ระบบการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาเป็นปกติแล้ว หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ 3 มิ.ย.67 เวลา ประมาณ 21.11 น. (ตามเวลาในไทย) เกิดปัญหาทางเทคนิคที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) สร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาด เพราะหุ้นของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นั่นคือ Berkshire Hathaway Class A (BRKa) ถูกแสดงผลร่วงลงเกือบ 100% ทำให้มีการหยุดซื้อขายชั่วคราว และตลาดฯกำลังตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัด เบื้องต้นคาดว่า เกิดจากระบบซอฟท์แวร์ของการรายงานผลมีปัญหา
นอกจากหุ้น BRKa แล้วหุ้นเด่นอื่นๆ เช่น Barrick Gold และ Nuscale Power เจอปัญหาราคาปรับลดลงเช่นเดียวกัน โดยรวมคาดว่า ในขณะระบบมีปัญหามีหุ้นได้รับผลกระทบประมาณ 50 ตัว
สำหรับหุ้น Class A ของ Berkshire เมื่อการซื้อขายถูกระงับ แต่การซื้อขายหุ้นclass B ของ Berkshire ( BRKb) ซึ่งปกติราคาหุ้นต่ำกว่า BRKa อยู่แล้วยังคงดำเนินการซื้อขายต่อไป โดยราคามีการปรับลดลงเล็กน้อยราว1% ซึ่งแม้จะมีความวุ่นวายในหุ้น Berkshire Hathaway แต่เหตุการณ์นี้ไม่ได้ส่งผลต่อมูลค่าของดัชนีตลาดโดยรวม อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดกลับมาซื้อขายได้ปกติราคาหุ้น BRKa ก็ได้ปรับขึ้นจากราคาปกติอีกราว 0.59%
ในช่วงเวลาปกติหุ้น Class A ของ Berkshire (BRKa) มีราคาสูงสุดใน Wall Street โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม BRKa ราคาสูงสุดที่ 634,440 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 23 ล้านบาทต่อหุ้น
เบื้องหลังราคาหุ้นที่สูงของ Berkshire อยู่ที่ปู่ Buffett ต้องการดึงดูดผู้ถือหุ้นที่มีแนวโน้มการลงทุนระยะยาวซึ่งบ่อยครั้งเปรียบการถือหุ้น Berkshire กับการมีบัญชีเงินฝาก แต่เพื่อให้เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยลงมา หุ้น Berkshire ได้เปิดตัว Class B เมื่อปี 1996 ในราคาถูกกว่า Class A แต่ก็ได้สิทธิออกเสียงน้อยกว่าตามไปด้วย โดยราคาหุ้น Class B อยู่ที่ราว15,000 บาทไทย และแน่นอนว่าปู่ Warren Buffett ถือหุ้น Berkshire Class A มากกว่า 38%
ที่มา CNBC