เมื่อเช้านี้ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 4 ปีและตลอดทั้งปี 2567 ผลออกมาว่า
ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567
- รายได้ 48,685 ล้านบาท เติบโต 0.01%
- กำไร 10,494 ล้านบาท ลดลง 12.3%
รายได้ลดลงจากอัตราตอบแทนที่ลดลง ส่วนรายได้จากธุรกิจอื่น อย่างเช่น ประกัน เติบโตขึ้น
ส่วนกำไรที่ลดลงมาจากค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น และ ปัจจัยตามฤดูกาล
โครงสร้างรายได้ของ KBANK (ไตรมาส 4 ปี 2567)
- รายได้ดอกเบี้ย สัดส่วน 74.7%
- รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย 25.3%
ผลประกอบการทั้งปี 2567
- รายได้ 197,946 ล้านบาท เติบโต 2.8%
- กำไร 48,598 ล้านบาท เติบโต 14.6%
รายได้ทั้งปีเติบโตขึ้น สาเหตุมาจากอัตราผลตอบแทน และ ปริมาณการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้จากธุรกิจอื่น อย่างเช่น ธุรกิจจัดการกองทุน เติบโตขึ้นเช่นกัน
ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีจนเกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
โครงสร้างรายได้ของ KBANK (ปี 2567)
- รายได้ดอกเบี้ย สัดส่วน 75.5%
- รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย 24.5%
ด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทย คุณ ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลัก ๆ แล้วการเติบโตของมาจากภาคการท่องเที่ยว และ การส่งออกสินค้าเทคโนโลยี
ส่วนภาคการผลิต การลงทุน และการใช้จ่ายของครัวเรือนยังอ่อนแอ โดยเฉพาะกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นได้ไม่มากจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง
ส่วนในปี 2568 คุณ ขัตติยา มองว่า เศรษฐกิจไทยยังต้องเจอกับความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองในสหรัฐฯ ปัญหาด้านเศรษฐกิจของจีน ไปจนถึง ปัญหาในประเทศอย่าง ภาคการผลิต และ หนี้ครัวเรือนที่สูง
สรุปแล้วทั้งปี 2567 ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มีกำไรเติบโตขึ้นจากทั้งรายได้ที่เติบโต และ ต้นทุนที่ลดลง
แต่ถึงอย่างนั้น เช้านี้ราคาหุ้น KBANK กลับ -0.94% จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจไทยปีนี้