื่องมาหลายไตรมาสและขนาดใหญ่กว่าการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด โดยไม่สามารถอธิบายที่มาที่ไปได้ชัดเจน ซึ่งอาจหมายถึงการมีเงินไหลเข้าไทยต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาแต่ไม่ได้ถูกสำรวจคลอบคลุมในตัวเลขของทางการ เช่น การนำเงินเข้ามาผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมาย หรือการเก็บข้อมูลที่ผิดพลาด เช่น มีการคำนวนรายรับนักท่องเที่ยวที่ต่ำกว่าความเป็นจริง

ความเสี่ยงที่จะเกิด “Dutch Disease” ในแบบของไทย

“Dutch Disease” คือภาวะที่เศรษฐกิจพึ่งพารายได้บางอย่างมากเกินไปจนทำให้ค่าเงินแข็ง ส่งผลเสียต่อภาคผลิตและการส่งออก ในกรณีของไทย รายได้จากการท่องเที่ยวที่สูงขึ้น ราคาทองที่พุ่ง และเงินที่ไหลเข้ามาแบบไม่มีที่มา อาจทำให้เงินบาทแข็งต่อไปอีก และกระทบอุตสาหกรรมไทยในระยะยาว

แนวโน้มเงินบาทในอนาคตจะเป็นอย่างไร?

แม้ปัจจุบันเงินบาทดูจะแข็งขึ้น แต่ KKP Research คาดว่าในช่วงถัดไป โดยเฉพาะจากไตรมาส 2 เป็นต้นไป มีโอกาสสูงที่เงินบาทจะกลับมาอ่อนค่าจาก 3 ปัจจัยหลัก

  1. การท่องเที่ยวผ่านจุดพีคแล้ว: นักท่องเที่ยวมักมาไทยมากสุดในไตรมาสแรก แต่พอเข้าสู่ไตรมาส 2 ตัวเลขมักจะลดลง แถมยังมีเหตุแผ่นดินไหวกระทบความเชื่อมั่นอีก
  2. นโยบายดอกเบี้ยไทย: ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ซึ่งจะยิ่งทำให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อน
  3. นโยบายภาษีของสหรัฐฯ: การขึ้นภาษีนำเข้าในระยะสั้นจากฝั่งอเมริกาอาจกระทบการส่งออกของไทย

ในระยะยาว KKP ยังห่วงเรื่องศักยภาพในการแข่งขันของภาคส่งออกไทย เพราะการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าจะทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ (Shock Absorber) และช่วยให้การส่งออกไทยบางกลุ่มปรับตัวดีขึ้นแทนเหมือนช่วงหลังวิกฤติปี 1997 ที่เงินบาทอ่อนค่าลงและการส่งออกขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่หากพฤติกรรมของค่าเงินบาทไทยยังคงเหมือนในภาวะปัจจุบันที่แม้การส่งออกและท่องเที่ยวจะแย่ลงมากแต่เงินบาทกลับยังแข็งค่าตามปัจจัยต่างประเทศ จะยิ่งน่ากังวลมากขึ้นว่าภาคอุตสาหกรรมไทยอาจได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่าเดิม อาจทำให้ไทยฟื้นตัวยากขึ้น และกลายเป็นภาระต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

ที่มา : KKP Research

แชร์
เงินบาทเสี่ยง Dutch Disease เมื่อเงินบาทแข็งค่าผิดเวลา กระทบเศรษฐกิจ