ปัจจุบัน ราคาทองคำยังสามารถรักษาการเคลื่อนไหวในระดับสูงไว้ได้ และมีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้ว่ามีความเป็นไปได้ต่อการได้รับแรงกดดันเพิ่มมากขึ้น จากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยืดระยะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป รวมไปถึงอาจลดขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เหลือเพียง 2 ครั้ง หรือต่ำกว่า อันเป็นผลให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีแรงหนุนต่อการทรงตัวอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ดี จากเอกสารผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) รอบเดือนธ.ค. และม.ค. ที่ผ่านมา มีการระบุชัดถึงการสิ้นสุดวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ก้าวต่อไปนโยบายการเงินของเฟดนั้น ยังคงเป็นไปในทิศทางการลดระดับอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น ประเด็นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จึงมีแนวโน้มสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำเพียงระดับหนึ่ง
นอกจากประเด็นอัตราดอกเบี้ยของเฟดแล้ว การคว้าชนะการเลือกตั้งในสมัยที่ 5 ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำสูงสุดของรัฐเซีย ที่จะกลายเป็นผู้ครองอำนาจยาวนานที่สุดในรอบ 200 ปี นับเป็นอีกสถานการณ์ที่ส่งเสริมนักลงทุนยังคงมีการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
การคว้าชัยชนะในรอบนี้ของปูติน ได้รับคะแนนเสียงในสัดส่วนสูงถึง 87% จากการลงคะแนนเสียงทั้งหมดของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งถือว่าได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นกว่า 10% จากการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2018 อย่างไรก็ดี ในความจริงแล้ว การเลือกตั้งในรัฐเซียไม่ได้มีอะไรให้น่าลุ้นมากนัก เพราะปูตินผูกขาดต่ออำนาจในการปกครองรัฐเซียมาอย่างยาวนาน รัฐเซียจึงไม่ต่างจากการเป็นรัฐเผด็จการ ตามความเข้าใจของผู้คนทั่วไป
ดังนั้น การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในรัฐเซีย จึงไม่ใช่กระบวนการสรรหาตัวแทนของประชาชน ดังเช่นที่เกิดขึ้นในประเทศที่ปกครองด้วยรูปแบบประชาธิปไตยแห่งอื่น แต่กลายเป็นเครื่องมือที่เอาไว้สะท้อนความเชื่อมั่นต่อผู้นำหรือปูติน ทำให้การได้รับคะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้นตามที่กล่าวไปก่อนหน้า จึงนับว่ามีความสำคัญต่อการดำเนินการด้านการทหารของรัฐเซีย
ด้านศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยุทธศาสตร์ทหาร และความมั่นคง ให้ความเห็นกับทางสำนักข่าว เดอะสแตนดาร์ด ต่อประเด็นดังกล่าว ในลักษณะที่ว่า การเลือกตั้งรัสเซียรอบนี้ มีการผูกเงื่อนไขของความชอบธรรมในการก่อสงคราม โดยเป็นการยืนยันว่ารัสเซียยังต้องทำสงครามต่อไป เพราะถ้าปูตินไม่ชนะเลือกตั้งเท่ากับว่านโยบายทำสงครามกับยูเครน คือ ‘ความผิดพลาด’
อีกทั้งชัยชนะของปูตินยังถือเป็นเรื่องน่ายินดี สำหรับผู้นำในประเทศที่มีความขัดแย้งกับสหรัฐและพันธมิตรชาติตะวันตก โดยเฉพาะจีน หรืออาจกล่าวได้ว่า ชัยชนะดังกล่าวของปูติน ถือเป็นการรักษาความเข้มแข็งของขั้วอำนาจฝ่ายตรงข้ามสหรัฐและพันธมิตรฯ ซึ่งมีนัยต่อแนวโน้มการยกระดับความตึงเครียดในประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ของโลก
ด้วยความเสี่ยงของการเกิดความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นนั้น ทำให้การคว้าชัยชนะของปูตินครั้งนี้ อาจนับเป็นปัจจัยที่มีส่วนส่งเสริมให้เกิดการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทั้งจากนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่างธนาคารกลาง ส่งผลให้ราคาทองคำยังมีปัจจัยหนุนให้สามารถรักษาระดับการเคลื่อนไหวต่อไปได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท YLG Bullion And Future จำกัด