ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยสิ้นปี 64 มียอดเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ เพิ่มขึ้นกว่า 1.7 ล้านบัญชี โต 49% แตะระดับ 5.2 ล้านบัญชี ได้แรงหนุนคน Work from Home - คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต-เชื่อมระบบแบงก์ออนไลน์
นางสาวสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย รายงานข้อมูลสถิติช่วงสิ้นปี 2564 ว่า จำนวนนักลงทุนและจำนวนบัญชีที่เปิดซื้อขายหุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนนักลงทุนเพิ่มขึ้น 946,557 ราย คิดเป็นสัดส่วน 31% จากสิ้นปี 2563 ไต่สู่ระดับ 3.1 ล้านราย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าในปี 2564 มีจำนวนนักลงทุนเพิ่มขึ้นมากกว่า 2.8 เท่าของการเพิ่มขึ้นในปี 2563 หรือมากกว่าจำนวนนักลงทุนทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีก่อนหน้า (ปี 2559-2563)
ขณะที่จำนวนบัญชีที่เปิดซื้อขายหุ้นทั้งหมดอยู่ที่ 5.2 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 49% หรือมีบัญชีหุ้นเปิดใหม่กว่า 1.7 ล้านบัญชีจากปี 2563 หรือกล่าวได้ว่าในปี 2564 จำนวนบัญชีเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากจำนวนบัญชีที่เพิ่มขึ้นในปี 2563 ที่ตลอดทั้งปีที่เพิ่มขึ้น 747,063 บัญชี
ปัจจัยหนุนคือ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต การเชื่อมโยงระบบการซื้อขายกับระบบออนไลน์ของธนาคารพาณิชย์ การทำงานที่บ้าน (Work from Home) และนโยบายการกระจายการจัดสรรหุ้น IPO เป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนการขยายตัวของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย
โดยจากข้อมูลจำนวนผู้ถือหุ้นจากการปิดสมุดทะเบียนล่าสุดของบริษัทจดทะเบียนในปี 2563 และในช่วง 10 เดือนของปี 2564 พบว่าจำนวนผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนอกจากจะมีปัจจัยสนับสนุนเช่นเดียวกับการเพิ่มจำนวนผู้ถือหุ้นแล้ว ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่แตกต่างกันรายบริษัท อาทิ การขยายขอบเขตของธุรกิจเดิม การเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโต การพลิกฟื้นกิจการ เป็นต้น ที่ส่งให้ทั้งจำนวนนักลงทุนและจำนวนผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทยทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทจดทะเบียน 10 อันดับแรกที่มีจำนวนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นสูงสุดคือ 1. บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR 2.ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK 3.บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP 4. บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT 5. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF
6. บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX 7.บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL 8.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM 9.บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE 10.บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)หรือ LH