Prada Group บรรลุข้อตกลงมูลค่า 1,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อแบรนด์ Versace จาก Capri Holdings กลุ่มบริษัทแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลกจากสหรัฐฯ โดยข้อตกลงในครั้งนี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญในวงการแฟชั่นของอิตาลีที่เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และประเด็นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
แม้ว่าข่าวลือเกี่ยวกับการเข้าซื้อแบรนด์ Versace ของ Prada Group จะมีมาอย่างยาวนาน แต่การบรรลุข้อตกลงในช่วงเวลานี้ก็ทำให้หลายฝ่ายจับตามองด้วยความกังวล ทั้งความต้องการสินค้าหรูที่กำลังอ่อนแอลง เนื่องจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่กดดันกำลังซื้อ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค รวมถึงนโยบายกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ยังไม่อาจคาดเดาผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของ Versace ที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลกได้
Patrizio Bertelli ประธานกรรมการและผู้อำนวยการบริหารของ Prada Group เปิดเผยในแถลงการณ์ของบริษัทว่า การต้อนรับแบรนด์ Versace สู่ Prada Group นั้น นับเป็นการแสดงจุดยืนด้านความคิดสร้างสรรค์ งานฝีมือ และมรดกทางวัฒนธรรมของอิตาลี ซึ่งแบรนด์ทั้งสองให้ความสำคัญเสมอมา และการผนึกกำลังกันในครั้งนี้ Prada Group จะเป็นผู้ลงทุนและกำลังสำคัญให้กับ Versace ได้เดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่ง
ผู้บริหารของ Prada Group ยอมรับว่ากลยุทธ์การลงทุนในครั้งนี้มีความท้าทายด้านทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รออยู่ แต่บริษัทก็มั่นใจว่าการเข้าซื้อแบรนด์ในครั้งนี้เป็นการขยายฐานลูกค้าที่คุ้มค่า เนื่องจากภาพลักษณ์และผลิตภัณฑ์ของ Versace ที่วิจิตรหรูหราและโดดเด่นด้วยโลโก้หัวเมดูซ่า จะไม่ทับซ้อนกับภาพลักษณ์ของ Prada ที่เรียบง่ายกว่า นอกจากนี้ การเข้าซื้อแบรนด์ Versace ยังนับเป็นโครงการระยะยาวที่มุ่งเน้นการเติบโตของรายได้ของ Prada Group และทำให้บริษัทสามารถแข่งขันได้มากขึ้นกับ LVMH กลุ่มบริษัทแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลกสัญชาติฝรั่งเศส
การปล่อยมือจาก Versace ของ Capri Holdings นับเป็นผลประโยชน์แบบผู้ชนะทั้งสองฝ่าย เนื่องจากผลการดำเนินงานของ Versace นับได้ว่าขาดทุนและเป็นภาระให้กับกลุ่มในช่วงระยะหลังมานี้ การเข้าซื้อของ Prada Group จึงเป็นเหมือนกับการปลดภาระให้กับ Capri Holdings เพื่อให้หันไปฟื้นฟูแบรนด์ในบ้านเกิดอย่าง Michael Kors ได้เต็มที่มากขึ้น
อ้างอิง: Reuters