การเงิน

ชิปทำกำไรจากการดำเนินงาน Samsung ทะลุ 1,458% ส่วนกำไรสุทธิพุ่ง 472%

31 ก.ค. 67
ชิปทำกำไรจากการดำเนินงาน Samsung ทะลุ 1,458% ส่วนกำไรสุทธิพุ่ง 472%
ไฮไลท์ Highlight

‘Samsung Electronics’ ผู้ผลิตหน่วยความจำและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลก เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2567 พบว่า รายได้สุทธิเติบโตเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 และมีแผนจะเพิ่มปริมาณการผลิตชิประดับไฮเอนด์เป็นสองเท่า เพื่อกระตุ้นการเติบโตของ AI ในปีหน้า

โดย Samsung รายงานว่า รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 74.07 ล้านล้านวอน หรือ 1.92 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันในปีที่ผานมา หรือเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2564 ส่วนรายได้ของแต่ละธุรกิจเป็นดังนี้:

- Device eXperience (DX) กลุ่มมือถือ สินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า อยู่ที่ 42.07 ล้านล้านวอน หรือ 1.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%

- Device Solutions (DS) กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และแสดงผล อยู่ที่ 28.56 ล้านล้านวอน หรือ 0.74 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นทะลุ 94%

- Samsung Display Company (SDC) กลุ่มแผงจอ OLED และ LCD และจอภาพ SDC อยู่ที่ 7.65 ล้านล้านวอน หรือ 0.20 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%

- Harman กลุ่มเทคฯ สำหรับตลาดยานยนต์ ผู้บริโภค และองค์กร อยู่ที่ 3.62 ล้านล้านวอน หรือ 0.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%

ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเบื้องต้นเพิ่มขึ้น 1,458.20% แตะ 10.44 ล้านล้านวอน (0.27 ล้านล้านบาท) และกำไรสุทธิพุ่ง 472.09% เป็น 9.64 ล้านล้านวอน (0.25 ล้านล้านบาท) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เมื่อต้นเดือนนี้ที่ 7.97 ล้านล้านวอน

การเติบโตของ Samsung ส่วนหนึ่งมาจากหน่วยเซมิคอนดักเตอร์ที่มีผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 6.45 ล้านล้านวอน (ประมาณ 0.17 ล้านล้านบาท) จากปัจจัยหลักสองประการดังนี้:

  1. ราคาหน่วยความจำที่สูงขึ้น: ราคาของชิปหน่วยความจำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ของ Samsung เพิ่มขึ้นตาม ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยด้านอุปทานและอุปสงค์ในตลาด โดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสามารถผลักดันให้ราคาสูงขึ้นได้
  2. ความต้องการชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงที่เพิ่มขึ้น: ชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM) มีความสำคัญต่อการประมวลผลขั้นสูง โดย Samsung ออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานขึ้น ในขณะที่ประมวลผลที่เร็วขึ้นเช่นกัน ซึ่งมีค่าอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับ AI ส่งผลถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลักดันยอดขายชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับตำแหน่งทางการตลาดของ Samsung ในตลาด HBM ที่ทำกำไรมหาศาล เนื่องจาก Samsung ยังล้าหลัง SK Hynix แม้บริษัทพยายามอย่างหนักเพื่อให้ชิปล่าสุดได้รับการรับรองจาก NVIDIA ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก เนื่องจากความต้องการตัวเร่งความเร็ว AI ที่ไม่รู้จักพอ

แต่ล่าสุด Samsung ก็เริ่มมีความคืบหน้าแล้ว หลังจากที่ชิป HBM3 ได้รับการอนุมัติจาก NVIDIA แล้ว และคาดว่ารุ่นถัดไป HBM3E จะได้รับการอนุมัติในอีก 2-4 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเพิ่มการผลิต HBM3E และคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะคิดเป็น 60% ของยอดขาย HBM ทั้งหมดภายในไตรมาสที่ 4/2567

Tom Kang ผู้อำนวยการของ Counterpoint Research กล่าวว่า ธุรกิจหน่วยความจำของ Samsung ฟื้นตัวเต็มที่ และกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง หลังความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเซิร์ฟเวอร์ที่สูง นำไปสู่ผลกำไรที่น่าแปลกใจ รวมทั้ง ประสิทธิภาพของ Galaxy S24 ที่ยังช่วยหนุนรายได้นอกเหนือจากกลุ่มสมาร์ทโฟน จากการเพิ่มยอดขายเซ็นเซอร์กล้อง ชิป จอแสดงผล และไดรเวอร์จอแสดงผล

ทั้งนี้ SK Hynix ยังคงเป็นผู้นำด้านหน่วยความจำความจุสูง ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างบริการ Generative AI ที่คล้ายกับ ChatGPT โดยกำลังการผลิตชิป HBM ซึ่งจับคู่กับตัวเร่งความเร็ว AI ของ SK Hynix นั้นเกือบจะเต็มแล้วจนถึงปี 2568 ส่งผลให้หุ้น SK Hynix พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 150% ตั้งแต่ต้นปี 2566

โดยการเติบโตของหุ้น SK Hynix สูงกว่า Samsung ถึงสามเท่า ทำให้ Samsung หันมาให้ความสำคัญกับการผลิต HBM และหน่วยความจำเซิร์ฟเวอร์ โดยคาดว่าซัพพลายของผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยสำหรับพีซีและมือถือจะมีจำกัด

แต่การเปลี่ยนแปลงโฟกัสของ Samsung เกิดขึ้นในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจมือถือและเครือข่ายลดลง 0.8% จากราคาส่วนประกอบที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไร แม้ตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมจะยังคงเติบโตต่อไป โดยที่ AI เป็นตัวขับเคลื่อนความต้องการระดับพรีเมียม

ไม่เพียงเท่านี้ ในเวลาเดียวกัน Samsung กำลังระดมทรัพยากรเพื่อรับมือกับความไม่สงบของแรงงานที่เพิ่มขึ้น สหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของ Samsung ได้จัดการหยุดงานและชุมนุมรอบๆ โรงงานผลิตชิปของบริษัท จากการประท้วงไม่ได้ทำให้การผลิตล่าช้า

ล่าสุด Samsung ยังได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในการสนับสนุนผู้เข้าแข่งขันทุกราย และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้เข้าชมงานดังนี้:

- ร่วมกับ Intel พัฒนาระบบการระบุตัวตนที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ทดสอบทักษะกีฬาของตนเองที่สนามกีฬา Stade De France

- ใช้เทคโนโลยีการเชื่อม 5G เพื่อประสบการณ์การรับชมการถ่ายทอดสดสำหรับแฟนทั่วโลกในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือพิเศษกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และบริการออกอากาศโอลิมปิก (OBS)

- มอบ Galaxy Z Flip6 Olympic Edition แก่นักกีฬาโอลิมปิก จำนวนกว่า 17,000 คนทั่วโลก เพื่อบันทึกความทรงจำตลอดช่วงเวลาการแข่งขันอีกด้วย

ทั้งนี้ หุ้นของ Samsung Electronics ปิดตลาดที่ 83,900 วอน เพิ่มขึ้น 3.58%

ที่มา Bloomberg, Nikkei Asia, Yahoo Finance, Samsung Electronics, Olympics 2024

advertisement

SPOTLIGHT