เมื่อเฟดคงอัตราดอกเบี้ยอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่ที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด คือ การส่งสัญญาณชัดเจน ถึงการไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ย ยิ่งไปกว่านั้น คือ จะขึ้นอีก 2 ครั้งอีกต่างหาก ทำให้ตลาดมีการตอบรับ เห็นได้จากแรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ จนทำให้ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินในสกุลภูมิภาค และค่าเงินบาทของไทยปรับตัวอ่อนค่าลง เมื่อถ้อยแถลงของเฟดออกมา
วันนี้ SPOTLIGHT ได้รวบรวมความเห็นจากเหล่าบรรดากูรูด้านเศรษฐกิจ การเงิน จาก 3 ธนาคารพาณิชย์ไทย ถึงมุมมองจากการส่งสัญญาณครั้งนี้ของเฟด
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ SPOTLIGHT ว่า มติของคณะกรรมการเฟดคงดอกเบี้ยนโนบาย อยู่ที่ 5.0-5.25% เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ภายหลังจากที่เฟดเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยมา 10 รอบการประชุมต่อเนื่อง ในช่วงเวลา 13-14 เดือนที่ผ่านมา
โดยผลประชุมเมื่อคืนของเฟดเป็นการหยุดพักครั้งแรก แต่ว่าประมาณการจนท.ของเฟด dot plot ปีนี้จะไปจบที่ 5.60% ถือว่าเกินคาด ปัจจุบันอยู่ที่ราว 5.10% ซึ่งเฟดมองว่า อาจมีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง และมีความเป็นไปได้ว่ารอบหน้าจะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง และยังเหลืออีกสักครั้ง
ตลาดเซอร์ไพรส์ที่เฟดจะปรับดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง
การส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ยของเฟดนั้น ถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์ตลาด หนุนค่าเงินดอลลาร์ในตลาดโลกแข็งค่าขึ้น และกดดันค่าเงินในภูมิภาค รวมถึงค่าเงินบาทให้ปรับตัวอ่อนค่าลงด้วย
ส่วนถ้อยแถลงของประธานเฟดกลางๆ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ยังมองว่าเงินเฟ้อกดลงค่อนข้างช้า ดังนั้น จึงเปิดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ย ไม่ได้ส่งสัญญาณให้ตลาดตีความว่า จะหยุดพักแล้วระดับนี้ จะไม่ปรับดอกเบี้ยอีกเลย
โดยการส่งสัญญาณของเฟดที่ออกมาค่อนข้างชัดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะยังไม่จบ ทำให้ตลาดมีข้อกังวลว่า เงินเฟ้อที่ลดลงช้า แม้ว่าตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งมาก แต่การที่เฟดยังไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ยในที่สุดแล้ว ภาคเศรษฐกิจของสหรัฐจะได้รับผลกระทบค่อนข้างแรงในระยะถัดไป ขณะนี้ยังไม่เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐทรุดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประคองโมเมมตัมต่อไปได้
ทั้งนี้ เฟดทบทวนประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ 1.0% เดือนมี.ค.0.4% เพิ่มประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปีนี้อัตราว่างงาน 4.5 % มี.ค. 4.1%
คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวกับ SPOTLIGHT ว่า การที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถือว่ามีเหตุผล เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานไม่ได้ลงเยอะอย่างที่ต้องการ ถึงจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ตลาดก็เฉยๆ เพราะรับรู้ไปแล้วในระดับหนึ่ง เพราะตลาดมองว่าเดี๋ยวอัตราเงินเฟ้อก็จะปรับลดลง
อย่างไรก็ตาม ตลาดมองว่า เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง แต่คิดว่าเฟดไม่น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อได้ง่ายๆ คงต้องติดตามดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมา ทั้งการจ้างงาน ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ ในเดือนมิถุนายน รวมถึงภาวะสินเชื่อที่คาดว่าน่าจะมีการตึงตัว
โดยคาดว่าหากเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน่าจะเป็นเดือนกรกฎาคม 2566 อาจจะขึ้นได้ 1 ครั้ง แต่จะขึ้นไปถึง 2 ครั้ง คิดว่ายาก โดยส่วนตัวยังมองเหมือนเดิมว่าน่าจะจบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว แต่เราเองมองว่าตัวเลขดีจริงๆ ขึ้นสัก 1 ครั้งก็พอจะได้
ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวกับ SPOTLIGHT ว่า มาจับตาดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐกัน หลังขึ้นมาตลอด หยุดสักที แต่ตลาดยังหงุดหงิด เพราะว่า คำว่า หยุด ไม่ตรงสักทีเดียว เพราะคำว่า “pause หยุดชั่วคราว”
การที่เฟดส่งสัญญาณจะขึ้นอีก 2 ครั้งนั้น คงต้องมาติดตามภาวะการเงินที่ตึงตัว อาจทำให้การบริโภคชะลอลงได้ปลายปี และทำให้จะมีโอกาสเห็นการปรับลดดอกเบี้ยต้นปีหน้า
สำหรับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่เคยมีปัญหาและชะลอตัวลงมา จนเกิดมีแบงก์ล้มเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต ก็อาจจะมีได้หลังจากนี้ไป
ทั้งนี้ เฟดมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดจึงได้มีการปรับประมาณการตัวเลขจีดีพีของสหรัฐเพิ่มเป็น 1.0% จากเมื่อเดือนมี.ค.ที่ 0.4% แสดงให้เห็นว่า แบงก์ล้มในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้มีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ทำไมสหรัฐไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ย ก็เพราะอัตราเงินเฟ้อก็ปรับตัวลดลงช้ากว่าที่คาดไว้