การเงิน

จีนยกระดับคุมขายชอร์ต สั่งวางหลักประกันเพิ่มเป็น 100% หวังฟื้นตลาดหุ้น

12 ก.ค. 67
จีนยกระดับคุมขายชอร์ต สั่งวางหลักประกันเพิ่มเป็น 100% หวังฟื้นตลาดหุ้น

ก.ล.ต.จีน ยกระดับควบคุมการขายชอร์ต (Short Sell) ในตลาดหุ้นจีน และโปรแกรมเทรดหุ้นอัตโนมัติ เรียกหลักประกันเพิ่มเป็น 100% เริ่ม 22 ก.ค. 2567 หวังช่วยรักษาเสถียรภาพ และฟื้นตลาดหุ้นจีนที่ตกต่ำลงจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา 

ในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีราคาตลาดหุ้นจีนมีมูลค่าลดลงเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของจีนที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่จากการระบาดของโควิด-19 วิกฤตและปัญหาสภาพคล่องในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่คลี่คลาย รวมถึงภาวะเงินฝืดจากการที่ประชาชนไม่เชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเลือกที่จะรัดเข็มขัด ใช้จ่ายให้น้อยลงโดยตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ดัชนี CSI 300 ของจีนมีมูลค่าลดลงเรื่อยๆ และมีมูลค่าตลาดหายไปแล้ว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ แม้ปัจจัยหลักที่ทำให้หุ้นจีนซบเซาลงจะเป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจ การขายชอร์ต หรือ Short Sell ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนมองว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นจีนมูลค่าลดลง ทำให้หน่วยงานกำกับดูแล เช่น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีน หรือ The China Securities Regulatory Commission (CSRC) ต้องออกมาตรการคุมการขายชอร์ตให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่อเรียกความเชื่อมั่น

โดยล่าสุด ในวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ของจีนเพิ่งได้ประกาศกฎเกณฑ์การขายชอร์ตใหม่ โดยเพิ่มหลักประกันขั้นต่ำสำหรับการขายชอร์ตสำหรับนักลงทุนรายย่อยจาก 80% เป็น 100% ของมูลค่าหุ้น และเพิ่มหลักประกันขั้นต่ำสำหรับกองทุนส่วนบุคคล (private fund) จาก 100% เป็น 120% จากสัดส่วนเดิมซึ่งอยู่ที่ 100% ของมูลค่าหุ้น โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 22 ก.ค.นี้ 

นอกจากนี้ ก.ล.ต. จีนยังสั่งให้ China Securities Finance Corp. ผู้ให้ยืมหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ระงับธุรกิจให้ยืมหลักทรัพย์ชั่วคราวแก่โบรกเกอร์ โดยเริ่มมีผลตั้งแต่ 11 ก.ค.เป็นต้นไปเช่นเดียวกัน

การเพิ่มหลักประกันขั้นต่ำและการระงับไม่ให้ China Securities Finance Corp. ทำธุรกิจให้ยืมหลักทรัพย์นี้  จะช่วยลดปริมาณและมูลค่าการขายชอร์ตได้ เพราะจะทำให้การขายชอร์ตสำหรับนักลงทุนและ hedge funds ทำได้ยากมากขึ้น และมีต้นทุนสูงขึ้น

การเพิ่มมาตรการขายชอร์ตอาจช่วยได้ แต่เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

Steven Leung กรรมการบริหารของ UOB Kay Hian Hong Kong มองว่า ในระยะสั้น มาตรการนี้จะช่วยให้นักลงทุนเร่งปิดการขายชอร์ต และไม่ชอร์ตหุ้นเพิ่ม ขณะที่ Redmond Wong นักกลยุทธ์ของ Saxo Capital Markets มองว่ามาตรการนี้จะช่วยทำให้ราคาหุ้นบางตัวเพิ่มขึ้น 

โดยนอกจากจีน ตลาดหุ้นเกาหลีใต้และไทยเองก็ได้ออกมาตรการควบคุมการขายชอร์ตแล้ว โดยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนปี 2023 คณะกรรมการด้านบริการการเงินของเกาหลีใต้ (FSC) ได้ประกาศมาตรการห้ามการขายชอร์ตหุ้นในบริษัทที่ลงทะเบียนในดัชนี KOSPI 200 Index และดัชนี KOSDAQ 150 Index 

ขณะที่ไทยเริ่มมาตรการกำกับดูแลการขายชอร์ตตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ด้วยการปรับปรุงคุณสมบัติของหุ้นในกลุ่ม non-SET100 ที่สามารถขายชอร์ตได้ ให้เป็นหุ้นที่มีขนาด market capitalization เฉลี่ย 3 เดือน ไม่น้อยกว่า 7,500 ล้านบาท และปรับปรุงเกณฑ์ราคาขายชอร์ต โดยกำหนดให้ราคาเสนอขายชอร์ตต้องเป็นราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (uptick) จากเดิมที่ให้เสนอขายชอร์ตได้ในราคาที่เท่ากับหรือสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (zero-Plus Tick)

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า แม้มาตรการเหล่านี้จะช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นได้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุด เพราะปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นซบเซา คือ ตัวหลักทรัพย์ในตลาดที่ไม่น่าดึงดูด ทั้งจากปัญหาเศรษฐกิจในระยะสั้น และปัญหาโครงสร้าง

นอกจากนี้ ปัจจุบันมูลค่าการขายชอร์ตในตลาดหุ้นของจีนยังคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก โดยคิดเป็นเพียง 0.05% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั้งหมดเท่านั้น และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มูลค่าขายชอร์ตและมูลค่าการยืมหลักทรัพย์เพื่อขายชอร์ตในตลาดหุ้นจีนยังลดลงถึง 64% และ 75% แล้ว หลังหน่วยงานจีนออกมาห้ามไม่ให้มีการยืมบางหลักทรัพย์เพื่อทำการชอร์ตเซลล์

ล่าสุด (วันที่ 12 ก.ค.) ดัชนีหุ้น CSI 300 ปิดที่ 3,472.40 จุด เพิ่มขึ้น 86.05 จุด หรือ 2.54% จากต้นปี 




 

ที่มา: Bloomberg

advertisement

SPOTLIGHT