ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ 3 ที่กำลังมี โครงการ “THE STANDARD RESIDENCES” โครงการที่พักอาศัยรูปแบบ branded residences รองจาก The Standard Residences, Midtown Miami (ราคาแพงสุด 35 ล้านบาท) และ
The Standard Residences, Palácio Santa Clara ประเทศโปรตุเกส (ราคาแพงสุด 78 ล้านบาท ภายใต้กับจับมือของ 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่แห่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ นั้นก็คือ
ปักหมุดทำเลทองใจกลางจังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิตของไทย อย่างหัวหิน และภูเก็ต กับ 2 โครงการบ้านพักตากอากาศสุดหรูมูลค่ารวมกว่า 8,500 ล้านบาท
โครงการ branded residences แห่งแรกในเอเชียนี้ อยู่ในทำเลบีชฟร้อนท์สุด Rare บนชายหาดหัวหินพร้อมกับexperience facilities ระดับเวิลด์คลาส
พาร์ทเนอร์ : บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
มูลค่าโครงการ : 4,500 ล้านบาท บนที่ดิน 9ไร่
ราคาเริ่มต้น : 8.99 - 100 ล้านบาท
จํานวนห้องพัก : 245 ห้อง ( มี pool villa ติดทะเล เพียงเเค่ 2 ห้อง 215 ตรม. และ 238 ตรม)
เปิดห้องตัวอย่างให้ดูครั้งเเรก : 23 มี.ค. 2024
เปิดขายครั้งเเรก : 1-5 พ.ค. 2024
ตั้งเป้าลูกค้าต่างชาติ 30% (จีน,รัสเซีย,ยุโรป,อาเซียน)
The Standard Residence PHUKET BANG TAO ตอบโจทย์ความลักซ์ชัวรี่ super low density
พาร์ทเนอร์ : บริษัท ซีจี แคปปิตอล จำกัด
มูลค่าโครงการ : 4,000 ล้านบาท บนที่ดิน 12 ไร่
ราคาเริ่มต้น : 11.9 ล้านบาท - 18 ล้าน
จํานวนห้องพัก : 188 ห้อง (มาเเบบ fully furnished ทุกห้อง)
ทำเล : ย่านบางเทา (ทำเลไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ของภูเก็ต เปรียบเสมือนย่านทองหล่อ)
เปิดขายครั้งเเรก (รอบ VIP) : 9 มี.ค. 2024
เปิดขายครั้งเเรก : ก่อนสงกรานต์ เม.ย. 2024
ตั้งเป้าลูกค้า เกิน 50% เป็นคนไทย
ประจวบคีรีขันธ์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวไทยและต่างชาติเทียบชั้นเมืองตากอากาศระดับโลก จนถูกจัดอันดับเป็น Wolrd Class City of Relaxation ด้านWellness & Medical Tourism Hub และยังพบว่าเป็นอีกในจังหวัดยอดนิยมของคนไทยที่ซื้อ Second Home นอกเหนือจากบ้านแรก
ทำให้ปี 61 ประจวบคีรีขันธ์ มีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนถึง 42,987 ล้านบาทและกลายเป็นแหล่งคอมมูนิตี้ของนักท่องเที่ยวกลุ่มLuxury Tourists ที่มีกำลังซื้อสูง (affluent community) อีกทั้งยังมีนโยบายจากทางภาครัฐที่เพิ่มโอกาสศักยภาพการลงทุกจากกลุ่มธุรกิจต่างชาติ เช่น
ภูเก็ต จังหวัดในประเทศไทยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความสวยงามติดระดับโลก จนถูกขนานนามว่าไขมุกแห่งอันดามัน จนใครๆก็อยากมาเห็นด้วยตาของตน (World Class Tourist Destination)
ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุดในโลกภาครัฐจึงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยการยกระดับระบบสาธารณูปโภคเช่นโครงการทางด่วน 2 สาย โครงการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตเฟส 3 การเพิ่มรางรถไฟและศูนย์สุขภาพและโรงพยาบาลระดับนานาชาติรองรับความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีจากนักลงทุนจากเอเชียและยุโรป ไม่ว่าจะเป็น เพื่ออยู่อาศัย ให้เช่า และการลงทุน
ทำให้ปี 61 ภูเก็ต มีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนถึง 477,324 ล้านบาท และล่าสุดยังถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุดในโลก และยังมีนโยบายจากทางภาครัฐที่เกื้อหนุนยกระดับระบบสาธารณูปโภคเช่น
หัวหิน-ภูเก็ต จึงยังเป็น 2 ทำเลทองที่เต็มไปด้วยโอกาสของผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย หรือ ต่างชาติ ยังคงมีกำลังซื้อและความต้องการสูงอยู่