EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในประเทศไทย มูลค่า 3,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนธุรกิจสีน้ำเงินและขับเคลื่อนประเทศสู่ Green Development Bank นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) การออกและเสนอขายพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) หรือ Blue Bond เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ถือว่าประสบความสำเร็จ ด้วยวงเงินรวม 3,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.78% ต่อปี
พันธบัตรดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA จาก Fitch Ratings และได้รับการรับรองมาตรฐานจาก DNV (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ EXIM BANK โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยาและธนาคารออมสินเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
การออก Blue Bond ครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลังและวิสัยทัศน์ประเทศไทย "IGNITE THAILAND" ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนจะถูกนำไปใช้สนับสนุนสินเชื่อสำหรับธุรกิจที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) ของประเทศไทย
จาก Carbon Neutrality สู่ Blue Economy ความท้าทายการลงทุนเพื่อทะเลยั่งยืน
โดย ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์วิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประเทศไทยก็มิได้เป็นข้อยกเว้น
ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมบนบกแล้ว รัฐมนตรีช่วยฯ ยังได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) เพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งรายได้ของประชากรโลกจำนวนมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ดร.เผ่าภูมิ ระบุว่า ช่องว่างขนาดใหญ่ในการลงทุนด้าน Blue Finance ซึ่งยังไม่สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง โดยในช่วงปี พ.ศ. 2558-2562 มีเงินลงทุนจริงไม่ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขณะที่ World Economic Forum ประเมินว่าจำเป็นต้องมีเงินลงทุนราว 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเลและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน (SDG ที่ 14)
ขณะที่ข้อมูลจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจทางทะเลและที่เกี่ยวเนื่องของประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และสร้างงานให้กับประชากรคิดเป็นสัดส่วน 26% ของการจ้างงานรวม สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลที่มีต่อเศรษฐกิจไทย รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้อย่างยั่งยืน
สำหรับการออกและเสนอขายพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) หรือ Blue Bond ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ครั้งนี้ ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินสีเขียวที่ผสานเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจสีน้ำเงินเข้าด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลรักษาระบบนิเวศทั้งบนบกและในทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ประเทศไทย "IGNITE THAILAND" และความร่วมมือของสถาบันการเงินในการพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินเพื่อความยั่งยืน
EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรก หนุนธุรกิจสีน้ำเงินไทย
ด่้าน ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มีพันธกิจในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งสู่บทบาท Green Development Bank อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างระบบนิเวศทางการค้าและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง
EXIM BANK ได้ดำเนินการออกและเสนอขายพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา มีการออกพันธบัตรรวมทั้งสิ้น 11,500 ล้านบาท สำหรับ Blue Bond ที่เพิ่งเสนอขายในครั้งนี้ มีวงเงินรวม 3,000 ล้านบาท และได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างสูง โดยมียอดจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่เสนอขายถึง 2.5 เท่า
เงินทุนที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะถูกนำไปใช้ในการสนับสนุนและส่งเสริมภาคธุรกิจและผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมหลากหลายภาคส่วน อาทิ ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวทางทะเล การประมง การเพาะเลี้ยงพืชและสัตว์น้ำ การจัดการและบำบัดน้ำเสีย การรีไซเคิลขยะจากทะเล และพาณิชยนาวี
EXIM BANK ตั้งเป้าสินเชื่อสีเขียว 50% ในปี 2570
นอกเหนือจากการออก Blue Bond แล้ว EXIM BANK ยังมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อ Blue Economy ภายใต้แนวทาง Sustainability Linked Loan (SLL) ซึ่งประกอบด้วยทั้งสินเชื่อหมุนเวียนและสินเชื่อระยะยาวสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาดธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สามารถแข่งขันได้ เริ่มต้นที่ 3.85% ต่อปี และวงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 200 ล้านบาท นอกจากนี้ EXIM BANK ยังตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนเป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดภายในปี 2570
ดร.รักษ์ กล่าวว่า "Blue Bond นี้ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทางการเงิน แต่เป็นเครื่องสะท้อนความร่วมมือและความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทั้งระบบนิเวศบนบกและทางทะเล เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่และยั่งยืนสำหรับทุกคน"
การออก Blue Bond ครั้งแรกของ EXIM BANK ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจสีน้ำเงิน ความสำเร็จในการระดมทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงินของ EXIM BANK เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความตื่นตัวของภาคธุรกิจและนักลงทุนไทยในการร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศและโลกใบนี้