แบงก์รัฐยังอั้นไม่ไหว! ถึงคิว "กรุงไทย" ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก แจงช่วยกดดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อยให้ต่ำกว่าแบงก์ชาติ ขึ้นแค่ 0.15%
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 3 ของปี 65 รวม 0.75% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 1.25% ท่ามกลางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลก อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะยาวนั้น
ธนาคารกรุงไทยจึงได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย "เงินกู้" และ "เงินฝาก" ใหม่ ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 5.75% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 6.32% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) เพิ่มขึ้น 0.15% เป็น 6.37% ต่อปี
ส่วนในขาเงินฝากนั้น ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุด 0.50% ต่อปี เพื่อเพิ่มรายได้กับผู้ฝากเงิน และเสริมสร้างวินัยการออม สร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต
สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป
นายผยง กล่าวว่า ธนาคารตระหนักถึงผลกระทบต่อลูกค้าทุกกลุ่ม และพิจารณาอย่างรอบคอบให้มีผลกระทบกับลูกค้าน้อยที่สุด โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย ผู้ประกอบการรายเล็ก และกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่กลับมาปกติ ดังนั้น จึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) เพียง 0.15% อยู่ที่ระดับ 6.37% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้น 0.25% และต่ำกว่าทิศทางตลาด เพื่อให้ลูกค้าได้ปรับตัว
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยเหลือและปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มเปราะบางอย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้มีการประคับประคองและเกิดการเร่งปรับตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้ฝากเงิน แบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้คนไทย
ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้ทยอยประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝากกันในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารทีเอ็มบีธนชาต