กบฏเมียนมาเสนอขายแร่ธาตุสำหรับผลิตนิวเคลียร์ผ่านยากูซ่าญี่ปุ่น
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเปิดเผยว่า หัวหน้าแก๊งยากูซ่าของญี่ปุ่น ให้การรับสารภาพว่ามีความผิดจริงในการลักลอบขนวัตถุดิบผลิตนิวเคลียร์จากเมียนมา โดยระหว่างการสอบสวนของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ หรือ DEA ในปี 2021 นายทาเคชิ เอบิซาวา ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่า ได้พยายามขายยูเรเนียมและพลูโตเนียมเกรดผลิตอาวุธให้แก่ใครคนหนึ่ง ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นนายพลของอิหร่าน โดยนายพลคนนั้นต้องการวัตถุดิบเหล่านี้ไปใช้ในโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน
คอนเทนต์แนะนำ
นายเอบิซาวา วัย 60 ปี ได้ให้การรับสารภาพที่ศาลนิวยอร์กวานนี้ (8 มกราคม 2025) ว่า สมคบคิดกับเครือข่าย ร่วมกันลักลอบขนส่งวัตถุดิบสำหรับผลิตนิวเคลียร์ออกจากเมียนมา นอกจากนี้ เขายังยอมรับข้อหาค้ายาเสพติดข้ามชาติและข้อหาเกี่ยวกับการค้าอาวุธอีกด้วย
เมื่อปี 2021 เอบิซาวาให้ปากคำกับ DEA ว่า มีผู้นำของกลุ่มกบฏไม่ทราบชื่อในเมียนมา เสนอขายแร่ธาตุซึ่งสามารถนำไปผลิตนิวเคลียร์ได้ ผ่านตัวกลางคือเขาเอง ให้กับนายพลชาวอิหร่านคนหนึ่ง โดยกลุ่มกบฏดังกล่าวจะนำเงินไปใช้ในการซื้ออาวุธ เพื่อรบกับรัฐบาลทหาร หนึ่งปีให้หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐฯจับกุมนายเอบิซาวาในข้อหาเป็นผู้วางแผนขายยาเสพติดในสหรัฐฯ และซื้อขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศเพื่อส่งไปให้เมียนมา ขณะที่ก่อนหน้านั้นเมื่อปีที่แล้ว นายเอบิซาซาถูกตั้งข้อหาขายสินค้าให้แก่อิหร่าน และเขายอมรับสารภาพล่าสุดว่าทำเช่นนั้นจริง
อัยการประจำเขตนิวยอร์กเปิดเผยว่า เอบิซาวะได้ยอมรับต่อศาล ในประเด็นลักลอบขนวัตถุดิบในการผลิตนิวเคลียร์ รวมถึงพลูโทเนียมเกรดที่ใช้ผลิตอาวุธ ออกจากเมียนมา ขณะเดียวกัน เขายังพยายามส่งเฮโรอีนและยาบ้าในปริมาณมหาศาลเข้าสู่สหรัฐฯ เพื่อแลกกับอาวุธหนัก เช่น ขีปนาวุธแบบพื้นสู่อากาศ เพื่อนำไปใช้ในเมียนมา และเขายังทำฟอกเงิน ซึ่งคาดว่า เป็นเงินที่ได้จากยาเสพติด โดยใช้วิธีโอนเงินจากนิวยอร์กไปยังโตเกียว
เมียนมาเผชิญกับสงครามกลางเมืองตั้งแต่เกิดรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 หลังจากที่กองทัพของประเทศล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
เมียนมาเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แร่หายากและวัสดุอื่น ๆ ที่มีความสำคัญต่อเทคโนโลยีพลเรือนและการทหาร รวมถึงยูเรเนียม แต่ในขณะเดียวกัน เมียนมาก็เป็นผู้ผลิตยาเสพติดรายใหญ่ และมักตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมข้ามชาติ
ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในเมียนมาทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการค้าข้ามชาติที่ผิดกฎหมาย ตั้งแต่แร่ธาตุที่ใช้ผลิตนิวเคลียร์ไปจนถึงยาเสพติด
