การเงิน

Moody’s หั่นเครดิต ‘ภาคธนาคารสหรัฐฯ’ จาก ‘มั่นคง’ สู่ ‘แนวโน้มเป็นลบ’

15 มี.ค. 66
Moody’s หั่นเครดิต ‘ภาคธนาคารสหรัฐฯ’ จาก ‘มั่นคง’ สู่ ‘แนวโน้มเป็นลบ’

Moody’s บริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือชื่อดังของสหรัฐฯ ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือ หรือเครดิตของทั้ง ‘ภาคธนาคารสหรัฐฯ’ หลังพบสถานการณ์ภายในภาคสถาบันการเงินย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีอีกหลายธนาคารเสี่ยงมีลูกค้าแห่ถอนเงิน โดยเฉพาะธนาคารเล็ก จากเหตุการณ์การล้มของ Silicon Valley Bank กระทบความเชื่อมั่น

การออกมาปรับลดอันดับเครดิตของทั้งภาคการธนาคารในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจาก Moody’s ได้ออกมาดาวน์เกรดธนาคาร SVB เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้ทาง SVB ต้องออกมาแถลงข่าว การขายพันธบัตรระยะยาวและขายหุ้นระดมทุน จนทำให้เกิด Bank Run หรือการที่มีลูกค้าแห่ไปถอนเงินออกจากบัญชีจนเกิดการล้มละลายและการปิดตัวของ SVB ในอีก 3 วันถัดมา ก่อนจะลามไปถึง Signature Bank ที่ถูกทางการสหรัฐฯ สั่งปิดในวันที่ 12 มี.ค.

33bc26l-highres

ทั้งนี้ เมื่อมีการสั่งปิดธนาคารขนาดใหญ่และขนาดกลาง ภายในเวลาไม่กี่วัน ทำให้วงการธนาคารสหรัฐฯ เกิดภาวะวิกฤตศรัทธาเกิดขึ้น จนผู้ฝากเงินบางส่วนแห่ไปถอนเงินออกจากธนาคารภูมิภาคเล็กๆ เพราะกลัวว่าจะเจอปัญหาเดียวกัน ถึงแม้ธนาคารเหล่านั้นอาจจะไม่มีความเสี่ยงในรูปแบบเดียวกันกับ SVB ก็ตาม และทำให้สถานะของภาคการธนาคารของสหรัฐฯ เปราะบางมากขึ้นจากความตื่นตระหนกของผู้คน

โดยจากการรายงานของ The New York Times หุ้นของธนาคารขนาดเล็กหลายแห่งในสหรัฐฯ ตกลงอย่างมากตั้งแต่ SVB และ Signature ถูกสั่งปิดลง และพบว่า มีลูกค้ารีบมาถอนเงินออกไปไว้ในธนาคารที่ใหญ่กว่าอย่าง JP Morgan Chase, Citi Group, Wells Fargo หรือ Bank of America ที่พบเงินฝากเพิ่มรวมกันหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Bank of America ซึ่งเป็นธนาคารที่ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของสหรัฐฯ มีเงินฝากเพิ่มขึ้นถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.17 แสนล้านบาทภายในเวลาไม่กี่วันหลัง SVB ถูกสั่งปิด 

ขณะที่ธนาคารขนาดเล็กอย่าง PacWest Bancorp ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อธุรกิจ SMEs ในเมืองลอสแองเจลิสพบเงินฝากหายไป 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเวลาเดียวกัน สะท้อนว่า ประชาชนสหรัฐกำลังรู้สึกไม่มั่นใจในภาคการเงินของสหรัฐฯ จึงพยายามย้ายเงินมาธนาคารขนาดใหญ่ เพื่อหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลแน่นอน หากเกิดปัญหาสภาพคล่องขึ้น

33ba7hv-highres

อย่างไรก็ตาม ธนาคารขนาดเล็กๆ ในสหรัฐที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ อาจมีขนาดสินทรัพย์ไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มาก เนื่องจากเป็นแหล่งฝากเงินของคนในท้องถิ่น และแหล่งเงินกู้ของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งถ้าเกิดล้มละลายลงก็อาจส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้างได้ และภาคส่วนธุรกิจจะได้รับผลกระทบ

ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ Moody’s ได้ออกมาปรับระดับความน่าเชื่อถือของภาคการธนาคารในสหรัฐฯ ลง เพราะในปัจจุบันหากรัฐบาลและธนาคารไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากผู้ฝากกลับมาได้ หลายๆ ธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็กอาจจะประสบชะตากรรมเดียวกับ SVB ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์(13 มี.ค.) ที่ผ่านมา Moody’s ได้ออกมาปรับระดับเครดิตของ Signature Bank ให้กลายเป็นระดับ “ขยะ” หรือ “Junk” เรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดเผยรายชื่ออีก 6 ธนาคารที่ Moody’s กำลังจับตามอง และอาจปรับลดระดับเครดิตในอนาคต ได้แก่ First Republic, Intrust Financial, UMB, Zions Bancorp, Western Alliance และ Comerica 

33ba7h9-highres

นอกจากนี้ Moody’s ยังมองอีกว่า การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางในครั้งถัดไป อาจส่งผลกให้มีอีกหลายธนาคารมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เพราะทุกธนาคารได้มีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้ระยะยาวแบบอัตราผลตอบแทนคงที่ และดอกเบี้ยในระดับที่แตกต่างกันไป และอาจมีบางแบงก์พบปัญหาสภาพคล่องอีกหากต้องมีการขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในราคาขาดทุน

โดยจากรายงานประกอบการลดระดับเครดิต Moody’s คาดการณ์ว่า เฟดจะดำเนินการลดดอกเบี้ยต่อไป จากระดับเงินเฟ้อจะตกลงไปอยู่ในระดับที่เฟดกำหนด และเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (recession) ในช่วงปลายปี ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับภาคการธนาคารเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากรายได้ลดลง ต้นทุนในการรักษาเงินฝากจะเพิ่มสูงขึ้น

 

ที่มา: CNBC, Bloomberg, BBC



advertisement

SPOTLIGHT