แนวโน้มราคาทอง อาจลงทดสอบ $2,855
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
หลัง ทรัมป์ ยืนยันผ่าน Truth Social ว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตามกำหนดเดิม และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10%
โดยทั้งสองมาตรการจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มีนาคมนี้ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจและภาคการผลิตของสหรัฐฯ แต่ราคาทองโลกยังคงไม่ได้ตอบรับเชิงบวกต่อปัจจัยนี้มากนัก
ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากที่ตลาดอาจคาดหวังว่าอาจมีข่าวดีในช่วงท้ายสัปดาห์ หากการเจรจาข้อตกลงระหว่างรัสเซียและยูเครน สามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดสรรแร่หายากในยูเครน ที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ได้จริง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการเผย ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนม.ค. และดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนก.พ.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกที่ปรับตัวลงมา หากยังไม่สามารถขึ้นไปซื้อขายเหนือระดับ 2,890 ดอลลาร์ได้ จะยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงต่อไป โดยประเมินว่าหากมีการขึ้นทดสอบแนวต้านดังกล่าวอีกครั้ง ยังแนะนำแบ่งขายทำกำไรก่อนเช่นเดิม
แนวโน้มราคาทอง ลงทดสอบแนวรับ
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
หลังจาก ปธน.ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหารเพื่อสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาความเป็นไปได้ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดง โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูการผลิตทองแดงในสหรัฐฯ แต่ราคาทองโลกไม่ได้ตอบรับข่าวดังกล่าวมากนัก แม้ช่วงก่อนหน้าจะสามารถขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้เหนือระดับ 2,950 ดอลลาร์ โดยในวันนี้จะเป็นวันที่ 2 ของการประชุม G20 Meeting
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
วันนี้จะมีการเผยตัวเลข Prelim GDP ซึ่งเป็นการรายงานตัวเลข GDP ของไตรมาส 4 ปี 67 ของสหรัฐฯ ครั้งที่ 2, ยอดสั่งซื้อคงทน และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการณ์ว่างงาน
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกที่ปรับตัวลงมา สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นได้อีกครั้ง จึงประเมินว่าอาจฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 2,930 ดอลลาร์อีกครั้ง และอาจยังไม่สามารถผ่านได้เช่นเดิม
แนวโน้มราคาทองขึ้นทดสอบแนวต้าน
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
แม้ราคาทองคำโลกได้แรงหนุน หลัง ทรัมป์ จะออกมากล่าวยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก หลังสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันเป็นเวลา 30 วันแล้ว และการเข้าซื้อทองจากกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเพิ่มการถือครองสู่ระดับ 904.38 ตัน ในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยในวันนี้จะเป็นวันที่มีการประชุม G20 Meeting เริ่มขึ้นวันแรก ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาในตลาดโลกยังคงผันผวนต่อเนื่อง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
วันนี้จะเป็นวันที่การประชุม G20 Meeting เริมขึ้นเป็นวันแรก ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดี
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกที่ปรับตัวลงมา สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นได้ จึงประเมินว่าอาจฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 2,940 ดอลลาร์อีกครั้ง และอาจยังไม่สามารถผ่านได้เช่นเดิม
แนวโน้มราคาทองอาจย่อตัวจากแรงขาย
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำโลกได้แรงหนุน หลังมีรายงานการเข้าถือครองทองคำของกองทุน SPDR Gold Trust โดยเพิ่มการถือครองสู่ระดับ 904.38 ตัน ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 สะท้อนให้เห็นความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ รวมถึงการเมืองโลก ล่าสุดการเลือกตั้งในเยอรมนีพึ่งผ่านพ้นไป หลังมีการเลือกตั้งดังกล่าวขึ้นในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมสามารถคว้าชัยได้ 208 ที่นั่ง ซึ่งต้องจัดตั้งเป็นรัฐบาลผสม จึงอาจส่งผลต่อความเด็ดขาดในการดำเนินนโยบายๆ และอาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นยุโรป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนม.ค. (m/m)
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ราคาทองโลกจะเดินหน้าทำจุดสูงสุดได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องสลับกับแรงขาย ที่ต้องเผชิญเป็นระยะๆ ตามระดับของแนวต้าน และระดับ Indicator ต่างๆที่บ่งชี้ว่า ราคาทองคำ อาจเริ่มเข้าสู่จุดที่มีการซื้อมากเกินไปแล้ว (Overbought) จึงประเมินว่าราคาอาจมีการพักตัว ซึ่งราคาในระดับปัจจุบันก็อยู่ในระดับสูงแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับในปีก่อนหน้า
แนวโน้มราคาทองปรับตัวลง
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำเดินหน้าทำ All-time high และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 จากปัจจัยหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า และความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้าสินค้าของทรัมป์ นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 41.32 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนม.ค. (m/m)
วิเคราะห์ราคาทอง
มีสัญญาณการย่อตัวลงของราคาทองคำ จากสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ซึ่ง MACD เริ่มชะลอตัวลง คาดว่าระยะสั้นราคาทองคำอาจปรับตัวลง โดยราคาทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 2,900 ดอลลาร์ ซึ่งต้องจับตาดูแนวรับสำคัญดังกล่าว แต่หากหลุดแนวรับดังกล่าวลงไปได้ อาจมีแรงเทขายลงมาแรง
แนวโน้มราคาทองปรับตัวขึ้น แต่ระวังเข้าซื้อ
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high จากปัจจัยหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทรัมป์ได้ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ ยา ไม้ และสินค้าอื่น ๆ โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ขู่เรียกเก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และยา และอาจมีการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งอาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่ประเทศคู่ค้าหลักอาจตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีเช่นกัน นำไปสู่ความเสี่ยงด้านสงครามการค้า
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.3 และ 53.0 ตามลำดับ นอกจากนี้ติดตามยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ของม.มิชิแกน
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังจากที่ราคาทองคำทำ All-time high ใน่ช่วงกลางวัน ก็เกิดแรงเทขายออกมาแรงในช่วงกลางคืน ก่อนจะเริ่มมีแรงซื้อกลับอีกครั้ง ซึ่งราคาทองคำค่อนข้างมีความผันผวน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นระยะนี้ แต่สวนทางกับสัญญาณทางเทคนิค โดย MACD เริ่มชะลอตัวลง ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เริ่มอ่อนแรง จึงระวังในการเข้าซื้อในช่วงนี้ เนื่องจากระดับความเสี่ยงที่สูงขึ้น
แนวโน้มราคาทอง ชะลอการปรับตัวขึ้น
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำทำ All-time high ที่ 2,946 ดอลลาร์ ก่อนเกิดแรงเทขายออกมา ทำให้ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากความกังวลเรื่องสงครามการค้า ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์และยาในอัตรา 25% ส่วนการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดสะท้อนเฟดเป็นห่วงเงินเฟ้อไม่ลดลงสู่เป้าหมาย 2% รวมถึง UBS ปรับเป้าหมายราคาทองคำสิ้นปีนี้ที่ 3,200 ดอลลาร์ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 8.04 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2,000 รายสู่ระดับ 215,000 ราย นอกจากนี้ติดตามดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนก.พ. และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนม.ค. โดย conference Board
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามปัจจัยFundamental เป็นหลัก โดยเฉพาะความกังวลเรื่องสงครามการค้า แม้ว่าสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD จะเริ่มชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำเริ่มชะลอการปรับตัวขึ้น การทำจุดสูงสุดใหม่ (High) สูงกว่าจุดเดิมเพียงเล็กน้อย บ่งชี้ถึงโมเมนตัมที่อ่อนแรง คาดว่าราคาทองคำจะเริ่มชะลอการปรับตัวขึ้น แนะนำ Wait & See
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้น จากนักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนม.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 1.46 ล้านยูนิต และ 1.39 ล้านยูนิต ตามลำดับ
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดราคาทองคำอาจเริ่มชะลอการปรับตัวขึ้น และเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง ยังคงให้ระวังแรงเทขายออกมา อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว แต่ระยะสั้นให้ระวังการปรับฐาน โดยมีแนวต้านที่ 2,942 ดอลลาร์ และแนวรับ 2,915 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทองระยะสั้นอาจปรับตัวลง
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้นเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังจับตา 2 ประเด็น ได้แก่ นโยบายการทำสงครามการค้าของสหรัฐ และประเด็นที่สหรัฐกับรัสเซียเตรียมจัดการประชุมที่ซาอุดีอาระเบีย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างปูตินและทรัมป์ เพื่อยุติสงครามยูเครน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.1 จากที่ลดลง 12.6 ในเดือนม.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้มีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่คาดว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับฐาน หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นร้อนแรงในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic เกิดเส้นตัดกันลงมา จึงอาจยังทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงในระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองระยะสั้นอาจปรับตัวลง
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 จากปัจจัยหนุนจากสงครามการค้า หลังทรัมป์เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศที่เก็บภาษีกับสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยลบจากเงินเฟ้อ CPI เดือนม.ค. สูงกว่าคาด ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 5.44 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนม.ค. ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนก.พ. ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ. นอกจากนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
วิเคราะห์ราคาทอง
มีแรงเทขายทำกำไรออกมาแรงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ทำให้สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD เริ่มลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแรงซื้อเริ่มลดลง แต่ยังคงอยู่ในโซนบวก ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic เริ่มเกิดเส้นตัดกันลงมา ระยะสั้นราคาทองคำอาจมีแนวโน้มปรับตัวลง
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำโลก ย่อตัวลงเล็กน้อยหลังคืนวานนี้สหรัฐเผยดัชนี CPI ซึ่งเร่งตัวสูงขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจชะลอแผนการปรับลดดอกเบี้ยออกไป สอดคล้องกับที่ประธานเฟดแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ 11 ก.พ. ขณะที่นโยบายภาษีของ ทรัมป์ ยังคงสร้างความกังวลถึงผลกระทบให้แก่ตลาดโดยรวม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะมีการเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ในช่วงเวลา 20.30 น.
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ราคาทองโลกจะปรับตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่เช้านี้กำลังทดสอบแนวต้านที่ 2,910 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านได้อาจขึ้นทดสอบ 2,922 และ 2,940 ดอลลาร์ต่อไป อย่างไรก็ตามให้รอดูการทดสอบแนวต้านดังกล่าวในช่วงเช้านี้ก่อน
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำโลก ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ โดยราคาทองโลกสามารถทะลุระดับ 2,900 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากนักลงทุนที่หน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านนโยบายภาษีระลอกใหม่ของ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ รวมถึงความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงคอยหนุนราคา ประกอบกับตลาดยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนในยุโรป รวมถึงการเลือกตั้งในเยอรมนี ในวันที่ 23 ก.พ. นี้ด้วย ขณะที่กองทุน SPDR ซื้อทองเพิ่มเติม 4.3 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ แต่จะมีการขึ้นกล่าวแถลงการณ์จากประธานเฟด ต่อหน้าวุฒิสภา ในช่วง 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังจากที่ทะลุระดับ 2,880 ดอลลาร์ขึ้นมา แนวโน้มราคาทองคำกลับมาอยู่ในขาขึ้นที่แข็งแกร่ง หากวัดเป้าหมายราคาจากระดับฟีโบนัชชี (Fibonacci) จะมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 2,937 และ 2,965 ตามลำดับ
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำทำ All-time high จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจีนตอบโต้สหรัฐกลับ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ขณะที่สงครามการค้าอาจขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนที่จะประกาศมาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศในสัปดาห์นี้ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 3.73 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
แนวโน้มราคาทองคำยังคงขาขึ้น โดยราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลายเส้น บ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตาม สัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าราคาทองคำอาจมีการปรับฐานในระยะสั้น ขณะที่เกิดแท่งเทียนที่มีไส้ด้านบนยาว สะท้อนแรงขายที่เกิดขึ้น จึงยังคงให้ระวังแรงขาย
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองคำมีแรงเทขายทำกำไรออกมา หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงหลายวันติดต่อกัน แม้สกุลเงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลง
หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 219,000 ราย และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานสหรัฐคืนนี้ รวมถึงยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งล่าสุดปธน.ทรัมป์ไม่รีบร้อนที่จะพูดคุยกับผู้นำจีน
ทำให้สถานการณ์อาจยังไม่ได้คลี่คลายในเร็ววัน ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. อัตราการว่างงานเดือนม.ค. ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น)
วิเคราะห์ราคาทอง
มีแรงเทขายทำกำไร แต่ก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามา และยังไม่มีสัญญาณกลับตัว แม้ Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought ขณะที่ MACD Histogram ยังเป็นบวก แต่ถ้าหาก Histogram เริ่มลดลง อาจเป็นสัญญาณว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น (Uptrend) แต่ให้ระวังแรงเทขายทำกำไร
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high เป็นวันที่ 5 แม้จะมีความผันผวนเกิดขึ้นบ้าง นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จึงยังหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนม.ค. ของ ADP เพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาด ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 1.14 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7,000 รายสู่ระดับ 214,000 ราย
วิเคราะห์ราคาทอง
แท่งเทียนล่าสุดเป็นแท่งเขียวที่ปิดใกล้ระดับสูงสุดของวัน และมีการสร้างจุดสูงสุดใหม่ (New High) บ่งชี้แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD โดย Histogram เป็นบวก และเส้น MACD สูงขึ้น บ่งชี้โมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่สัญญาณจาก Modified Stochastic เข้าสู่ภาวะ Overbought ให้ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ตอบโต้สหรัฐ ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 2.58 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนม.ค. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 122,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ติดตามดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. โดย ISM
วิเคราะห์ราคาทอง
ทองคำยังคงมีแรงซื้ออย่างแข็งแกร่ง ดันราคาทองคำให้ยก High และ Low อย่างต่อเนื่อง และราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวเหนือราคาปิดวันก่อนหน้า ทำให้ทิศทางของราคาทองคำยังคงสดใส คาดว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high ที่ 2,830 ดอลลาร์ เนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบายเก็บภาษีสินค้านำเข้าของทรัมป์ หนุนแรงซื้อทองคำ โดยล่าสุดทรัมป์ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 25% ออกไปอีก 1 เดือน แม้ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.โดย ISM ดีกว่าคาดก็ตาม ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 0.86 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ 8.01 ล้านตำแหน่งจาก 8.10 ล้านตำแหน่ง และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.7% จากที่ลดลง 0.4% ในเดือนพ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำค่อนข้างผันผวน มีแรงเทขายออกมาแรง ก็มีแรงซื้อกลับอย่างแข็งแกร่งดันราคาทองคำ All-Time High ใหม่ ซึ่งคาดว่าวันนี้ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นต่อ แต่อาจเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง
แนวโน้มราคาทอง แรงเทขายทำกำไร
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high ที่ 2,817 ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลนโยบายภาษีของทรัมป์ ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดอัตราภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา และ 10% สำหรับสินค้าจากจีน รวมถึงการขาดแคลนทองคำในลอนดอน อาจลุกลามไปฮ่องกง สิงคโปร์ จากขนส่งทองคำไปสหรัฐเป็นจำนวนมาก ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 4.6 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขการจ้างงาน ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนม.ค. ของ ADP การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. นอกจากนี้ติดตามดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. โดย ISM และอัตราการว่างงานเดือนม.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้าง หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high ทั้งนี้คาดว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงเล็กน้อยมาสู่ระดับ 2,770-2,780 ดอลลาร์ เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคใน timeframe 60-120 นาที เกิด Bearish MACD