มาตรการขึ้นภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นับเป็นชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ที่ทำให้เศรษฐกิจของโลกปั่นป่วน หลายประเทศหลายธุรกิจแทบเรียกได้ว่าต้องเข้าสู่โหมดฉุกเฉิน ไม่เว้นแม้แต่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้ขึ้นภาษีเสียเอง
นโยบายกำแพงภาษีที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงคนในประเทศเป็นเรื่องที่ประธานาธิบดีทรัมป์แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าในช่วงแรกนี้คนในชาติจะต้องเผชิญกับความยากลำบากจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อมั่นว่ามาตรการนี้จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะยาว และเป็นการฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทานในประเทศให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
ทางด้าน เอ็ด บาสเตียน ซีอีโอของ Delta สายการบินพาณิชย์สัญชาติอเมริกันที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลก ออกมาแสดงความเห็นว่านโยบายด้านการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปของประธานาธิบดีทรัมป์เป็น “แนวทางที่ผิด” และสิ่งนี้กำลังกดดันความต้องการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้ลดลง
ซีอีโอของ Delta ระบุว่าบริษัทจะไม่เพิ่มเที่ยวบินในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากยอดการจองตั๋วที่น่าผิดหวัง ขณะเดียวกัน บริษัทยังปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกลง เนื่องจากความต้องการเดินทางเพื่อธุรกิจ และเพื่อการพักผ่อนยังอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ สอดคล้องกับนักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทที่ปรับลดประมาณการรายได้ของสายการบินในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าอุปสงค์จะชะลอตัวลงเช่นกัน
ความคิดเห็นใหม่ของบาสเตียนสะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นในหมู่ซีอีโอเกี่ยวกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายบางส่วนของประธานาธิบดีทรัมป์ แม้ว่าก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 บาสเตียนจะเคยออกมาบอกว่าแนวทางของรัฐบาลทรัมป์จะเป็น “ลมหายใจแห่งความสดชื่น” ของอุตสาหกรรม
อ้างอิง: CNBC