Entertainment Complex ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งกาสิโนขนาดใหญ่ หรือกาสิโนถูกกฎหมาย อย่างที่บางคนเข้าใจ เพราะกาสิโน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Entertainment Complex หรือ Entertainment Complex บางแห่งก็อาจจะไม่มีกาสิโนก็ได้ แล้วแต่การบริหารจัดการของแต่ละที่
"เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" (Entertainment Complex) หรือสถานบันเทิงครบวงจร กำลังกลายเป็นหนึ่งในเมกะโปรเจ็กต์ที่รัฐบาลไทยผลักดัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ
โดยในขณะนี้ โครงการดังกล่าวอยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งกำลังจับตามองกันว่าจะมีการพิจารณาในเดือนมกราคม 2568 นี้
แต่ถึงโครงการนี้จะมีศักยภาพในการสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างไทย การลงทุนขนาดใหญ่เช่นนี้ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงและความท้าทาย
โดยเฉพาะในประเด็นผลกระทบทางสังคม ซึ่งหนึ่งในข้อกังวลหลัก ก็คือการเปิดกาสิโน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาด้านศีลธรรมและการมอมเมาประชาชนได้
SPOTLIGHT อยากชวนทุกคนมาร่วมทำความเข้าใจว่า Entertainment Complex คืออะไร? โครงการนี้มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร? และประเทศไทยพร้อมหรือไม่สำหรับเมกะโปรเจ็กต์ลักษณะนี้?
เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) คือโครงการขนาดใหญ่ที่รวมความบันเทิงหลากหลายประเภทไว้ในพื้นที่เดียว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
โดยโครงสร้างของ Entertainment Complex มักจะประกอบด้วยโรงแรมหรู ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม สนามกีฬา สวนสนุก โรงละคร และบางแห่งอาจมีพื้นที่สำหรับกาสิโน “แต่ไม่ใช่ทุกแห่งที่จำเป็นต้องมี”
ปัจจุบัน หลายประเทศประสบความสำเร็จในการใช้ Entertainment Complex เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้มหาศาล
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ มารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands) ในสิงคโปร์ ซึ่งสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม โดยเฉพาะตึกระฟ้า 3 ตึกที่มีเรือสำราญอยู่ด้านบนสุด
และ กาแล็คซี่ มาเก๊า (Galaxy Macau) ศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรขนาด 1.1 ล้านตารางเมตร ในมาเก๊า ที่มีไฮไลต์คือ โรงแรมหรู 5 ดาว 8 แห่ง สวนน้ำลอยฟ้าขนาด 75,000 ตร.ม. ใหญ่ที่สุดในโลก แหล่งช็อปปิ้งกว่า 100,000 ตร.ม. และสร้างรายได้ให้มาเก๊ามากถึง 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 9.6 แสนล้านบาท ในปี 2023
จากตัวอย่างเหล่านี้ จะเห็นได้ว่า Entertainment Complex ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งกาสิโนขนาดใหญ่ หรือกาสิโนถูกกฎหมาย อย่างที่บางคนเข้าใจ เพราะกาสิโน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Entertainment Complex หรือ Entertainment Complex บางแห่งก็อาจจะไม่มีกาสิโนก็ได้ แล้วแต่การบริหารจัดการของแต่ละที่
สำหรับประเทศไทย ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าสู่พื้นที่ที่มีกาสิโน
และมีการคาดการณ์ว่าโครงการ Entertainment Complex จะดึงดูดเงินลงทุนได้มากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อโครงการ และสร้างรายได้เพิ่มเติมประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาทต่อปี โดยช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5-20% รวมถึงเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวจากเดิม 40,000 บาท เป็น 60,000 บาทต่อคนต่อทริป
โดยรัฐบาลได้กำหนดอายุของใบอนุญาตสัมปทานไว้ที่ 30 ปี โดยสามารถต่ออายุได้ครั้งละ 10 ปี ค่าใบอนุญาตสัมปทานอยู่ที่ 5,000 ล้านบาทต่อครั้ง พร้อมค่าธรรมเนียมรายปีอีก 1,000 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อรัฐบาลเปิดเผยแผนการลงทุนนี้ออกมา กลุ่มทุนที่มีที่ดินและความพร้อมก็ต่างออกมาแสดงความสนใจและเสนอตัวเพื่อขอชิงใบอนุญาตสัมปทานในทันที
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุนในประเทศอย่าง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหาร “อิมแพ็ค เมืองทอง” / กลุ่มบริษัท สยามพาร์ค ซิตี้ ผู้ดำเนินธุรกิจสยามอะเมซิ่งพาร์ค หรือสวนสยาม/
หรือกลุ่มทุนต่างประเทศที่มีประสบการณ์สร้าง Entertainment Complex ในประเทศอื่นๆ มาแล้ว อย่าง กาแลกซี่ เอนเตอร์เทนเมนต์ (Galaxy Entertainment Group) ผู้สร้างและดำเนินการ Galaxy Macau, เอ็มจีเอ็ม ไชน่า (MGM China), แซนด์ส ไชน่า (Sands China) และวินน์ มาเก๊า (Wynn Macau)
อย่างไรก็ตาม การพัฒนา Entertainment Complex ในไทยมีหลายข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาล ที่ยังมีจุดอ่อนหลายอย่างและอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
หนึ่งในประเด็นสำคัญคือ ไม่มีการกำหนดสัดส่วนที่ชัดเจนของกาสิโนในโครงการ มีเพียงแนวคิดจากอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยเสนอในงาน Vision for Thailand 2024 ที่ผ่านมาว่า กาสิโนจะคิดเป็นเพียง 10% ของพื้นที่ทั้งหมดในโครงการ Entertainment Complex เท่านั้น
นอกจากนี้ประเด็นอำนาจในการอนุมัติ ออกใบอนุญาต กำหนดพื้นที่ และควบคุมกิจการทั้งหมดอยู่ในมือของคณะกรรมการนโยบายฯ โดยไม่มีกรอบนโยบายที่ชัดเจนหรือกลไกตรวจสอบจากประชาชนหรือสภา ส่งผลให้คณะกรรมการอาจสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับจำนวนและที่ตั้งของกาสิโนได้เอง โดยไม่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่
อีกเรื่องที่น่าห่วงคือ ใบอนุญาตที่มีอายุ 30 ปี และต่ออายุได้ ซึ่งอาจเปิดช่องให้ทุนใหญ่ได้ประโยชน์ ถือครองกิจการได้ยาวนาน โดยไม่ต้องมีการประมูล แต่ให้คณะกรรมการเป็นผู้เลือกและอนุมัติเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การทุจริตและขาดความโปร่งใส
ขณะที่เรื่องสิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพราะการสร้างสถานบันเทิงขนาดใหญ่ต้องใช้พื้นที่มาก อาจทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า กระทบต่อธรรมชาติ ระบบนิเวศ และชุมชนใกล้เคียง รวมถึงปัญหามลพิษที่ตามมา
ขณะที่มุมมองของเลขาธิการรณรงค์มูลนิธิหยุดพนัน นายะนากร คมกฤส ได้โพสเฟซบุก แสดงความเป็นห่วงในการพัฒนาโครงการ Entertainment Complex ของรัฐบาล ที่หากเน้นไปที่กาสิโนถูกกฏหมายเป็นหลักจะส่งผลกระทบอยางมากต่อสังคม โดยรายละเอียดของโพส ระบุว่า
ดังนั้นจากข้อมูลทั้งหมด จะเห็นได้ว่า Entertainment Complex อาจเป็นโครงการสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ช่วยดึงดูดนักลงทุน และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว แต่การดำเนินโครงการจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมที่รัดกุมเพื่อลดผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
สิ่งสำคัญคือ การกำหนดสัดส่วนของกาสิโนให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้โครงการกลายเป็นแหล่งพนันขนาดใหญ่ โดยควรเน้นการพัฒนาห้างสรรพสินค้า สวนสนุก และพื้นที่สาธารณะให้เป็นจุดขายหลักรวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนและหน่วยงานอิสระมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและให้ความเห็นต่อการอนุมัติและกำหนดพื้นที่กาสิโน เพื่อความโปร่งใสและลดความเสี่ยงในการทุจริต
ทุกท่านมีคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการสร้าง Entertainment Complex เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับปัจจุบันหรือไม่? หรือมองว่าต้องมีการปรับแก้เพิ่มเติม?