ถ้าจะหาจังหวะกลับไปซื้อทองอีกครั้ง ช่วงนี้อาจเป็นจังหวะที่ดีที่สุดก็เป็นได้ หลังจาก "ดอลลาร์สหรัฐ" พุ่งปรี๊ดจนดึงราคาทองคำโลกดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ส่งผลให้ราคาทองในบ้านเราลดลง 2 วันติดต่อกันถึง 600 บาท!
เมื่อวานนี้ ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงถึง 1.6% ลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน โดยทอง Spot ลดลงมาอยู่ที่ 1,737.11 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาทองฟิวเจอร์สสหรัฐ ลดลงมาอยู่ที่ 1,735.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำโลกร่วงลงแรง มาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าสุดในรอบ 20 ปี ทำให้นักลงทุนหนีจากทองคำนำเงินไปไว้กับดอลลาร์ที่เป็นแหล่งพักความเสี่ยง หรือ Safe Haven ตัวใหม่แทน หลังจากที่เคยลงในทองเพื่อเก็งความเสี่ยงเงินเฟ้อก่อนหน้านี้ แต่ปัจจุบัน นักลงทุนกำลังกังวลกับทิศทางเศรษฐกิจโลกที่เสี่ยงจะเผชิญกับภาวะถดถอยมากขึ้นแทน
แดเนียล กาลี นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท ทีดี ซีเคียวริตีส์ กล่าวกับรอยเตอร์สว่า ความต้องการในสินค้าโภคภัณฑ์ทุกตัว รวมทั้งทองคำ กำลังดิ่งลงเนื่องจากนักลงทุนกลัวเรื่องความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย โดยคาดว่าราคาทองจะลงต่อในช่วง 6 เดือนข้างหน้านี้ จนอาจไปแตะระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ค.) ราคาทองได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.2% หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์พักการแข็งค่าขึ้น ทำให้ทอง Spot ขึ้นไปอยู่ที่ 1,741.75 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาทองฟิวเจอร์สสหรัฐ อยู่ที่ 1,739.80 ดอลลาร์/ออนซ์
คนไทยแห่ซื้อทอง รับราคาทองลง 600 บาท 2 วันติด
สำหรับราคาทองในประเทศนั้น มีรายงานว่าร้านทองกลับมาคึกคักอีกครั้งตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากที่ราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลง 600 บาท 2 วันติดต่อกัน โดยเมื่อวานนี้ ราคาทองเปลี่ยนแปลงถึง 7 ครั้ง ปิดตลาดลดลง 300 บาท และในวันนี้ ราคาทองก็เปิดตลาดมาลดลงอีก 300 บาท
ราคาทองคำประจำวันที่ 7 ก.ค. 65 เปลี่ยนแปลงล่าสุด ครั้งที่ 5 ณ เวลา 15:29 น. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ
- ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,850.00 ขายออก บาทละ 29,950.00
- ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 29,319.44 ขายออก บาทละ 30,450.00
ด้านบทวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด วันที่ 7 ก.ค. ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดร่วงลง 26.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การดีดตัวในระหว่างวันของราคาทองคำเป็นไปอย่างจำกัด โดยทำระดับสูงสุดในระหว่างวันเพียง 1,772.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงต่อจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์พุ่งทะลุระดับ 107 ทำสถิติสูงสุดระดับใหม่ในรอบ 20 ปีที่ 107.264
โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจาก… (1) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “ดีเกินคาด” อาทิ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐจาก ISM ที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.3 ในเดือน มิ.ย. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.3 และตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ที่ลดลงสู่ระดับ 11.3 ล้านตำแหน่งในเดือน พ.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 11.0 ล้านตำแหน่งเช่นกัน
(2) นักลงทุนปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุด (terminal rate) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังรายงานการประชุมเดือน มิ.ย. บ่งชี้ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สะท้อนจาก Fed funds futures ที่ Price in การคาดการณ์ว่า terminal rate จะอยู่ที่ 3.40% ในเดือน มี.ค. “เพิ่มขึ้น” เมื่อเทียบกับเช้าวันพุธตามเวลาสหรัฐซึ่งคาดว่า terminal rate จะอยู่ที่ 3.25% ในเดือน ก.พ.
(3) ปอนด์อ่อนค่าจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในอังกฤษ และ (4) ยูโรร่วงลงต่อแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซน ปัจจัยที่กล่าวมาผลักดันให้ดอลลาร์แข็งค่าจนกดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงทำ Lower Low จนกระทั่งแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 เดือนที่ 1,731.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -7.61 ตัน
สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ