อีวี ไพรมัส ขยายตลาด EV ไทย ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ย้ายโรงงานผลิตไปชลบุรี

บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เดินหน้าแผนธุรกิจขยายตลาดยานยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ วู่หลิง เต็มรูปแบบ ชูแผนย้ายโรงงานผลิตจากเดิมที่จังหวัดสุพรรณบุรี ไปปักหมุดที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี พร้อมลุยตลาดทั้งขายและเช่า เล็งส่งรถอีวีเพื่อพาณิชย์บุกตลาดหวังชิงส่วนแบ่งรถอีโคคาร์ ในไทย

คอนเทนต์แนะนำ

ตร.บุกตรวจร้านเกษตร จ้าง “แบงค์ เลสเตอร์” ร่วมงาน ก่อนซดเหล้าดับ

“เต้น ณัฐวุฒิ” พร้อมญาติคนตายในการชุมนุม 53 ยื่น DSI ทวงความยุติธรรม

ศาลเรียก "กระติก" เบิกความคดีแตงโม "แซน" ไร้กังวลหลักฐานเด็ดรื้อคดี

อีวี ไพรมัส ขยายตลาด EV ไทย ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ย้ายโรงงานผลิตไปชลบุรี

นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด   ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ VOLT และ WULING (วู่หลิง) ในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 200 ล้านบาท  เดินหน้าแผนธุรกิจขยายตลาด EV เต็มรูปแบบ 

โดยตัดสินใจย้ายโรงงานผลิตจากเดิมที่จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีพื้นที่ขนาด 80 กว่าไร่ ไปปักหมุดที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี  เหตุที่เลือกนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังเพราะเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมในประเทศไทย 

ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ ขนาด 5 ไร่ ส่วนโรงงานประกอบมีพื้นที่ 10,000 ตร.ม. ใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท และสามารถรองรับกำลังการผลิต 6,000 คันต่อปี ด้านการขึ้นไลน์ประกอบ จะมีทีมงานจากบริษัทแม่ประเทศจีนมาดูแลอย่างใกล้ชิด

เดินเครื่องผลิตรถยนต์ไฟฟ้า WULING ในไทยภายในเดือนมีนาคม 2567

สำหรับ WULING เป็นแบรนด์รถยนต์ขนาดเล็กสัญชาติจีน ซึ่งไลน์ผลิตสามารถติดตั้งและใช้งานได้อย่างรวดเร็ว คาดว่า WULING AIR จะเป็นโมเดลแรกจะออกสู่ตลาดก่อนภายในเดือนมีนาคมปี 2567 

ในช่วงไตรมาส 2 จึงจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อีกอย่างน้อย 2 รุ่น ได้แก่ WULING BINGO และรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ VOLT 

บริษัทตั้งเป้าว่า ภายใน 3-4 ปีจากนี้ จะสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อีโคคาร์ในประเทศไทยได้ 10-15% หรือคิดเป็นรถอีวีประมาณ 8,000-10,000 คัน จากตลาดอีโคคาร์ที่มีประมาณ 80,000 คันต่อปี 

เดินหน้าพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า มุ่งสู่องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากตั้งเป้าแย่งส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อีโคคาร์ในประเทศไทย ทางบริษัทได้ประกาศเดินหน้าพัฒนาใน 3 ธุรกิจหลัก เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่

• ธุรกิจประกอบและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า (EV Distribution) 
• ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าสำหรับบุคคลทั่วไปและนักท่องเที่ยว (EV B2C Solution) 
• ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์สำหรับลูกค้าแบบธุรกิจ (EV B2B Solution)

สำหรับธุรกิจให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (EV B2B Solution) บริษัทมีแผนให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์แบบครบวงจร พร้อมระบบ Battery Swap ที่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จไฟ ช่วยลดต้นทุนการขนส่งของธุรกิจลงได้อย่างมาก 

นอกจากนี้ บริษัทยังจับมือกับ Lesso Group ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ และชุด Power Storage ติดตั้งในโรงงานหรือที่จอดรถ เพื่อชาร์จไฟให้รถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานและลดต้นทุนค่าขนส่งให้ธุรกิจได้อีกด้วย

“เราจะเป็นผู้ขายโซลูชั่นด้วยการปฏิวัติวงการขนส่งในสเต็ปต่อไป ดังนั้น มีโอกาสจะได้เห็นรถยนต์เชิงพาณิชย์แบบ 4 และ 6 ล้ออีวีจากเราได้ ถ้าตามแผนงานอย่างเร็วก็ราว ๆ กลางปี 2567 และเรากำลังจะทำเอ็มโอยูกับบริษัทอีคอมเมิร์ซสำหรับแบรนด์ใหม่นี้ด้วย” 

การเดินหน้าพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ บริษัทมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน  

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด

นายสุรพล สุประดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยว่า เติบโตแบบก้าวกระโดด ปัจจัยหลักมาจากนโยบายสนับสนุนการเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล รวมถึงการลงทุนของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนหลายค่าย ทำให้ประชาชนมั่นใจและเลือกใช้รถอีวีมากขึ้น

ความเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะส่งผลดีต่อ Supply Chain ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้น ทั้งการลงทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า และสถานีชาร์จไฟฟ้า ส่งผลให้เกิดการจ้างงานและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ