Bitget แพลตฟอร์ม Exchange ระดับโลกประกาศรับเหรียญ KUB ครั้งแรกของไทย ที่เหรียญที่ใช้งานภายในเครือข่ายบล็อกเชนของ บิทคับ เข้าเทรดบนกระดานระดับโลก เริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2567 พร้อมประกาศยุทธศาสตร์สนับสนุนโปรเจกต์ที่มีศักยภาพในโลกของ Web3 อย่างเต็มตัวไม่ว่าจะอยู่ในภูมิภาคใดของโลก
นายวูการ์ อดิโกซาลอฟ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ Bitget กล่าวว่า Bitget ประกาศรับเหรียญ KUB ซึงเป็นเหรียญที่ใช้งานภายในเครือข่ายบล็อกเชนของ บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี เข้าซื้อขายตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitget รับเหรียญจากบริษัทด้านบล็อกเชนจากประเทศไทย
ด้วยแผนงานของ บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี ที่ต้องการขยายเครือข่าย Bitkub Chain ทั้ง NFT, DeFi, และ Metaverse ไปสู่ระดับภูมิภาคตลอดจนระดับโลก การที่ Bitget เปิดรับเหรียญ KUB ให้เข้ามาซื้อขายถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าของ Bitget ที่มีรวมกว่า 20 ล้านคนทั่วโลกและโปรดักต์ทางด้านบล็อกเชนที่หลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับการสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยี Web3 จาก Bitget ที่จะช่วยต่อยอดการใช้งานบล็อกเชนและเหรียญตลอดจน NFT ของผู้ลิสต์เหรียญให้มีฐานผู้ใช้งานที่กว้างขึ้น โดยล่าสุดยังได้เปิดตัว Bitget Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ผู้ใช้งานสามารถจัดการกับสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเองได้อย่างอิสระ
การลิสต์เหรียญจากประเทศไทยยังตอกย้ำยุทธศาสตร์ของ Bitget ที่จะสนับสนุนโปรเจกต์ที่มีศักยภาพในโลกของ Web3 อย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะอยู่ในภูมิภาคใดของโลก โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นหนึ่งในตลาดหลักของ Bitget ซึ่งผู้พัฒนามีความสามารถและศักยภาพในการเติบโตสูงไม่แพ้โปรเจกต์จากฝั่งตะวันตก หลายเหรียญและโทเค็นที่ลิสต์อยู่ใน Bitget ยังมีฐานการพัฒนามาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คาดว่าในอนาคตจะยังมีเหรียญหรือโทเค็นจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทยเข้ามาลิสต์ใน Bitget อย่างต่อเนื่อง จากทิศทางของฝั่งผู้บริโภคที่มีสถิติว่าภูมิภาคดังกล่าวมีอัตราการเข้าถึงคริปโตในระดับสูงรวมถึงฝั่งนักพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่ง Bitget ยินดีที่จะเปิดรับเหรียญและโปรเจกต์ที่มีศักยภาพให้เข้ามาซื้อขาย
ปัจจุบัน Bitget เป็น Exchange ที่มีวอลลุ่มการซื้อขาย 10 อันดับแรกของโลกจากการจัดอันดับโดย Coinmarketcap มีคู่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตลาด Spot กว่า 500 คู่เทรด ตั้งแต่เหรียญขนาดใหญ่อย่าง Bitcoin ไปจนถึงโทเค็นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Blockchain Layer1 และ 2, DeFi, GameFi, Metaverse, และ NFT