Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
FED คงดอกเบี้ยตามคาดแต่หั่น GDP สหรัฐฯเหลือ 1.7% ห่วงความไม่แน่นอนสูง
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

FED คงดอกเบี้ยตามคาดแต่หั่น GDP สหรัฐฯเหลือ 1.7% ห่วงความไม่แน่นอนสูง

20 มี.ค. 68
11:57 น.
|
135
แชร์

การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือ FOMC  มีมติคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับเดิมคือ 4.25 ถึง 4.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ในการประชุมรอบนี้มีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง จึงทำให้ Fed ตัดสินใจลดการดึงวงเงินกลับเพื่อหวังเป็นเครื่องมือในการดูแลเศรษฐกิจสหรัฐจากนี้ไป

ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ลดการดึงเงินกลับห่วงเศรษฐกิจ 

โดย FED ส่งสัญญาณที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปี 2025 ซึ่งน่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีจะอยู่ที่ราว 3.9% ส่วนในปี 2026 ยังคงแผนลดดอกเบี้ยอีกสองครั้ง ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ราว 3.4%  ขณะที่ปี 2027 มีแผนลดดอกเบี้ยหนึ่งครั้ง คือ 3.1% ซึ่งแผนการลดดอกเบี้ยนี้ยังคงเดิม

ในการประชุมครั้งนี้คณะกรรมการที่ออกเสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยได้แก่ เจอโรม เอช. พาวเวลล์ (ประธาน), จอห์น ซี. วิลเลียมส์ (รองประธาน), ไมเคิล เอส. บาร์, มิเชล ดับเบิลยู. โบว์แมน, ซูซาน เอ็ม. คอลลินส์, ลิซา ดี. คุก, ออสตัน ดี. กูลส์บี, ฟิลิป เอ็น. เจฟเฟอร์สัน, อาเดรียนา ดี. คูเกลอร์, อัลเบอร์โต จี. มูซาเลม และ เจฟฟรีย์ อาร์.ชมิด

ผู้ที่ลงมติคัดค้านมาตรการดังกล่าวคือ คริสโตเฟอร์ เจ. วอลเลอร์ ซึ่งสนับสนุนให้คงช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม แต่ต้องการให้ธนาคารกลางเดินหน้าลดการถือครองหลักทรัพย์ในอัตราเดิมต่อไป

ขณะเดียวกันมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐเสร็จมีมุมมองว่า อยู่ในสถานการณ์ความไม่แน่นอนหรือใช้คำว่า So Highly Uncertain จึงทำให้ FED ตัดสินใจชะลอการดึงเงินกลับ หรือชะลอการทำ QT - Quantitative Tightening จากเดิม 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน  ด้วยการทยอยลดการถือครองพันธบัตร โดยจะอนุญาตให้มีการไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดที่ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน ลดลงจากระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ยังคงเพดานการไถ่ถอนหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (MBS) ที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นก็มาจากแนวนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังห้ำหั่นในการทำสงครามการค้าอย่างดุเดือดซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเช่นกัน โดย FED มองว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะอยู่ที่ 2.8% ส่วน GDP ของสหรัฐครั้งนี้ถูกประเมินลดลงจากการประเมินครั้งก่อนหน้านี้ เหลือเติบโตเพียงแค่ 1.7% จากเดิมเคยคาดไว้เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนคาดว่า GDP จะโตได้ 2.1% ในปี 2025  ส่วนจีดีพีสหรัฐในปี 2026 และ 2027 GDP จะอยู่ที่ 1.8%

ผลประชุม FED 18-19 มีนาคม 2568

ตลาดหุ้นสหรัฐฯตอบรับในเชิงบวก 

ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดที่ 41,964.63 จุด เพิ่มขึ้น 383.32 จุด หรือ +0.92%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,675.29 จุด เพิ่มขึ้น 60.63 จุด หรือ +1.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,750.79 จุด เพิ่มขึ้น 246.67 จุด หรือ +1.41%

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้หุ้นไทยเปิดบวกเล็กน้อย ดัชนีเปิดภาคเช้าที่ 1,192.28 จุด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,425.22 จุด ลดลง 1.21 จุด หรือ -0.04% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 24,753.15 จุด ลดลง 17.99 จุด หรือ -0.07% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้

แชร์
FED คงดอกเบี้ยตามคาดแต่หั่น GDP สหรัฐฯเหลือ 1.7% ห่วงความไม่แน่นอนสูง