สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ขณะนี้ทางการจีนอยู่ระหว่างการพิจารณาหามาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้นที่อยู่ในภาวะตกต่ำ โดยอ้างแหล่งข่าวจากผู้กำหนดนโยบาย เผยว่า อยู่ระหว่างหาทางระดมเงินทุนเพื่อเข้าอัดฉีดตลาดหุ้นจีนประมาณ 2 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 278.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านบัญชีนอกอาณาเขตของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนรักษาเสถียรภาพ เพื่อซื้อหุ้นในประเทศฮ่องกงผ่าน exchange link
ในเรื่องนี้สำนักข่าวรอยเตอร์เองได้มีการสอบถามไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีนไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อข่าวดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ดัชนีหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นทันที และค่อยปรับลดลงในภายหลัง ซึ่งข่าวนี้ได้เกิดขึ้นภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่มีการระบุว่า จะยกระดับการอัดฉีดกองทุนระยะกล่งและระยะยาวในตลาดทุน เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพ
โดย Aninda Mitra หัวหน้าฝ่ายมหภาคเอเชียและกลยุทธ์การลงทุนของ BNY Mellon Investment Management เผยว่า “มาตรการดังกล่าวออกมาถือเป็นเรื่องที่ดี แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองที่เพิ่มขึ้นของทางการจีน แต่ต่ำกว่า 2% ของ GDP เกรงว่าจะไม่เพียงพอ”
ด้านผู้จัดการการเงินทั่วโลก ที่เป็นผู้ขายหุ้นจีนในช่วงที่การฟื้นตัว ระบุว่า คงจะต้องใช้เวลานานหรือมาตรการกระตุ้นหรือชดเชยภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งครั้งหนึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจ หรือให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ
แต่จนถึงขณะนี้กองทุนต่างประเทศขายหุ้นจีนได้ประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยหลักๆ มาจากกองทุนยุโรป และฮ่องกง มอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวในรายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่นักลงทุนจีนก็เลี่ยงหุ้นเช่นกัน
โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ยังรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่จีนได้จัดสรรเงินทุนท้องถิ่นอย่างน้อย 300 พันล้านหยวน เพื่อลงทุนในหุ้นในประเทศผ่านทาง China Securities Finance หรือ Central Huijin Investment และกำลังพิจารณาทางเลือกอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งบางตัวเลือกอาจประกาศทันทีในสัปดาห์นี้ หากได้รับการอนุมัติจากผู้นำระดับสูง
ที่มา : สำนักข่าวบลูมเบิร์ก สำนักข่าวรอยเตอร์