ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพนับเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดี บทความนี้จะนำเสนอแนวทางการบริหารจัดการทางการเงินที่ครอบคลุมสำหรับผู้มีรายได้หลากหลายระดับ โดยมุ่งเน้นการวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ การจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม และการใช้เครื่องมือทางการเงินที่ทันสมัย เพื่อให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่นคงในชีวิตได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้จะพาไปดูกลยุทธ์การบริหารเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาท ไปจนถึง 20,000 บาท พร้อมนำเสนอเคล็ดลับการออมเงินสำหรับวัย 30 ปีขึ้นไป เพื่อให้คุณสามารถ "เก็บเงินอยู่หมัด" และสร้างความมั่งคั่งทางการเงินในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีบริหารเงินเดือน เก็บเงินอยู่หมัด สร้างฐานะมั่นคงในยุคค่าครองชีพสูง
ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้มีรายได้จำกัดจำนวนมากกำลังเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการทางการเงินให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเป้าหมายในชีวิต KBank ขอเสนอแนวทางบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้บุคคลเหล่านี้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีเงินออม แม้ว่าจะมีรายได้ไม่สูงนัก
1. ออมก่อนใช้ หลักการพื้นฐานคือ "ออมทันทีเมื่อได้รับรายได้" โดยแนะนำให้จัดสรร 10% ของรายได้เพื่อการออมทันทีที่ได้รับ วิธีนี้จะช่วยสร้างวินัยในการออมและลดความเสี่ยงที่จะใช้จ่ายเกินตัว เช่น หากได้รับเงินเดือน 15,000 บาท ควรแบ่งเงิน 1,500 บาท เข้าบัญชีเงินออมทันที
2. จัดสรรงบประมาณ นอกเหนือจากเงินออม ควรแบ่งสรรรายได้ที่เหลือออกเป็นส่วน ๆ ดังนี้
- ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น 50%: ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าสาธารณูปโภค และค่าโทรศัพท์ เช่น ค่าเช่าบ้าน 3,000 บาท ค่าผ่อนของต่างๆ 2650 บาท ค่าไฟฟ้า 500 บาท ค่าน้ำประปา 100 บาท และค่าโทรศัพท์ 500 บาท รวมเป็น 6,750 บาท
- ค่าใช้จ่ายประจำวัน 35%: ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น ค่าอาหาร 1,363 บาท ค่าเดินทาง 1,000 บาท รวมเป็น 2,362 บาท
- ค่าใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ 5-10 %: เพื่อให้ชีวิตไม่ตึงเครียดจนเกินไป ควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับกิจกรรมที่ชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรือไปเที่ยว เช่น 750 - 1,500 บาท สำหรับการดูหนังหรือทานอาหารนอกบ้านในวันหยุด
หาจัดสรรบประมาณได้ดีและมีวินัยเราอาจมีเงินเก็บเพิ่มมากว่าเดิม
3. เครื่องมือช่วยบริหารการเงิน ขอแนะนำแอปพลิเคชัน Cloud Pocket ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การบริหารจัดการทางการเงินเป็นเรื่องง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถบันทึกรายรับรายจ่าย กำหนดงบประมาณ และติดตามสถานะทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา
4. แบ่งปันประสบการณ์ การแบ่งปันประสบการณ์และเคล็ดลับในการบริหารจัดการทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญ จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาแชร์วิธีการจัดการรายได้ของตนเอง เพื่อเป็นแนวทางและแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น เช่น การทำอาหารกลางวันไปทานที่ทำงานแทนการซื้ออาหารนอกบ้าน การใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนการขับรถยนต์ส่วนตัว หรือการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นและคุ้มค่า
5. สร้างวินัยทางการเงิน การบริหารจัดการทางการเงินไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องอาศัยวินัยและความสม่ำเสมอในการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ หากทำได้อย่างต่อเนื่อง รับรองว่าท่านจะมีเงินออมและมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงขึ้นอย่างแน่นอน เช่น การตั้งเป้าหมายในการออมเงิน การจดบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ หรือการหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
สรุป การบริหารจัดการรายได้ให้เพียงพอและมีเงินออมไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีการวางแผนที่ดี มีวินัยในการใช้จ่าย และใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ก็สามารถทำให้รายได้ที่จำกัดกลายเป็นเงินออมก้อนโตได้ในอนาคต
กลยุทธ์บริหารเงินเดือน 20,000 บาท สู่ความมั่นคงทางการเงิน
สำหรับผู้มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน การบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในอนาคต Yuanta Securities Thailand ขอนำเสนอแนวทางการจัดสรรเงินเดือนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
หลักการจัดสรรเงินเดือน
ค่าใช้จ่าย (75%) : ส่วนนี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลอื่นๆ ควรบริหารจัดการส่วนนี้อย่างรอบคอบเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการเงินออม (20%) การออมถือเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงทางการเงิน แนะนำให้แบ่งเงินออมออกเป็น 3 ส่วน (สามารถเปลี่ยนสูตรได้ตามความเหมาะสม) ได้แก่
- เงินออมระยะสั้น (20% ของเงินออม): สำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
- เงินออมระยะกลาง (50% ของเงินออม): สำหรับเป้าหมายระยะกลาง เช่น การแต่งงาน หรือซื้อบ้าน
- เงินออมระยะยาว (30% ของเงินออม): เพื่อการเกษียณอายุ
เงินคงเหลือ (5%): เมื่อมีเงินออมส่วนหนึ่งแล้ว หากอยากซื้อของให้ตัวเอง หรือจะนำไปลงทุนเพิ่มก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เงินงอกเงย ควรศึกษาข้อมูลและเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
กลยุทธ์การบริหารจัดการทางการเงินสำหรับวัย 30 ปีขึ้นไป: เปลี่ยน "เก็บเงินไม่อยู่" เป็น "เก็บเงินอยู่หมัด"
สำหรับบุคคลวัย 30 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยแห่งการสร้างความมั่นคงและวางแผนอนาคต ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ตระหนักถึงความท้าทายในการบริหารจัดการทางการเงิน และขอเสนอแนวทางการออมเงินอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การกำหนดเป้าหมายการออม
- ระยะสั้น (1 ปี): เหมาะสำหรับเป้าหมายระยะใกล้ เช่น การซื้อสินค้าคงทน หรือการเดินทางท่องเที่ยว
- ระยะกลาง (2-5 ปี): เหมาะสำหรับเป้าหมายที่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมากขึ้น เช่น การศึกษาต่อ หรือการลงทุนในสินทรัพย์
- ระยะยาว (5 ปีขึ้นไป): เหมาะสำหรับเป้าหมายสำคัญในชีวิต เช่น การซื้อที่อยู่อาศัย หรือการวางแผนเกษียณอายุ
การจัดสรรเงินออมด้วยสูตร 50:30:20
- 50% - สิ่งจำเป็น: ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าสาธารณูปโภค
- 30% - ค่าใช้จ่ายส่วนตัว: ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงและกิจกรรมสันทนาการ เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน การท่องเที่ยว หรือการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย
- 20% - เงินออมและการลงทุน: เงินออมเพื่อเป้าหมายต่างๆ และเงินลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคต
การออมเงินให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยวินัยและความสม่ำเสมอ เริ่มต้นจากการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และติดตามผลการออมอย่างสม่ำเสมอ
การบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ ไม่ว่าจะมีรายได้มากหรือน้อย เพียงแค่มีความตั้งใจ วินัย และความสม่ำเสมอในการวางแผนและปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ ก็สามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินและบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ หรืออยู่ในช่วงวัยใด การเริ่มต้นวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้คุณมีอนาคตที่มั่นคงและปลอดภัยทางการเงิน อย่าลืมว่าการออมและการลงทุนเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคุณเอง เริ่มต้นวันนี้เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในวันข้างหน้า
ที่มา KBankLive และ Yuantathailand