Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
Samsung ตอกย้ำแบรนด์ยอดขายอันดับ 1 ในไทย ผ่านนวัตกรรม AI ที่ใช้ได้จริง
โดย : อิทธิพัทธ์ วิวัฒรางกูล

Samsung ตอกย้ำแบรนด์ยอดขายอันดับ 1 ในไทย ผ่านนวัตกรรม AI ที่ใช้ได้จริง

20 พ.ย. 67
14:53 น.
|
415
แชร์

ปี 2567 ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของ ‘Samsung Galaxy’ จากการเปิดตัว ‘AI Phone’ ครั้งแรกของโลก ที่ช่วยยกระดับการสื่อสารให้สนุกและสะดวกสบายขึ้น ผ่านการนำนวัตกรรมและฟีเจอร์ AI มาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้หลายคน ‘เปลี่ยนใจ’ มาเป็นหนึ่งในลูกค้าของ Samsung แม้เคยเป็นสาวกของแบรนด์คู่แข่งมาก่อน

Samsung ตอกย้ำแบรนด์ยอดขายอันดับ 1 ในไทย ผ่านนวัตกรรม AI ที่ใช้ได้จริง

นับตั้งแต่ที่ Samsung เปิดตัว ‘Galaxy S24’ สมาร์ทโฟนเรือธงที่มีฟีเจอร์ AI จำนวนมาก ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับแบรนด์ ลูกค้าจำนวนมากเปลี่ยนใจมาใช้สมาร์ทโฟน AI ของ Samsung ซึ่งเห็นได้ชัดมากขึ้น หลังจากที่มีการเปิดตัว ‘Galaxy Z Flip 6’ และ ‘Galaxy Z Fold 6’ ได้ดันยอดขายในประเทศไทย จนกลายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนไทยในปีนี้ไปแล้ว

พรรณวลัย อินทราพิเชฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร Thai Samsung Electronics กล่าวว่า Samsung เป็นเจ้าแรกที่พูดถึง AI แม้ผู้ใช้งานคนไทยอาจยังไม่เข้าใจ หรือเข้าถึง AI อย่างจริงจัง แต่สิ่งที่ Samsung ได้สื่อสารไปสู่ผู้ใช้งานจริง คือ การทำให้เห็นถึงความสะดวกสบายที่ผู้ใช้งานจะได้รับ จากการใช้งาน AI ของ Samsung เช่น ฟีเจอร์ ‘Sketch to Image’ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ในการแต่งเติมรูปภาพ

“Samsung พยายามพูดถึงฟีเจอร์ Sketch to Image หรือการใช้ S-Pen เพื่อทำให้ผู้ใช้งานเห็นว่า AI มันใช้ได้จริง ทั้งยังช่วยแปลภาษา สื่อสาร และนำทาง มันไม่ใช่แค่ตัว ‘A’ กับ ‘I’ เท่านั้น แต่มันคือ ‘artificial intelligence’ ที่สามารถใช้ได้จริง โดยไม่มีการ overclaim แต่อย่างไร” พรรณวลัย กล่าว

การทำแบรนด์แบบ Samsung ประเทศไทย

‘พรรณวลัย’ กล่าวว่า ประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่สูงมาก แต่สำหรับการใช้งาน AI ยังไม่เยอะมาก มีเพียงประมาณ 30-40% เท่านั้น แต่ก็เห็นถึงการเติบโตเรื่อยๆ โดยสาเหตุที่ยังไม่เห็นถึงการใช้งาน เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นถึง ‘ประโยชน์’ ของการใช้ AI แม้ทุกอุตสาหกรรมมีการนำเสนอ AI เรื่อยๆ

เพราะฉะนั้น แบรนด์ต้องนำเสนอประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับจากการใช้ AI ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ดังนี้:

  • สินค้าต้องดี ใช้ได้จริง ไม่ overclaim
  • บริการหลังการขายที่ช่วยลูกค้าได้ โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหา
  • สื่อสารตัวตนของแบรนด์ ผ่านหลากหลายช่องทางสม่ำเสมอ
  • มีส่วนร่วมของแบรนด์ ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์

การตลาดในยุคปัจจุบัน เต็มไปด้วยกลยุทธ์ที่ซับซ้อนและหลากหลาย Samsung ใช้การผสมผสานระหว่างการใช้ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ และ ‘สื่อโฆษณาภายนอก’ (Out of Home) เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สำหรับเกณฑ์การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ หรือ KOL ทีมงาน Samsung ทำการวิจัยอย่างจริงจัง เพื่อค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับความชอบ และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายแต่ละ Gen โดยผู้ที่ถูกเลือกมาเป็น KOL ของ Samsung ไม่ได้เป็นเพียงผู้โปรโมทสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ใช้งานจริงที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์จากใจได้อย่างน่าเชื่อถือ

นอกจากช่องทางออนไลน์แล้ว Samsung ยังมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อ Out of Home อย่างต่อเนื่อง แม้บิลบอร์ดจะไม่สามารถวัดผลได้ชัดเจนเหมือนช่องทางดิจิทัล แต่ก็ยังคงเป็นอาวุธลับในการสร้างการมองเห็น (eyeball) ที่ทรงพลัง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การหุ้มโฆษณา Samsung บนรถไฟฟ้า BTS ทั้งขบวนสถานีสยาม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนสัญจรจำนวนมาก

การสร้างแบรนด์ ไม่ได้จบลงเพียงแค่การขายสินค้า แต่ยังครอบคลุมถึงการดูแลลูกค้าหลังการขายด้วย Samsung ให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะกับลูกค้าที่เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์เป็นครั้งแรก ทีมงานจะติดต่อสอบถามความพึงพอใจ พร้อมเสนอการฝึกอบรมออนไลน์ หรือการให้คำแนะนำเพิ่มเติมที่ร้านค้า หากมีปัญหาหรือ

ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานผลิตภัณฑ์ได้เต็มประสิทธิภาพ และลดโอกาสที่ลูกค้าจะกลับไปใช้แบรนด์เดิม Samsung จึงไม่ได้เพียงเพิ่มงบโฆษณาอย่างเดียว แต่สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวผ่านการสื่อสารที่ตรงจุด และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ตั้งแต่วันแรกที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์

“หากผู้ใช้งานหลงรักแบรนด์ไปแล้วเยอะขึ้น พวกเขาก็จะไม่เปลี่ยน และมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ไปเรื่อยๆ โดยต้องอาศัยทั้งคุณสมบัติและบทบาทของผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน และการใส่ ‘emotion’ หรือความรู้สึกให้คนเข้าถึง และเกิดความผูกพันกับแบรนด์ด้วย” พรรณวลัย กล่าว

ฉลองปีแห่งนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมชีวิตผู้คน

ที่ผ่านมา Samsung Galaxy มุ่งเน้นการสื่อสารถึงนวัตกรรมที่ล้ำสมัย แต่สำหรับแคมเปญล่าสุด ‘Say It With Galaxy’ เน้นสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับผู้ใช้งาน เพราะในชีวิตประจำวัน ผู้ใช้งานมักพลาด ‘โมเมนต์เล็กๆ’ ที่สำคัญ

Samsung จึงเปลี่ยนพื้นที่ Central Court (ลานลิฟต์แก้ว) เซ็นทรัลเวิลด์ ให้กลายเป็น ‘จักรวาลแห่งความคิดถึง’ ส่งท้ายปี ชวนทุกคนส่งต่อความรู้สึกดีๆ ผ่านจอยักษ์สูงเทียบเท่าตึก 4 ชั้น ผ่านการถ่าย แชร์ และโพสต์โมเมนต์สุดพิเศษของชีวิต พร้อมติด #SayItwithGalaxy เพื่อแบ่งปันเรื่องราวแห่งความรัก ความคิดถึง และความทรงจำที่มีคุณค่า 

สาเหตุที่เลือก ‘เซ็นทรัลเวิลด์’ เป็นพื้นที่ส่งต่อความคิดถึง เป็นเพราะเซ็นทรัลเวิลด์มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปลายปีที่ถือเป็นฤดูพีคที่สุด ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มการมองเห็นแคมเปญ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาสัมผัสประสบการณ์จริง เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทดลองฟีเจอร์ AI และ S Pen ที่สามารถแก้ไขหรือแต่งภาพได้ทันที

นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลองใช้สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S24 Ultra, Galaxy Z Flip 6, Galaxy Z Fold 6, และ Galaxy Tab S10 ในการสร้างสรรค์ภาพสวยๆ พร้อมคำอวยพรจากฟีเจอร์ Galaxy AI อย่าง Sketch to Image โดยภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อความจะปรากฏขึ้นบนจอที่สูงกว่า 4 ชั้น ณ โซนกิจกรรมชั้น 1 บริเวณ Central Court (ลานลิฟต์แก้ว)

‘พรรณวลัย’ กล่าวว่า แคมเปญ Say it with Galaxy คือ บทพิสูจน์ของความมุ่งมั่นในการสร้างเทคโนโลยีที่มากกว่านวัตกรรม แต่เป็นเครื่องมือที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน Samsung ต้องการให้เทคโนโลยีที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาแห่งความสุข และเป็นสื่อกลางในการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ที่เต็มไปด้วยคุณค่า โดยคาดหวังให้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 20,000 คนตลอดแคมเปญ

ทั้งนี้ แคมเปญ ‘Say it with Galaxy’ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 – 5 มกราคม 2568 ที่ Central Court ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์

แชร์
Samsung ตอกย้ำแบรนด์ยอดขายอันดับ 1 ในไทย ผ่านนวัตกรรม AI ที่ใช้ได้จริง