การเงิน

EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในไทย มุ่งสู่ Green Development Bank

26 ก.ค. 67
EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในไทย มุ่งสู่ Green Development Bank

EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในประเทศไทย มูลค่า 3,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนธุรกิจสีน้ำเงินและขับเคลื่อนประเทศสู่ Green Development Bank นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) การออกและเสนอขายพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) หรือ Blue Bond เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ถือว่าประสบความสำเร็จ ด้วยวงเงินรวม 3,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.78% ต่อปี

พันธบัตรดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA จาก Fitch Ratings และได้รับการรับรองมาตรฐานจาก DNV (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ EXIM BANK โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยาและธนาคารออมสินเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย

การออก Blue Bond ครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลังและวิสัยทัศน์ประเทศไทย "IGNITE THAILAND" ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนจะถูกนำไปใช้สนับสนุนสินเชื่อสำหรับธุรกิจที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) ของประเทศไทย

จาก Carbon Neutrality สู่ Blue Economy ความท้าทายการลงทุนเพื่อทะเลยั่งยืน

EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในไทย มุ่งสู่ Green Development Bank

โดย ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์วิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประเทศไทยก็มิได้เป็นข้อยกเว้น

ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมบนบกแล้ว รัฐมนตรีช่วยฯ ยังได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) เพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งรายได้ของประชากรโลกจำนวนมหาศาล

EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในไทย มุ่งสู่ Green Development Bank

อย่างไรก็ตาม ดร.เผ่าภูมิ ระบุว่า ช่องว่างขนาดใหญ่ในการลงทุนด้าน Blue Finance ซึ่งยังไม่สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง โดยในช่วงปี พ.ศ. 2558-2562 มีเงินลงทุนจริงไม่ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขณะที่ World Economic Forum ประเมินว่าจำเป็นต้องมีเงินลงทุนราว 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเลและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน (SDG ที่ 14)

ขณะที่ข้อมูลจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจทางทะเลและที่เกี่ยวเนื่องของประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และสร้างงานให้กับประชากรคิดเป็นสัดส่วน 26% ของการจ้างงานรวม สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลที่มีต่อเศรษฐกิจไทย รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้อย่างยั่งยืน

สำหรับการออกและเสนอขายพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) หรือ Blue Bond ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ครั้งนี้ ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินสีเขียวที่ผสานเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจสีน้ำเงินเข้าด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลรักษาระบบนิเวศทั้งบนบกและในทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ประเทศไทย "IGNITE THAILAND" และความร่วมมือของสถาบันการเงินในการพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินเพื่อความยั่งยืน

EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรก หนุนธุรกิจสีน้ำเงินไทย

EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในไทย มุ่งสู่ Green Development Bank

ด่้าน ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มีพันธกิจในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งสู่บทบาท Green Development Bank อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างระบบนิเวศทางการค้าและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง

EXIM BANK ได้ดำเนินการออกและเสนอขายพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา มีการออกพันธบัตรรวมทั้งสิ้น 11,500 ล้านบาท สำหรับ Blue Bond ที่เพิ่งเสนอขายในครั้งนี้ มีวงเงินรวม 3,000 ล้านบาท และได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างสูง โดยมียอดจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่เสนอขายถึง 2.5 เท่า

เงินทุนที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะถูกนำไปใช้ในการสนับสนุนและส่งเสริมภาคธุรกิจและผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมหลากหลายภาคส่วน อาทิ ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวทางทะเล การประมง การเพาะเลี้ยงพืชและสัตว์น้ำ การจัดการและบำบัดน้ำเสีย การรีไซเคิลขยะจากทะเล และพาณิชยนาวี

EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในไทย มุ่งสู่ Green Development Bank

EXIM BANK  ตั้งเป้าสินเชื่อสีเขียว 50% ในปี 2570

นอกเหนือจากการออก Blue Bond แล้ว EXIM BANK ยังมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อ Blue Economy ภายใต้แนวทาง Sustainability Linked Loan (SLL) ซึ่งประกอบด้วยทั้งสินเชื่อหมุนเวียนและสินเชื่อระยะยาวสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาดธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สามารถแข่งขันได้ เริ่มต้นที่ 3.85% ต่อปี และวงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 200 ล้านบาท นอกจากนี้ EXIM BANK ยังตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนเป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดภายในปี 2570

ดร.รักษ์  กล่าวว่า "Blue Bond นี้ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทางการเงิน แต่เป็นเครื่องสะท้อนความร่วมมือและความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทั้งระบบนิเวศบนบกและทางทะเล เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่และยั่งยืนสำหรับทุกคน"

การออก Blue Bond ครั้งแรกของ EXIM BANK ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจสีน้ำเงิน ความสำเร็จในการระดมทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงินของ EXIM BANK เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความตื่นตัวของภาคธุรกิจและนักลงทุนไทยในการร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศและโลกใบนี้

EXIM BANK ออก Blue Bond ครั้งแรกในไทย มุ่งสู่ Green Development Bank

advertisement

SPOTLIGHT