ในที่สุดก็มาถึงวันที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มมา 32 บาท/ลิตร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมาเป็นต้นไป หลังรัฐบาลใช้ความพยายามอัดเงินตรึงมายาวนานจนไม่สามารถมีเงินนำมาช่วยอุดหนุนได้อีกต่อ แน่นอนว่าจากราคาในตลาดโลกตอนนี้ราคาดีเซลก็จะทยอยขึ้นแบบขั้นบันไดไปวิ่งชนเพดานที่ 35 บาทตามนโยบายที่รัฐบาลประกาศไว้
แต่หากราคาน้ำมันโลกทะยานไปต่อมีโอกาสที่ราคาทะลุเพดานนี้ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะด้วยสถานการณ์วิกฤตสงครามรัฐเซียกับยูเครนที่มีท่าทีว่าคงไม่จบลงแบบง่ายๆ จนส่งผลให้ตอนนี้ราคาน้ำมันเบนซินจะยังมีโอกาสพุ่งต่อเนื่องแบบไร้เพดานได้ด้วย
ดังนั้นในฐานะผู้ขับขี่ใช้รถในการเดินทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. นี้เป็นต้นไปที่รัฐบาลเปิดประเทศ ส่งผลให้การเดินทางจะทยยกลับมามาสู่ภาวะปกติซึ่งหลายๆ บริษัทก็เริ่มประกาศยกเลิกนโยบาย Work from Home แล้ว ลองมาเปรียบเทียบว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันแค่ไหน
โดยจากศึกษาข้อมูลพบว่าการใช้รถยนต์อีวีสามารถประหยัดกว่าการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เพราะเมื่อเปรียบเทียบกัรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงจะวิ่งได้ระยะทาง 12 กิโลเมตรต่อการใช้น้ำมัน 1 ลิตร โดยราคา 1 ลิตร ราว 40 บาท หรือตกกิโลเมตรละราว 3 บาทกว่า เทียบกับรถยนต์อีวีที่วิ่งระยะทาง 6 กิโลเมตรต่อการใช้ไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์ เรียกว่าเทียบกันแล้วในด้านค่าเติมเชื้อเพลิงค่าใช้จ่ายของรถอีวีต่ำกว่ารถยนต์น้ำมันไปหลายเท่าตัว
ส่วนค่าซ่อมบำรุงรักษารถต่อระยะทาง 100,000 กิโลเมตรรถยนต์อีวีจะมีค่าบำรุงรักษาปีละ 8,000 บาทต่อปี เปรียบเทียบกัรถยนต์ที่ใช้น้ำมันที่จะมีค่าซ่อมบำรุงรักษา 30,000 บาทต่อ เรียกว่าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ถูกว่าทั้งค่าเชื้อเพลิงและค่าซ่่อม
ขณะที่กระแสความนิยมใช้งานรถยนต์อีวี กำลังเร่งติดเครื่องโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังเป็นขาขึ้นเป็นรายวันยิ่งเร่งให้คนหันมาสนใจเพราะมีผลการศึกษาออกมาว่าค่าใช้จ่ายในการการชาร์จรถอีวีนั้นถูกว่ารถที่ใช้น้ำมันถึง 3 เท่า
แน่นอนปั๊มน้ำมันเบอร์หนึ่งของไทยอย่าง บมจ.ปตท.(PTT) คงอยู่นิ่งไมได้เช่นกันที่ก่อนหน้านี้ประกาศร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ ร่วมกับ Foxconn ตั้งบริษัทร่วมทุน HORIZON PLUS สร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร พื้นที่โรงงานกว่า 350 ไร่ ในเขตอีอีซี หรือ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมผลิตรถยนต์ EV สู่ตลาดภายในปี 2567
ดังนั้นเมื่อมีรถยนต์อีวีแล้วที่ขาดไม่ต้องมีสถานีหรือจุดชาร์จ โดยตอนนี้บริษัทในเครือ ปตท. ออกมาประกาศแล้วว่าในปีนี้น่าจะจุดชาร์จรถอีวีแตะ 1,500 แห่ง ซึ่งจะที่ไหนและแผนจะเป็นอย่างไรลองไปดูกัน
เริ่มที่ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) บริษัทลูกของ ปตท. ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้เข้าลุยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรถอีวีโดยเฉพาะ ได้เปิดให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ออน- ไอออน (on-ion EV Charging Station) อย่างเป็นทางการในพื้นที่ศูนย์การค้า 6 แห่งของ กองทรัสต์อัลไล ได้แก่ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ เดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์ เพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล และ สัมมากร เพลส รามคำแหง
พร้อมให้บริการผู้ใช้งาน EV ด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (AC Charger) รองรับรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV : Plug-in Hybrid) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV: Battery Electric Vehicle) ทุกรุ่น ทุกแบรนด์ที่มีหัวชาร์จ Type 2 สามารถจองและควบคุมการใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application รองรับทั้งระบบ Android และ iOS สะดวกในการค้นหาสถานี จอง จอด จ่าย ง่าย ๆ และพิเศษสำหรับลูกค้า ออน-ไอออน จะได้รับส่วนลดค่าบริการ 50% สำหรับการใช้งาน on-ion EV Charging Station ในศูนย์การค้าของกองทรัสต์อัลไล ทั้ง 6 แห่ง รวมทั้งอาคารจอดรถ Energy Complex และ EECi วังจันทร์วัลเลย์ ตั้งแต่วันนี้ - 31 พ.ค. 2565
โดย ออน-ไอออน เตรียมขยายสถานีบริการอัดประจุบนทำเลศักยภาพอีกกว่า 1,000 เครื่อง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ภายในปี 2565 รองรับการเติบโตของตลาด EV ในประเทศ ตลอดจนร่วมขับเคลื่อนและสนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีบริการติดตั้ง PTT EV Charger ในที่พักอาศัย ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @onionev
ข้อมูลจุดชาร์จ ออน-ไอออน ปัจจุบันมี 10 แห่ง ได้แก่
1.True Digital Park สุขุมวิท 101
2. ศูนย์นิทรรศการและการประชุม BITEC บางนา
3.Energy Complex (EnCo)
4.EECi วังจันทร์วัลเลย์ จ. ระยอง
5. ศูนย์การค้า คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์
6. ศูนย์การค้าเดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา
7. ศูนย์การค้า เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์
8. เดอะคริสตัล ชัยพฤกษ์
9. เพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล
10. สัมมากร เพลส รามคำแหง
จุดชาร์จ ออน-ไอออน ปัจจุบันมี 10 แห่ง ปัจจุบันมีการคิดอัตราค่าให้บริการ โดยแต่ละจุดคิดอัตราค่าบริการที่ไม่เท่ากัน โดยลูกค้าสามารถดูค่าบริการแต่ละจุดได้จากการจองใช้งานผ่าน Application on-ion
บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก(OR) เป็นอีกบริษัทลูกในเครือ ปตท.ที่เดิมมีธุรกิจปั๊มน้ำมันครองอัน 1 ของไทยเริ่มทำการ Disrupt ตัวเองหลังปูพรมติดตั้งจุดชาร์จรถอีวี โดยกำหนดแปนทั้งระยะสั้นและระยะยาวไว้ชัดเจน โดยแผนการขยายใน 2565 นี้ วางแผนการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า EV Station PluZ ให้มากขึ้น รวมเป็น 500 แห่ง ภายในปี 2565 และยังแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการขยาย EV Station PluZ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมาย 7,000 แห่งในปี 2573
• สถานีบริการน้ำมัน PTT Station, สถานีบริการ LPG, สถานีบริการ NGV บนถนนสายหลัก ถนนสายรอง อำเภอขนาดใหญ่ และเชื่อมสู่เส้นทางแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
• Commercial Area ห้างสรรพสินค้า โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร และอาคารสำนักงาน
มีทั้งเครื่องชาร์จทั้งในรูปแบบ Normal Charge และ Quick Charge
• รูปแบบ Quick Charge เหมาะสำหรับรถยนต์ประเภท BEV หรือไฟฟ้า 100% ใช้ระยะเวลาน้อยในการชาร์จ เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่เร่งด่วน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมือง และการเดินทางท่องเที่ยว โดยจะใช้เวลาชาร์จประมาณ 30 นาที เพื่อเติมความจุได้เต็ม 80% ของความจุแบตเตอร์รี่
• รูปแบบ Normal Charge เหมาะสมสำหรับรถยนต์ประเภท PHEV (Plug-In Hybrid Electric Vehicle) หรือ BEV ที่มีการใช้งานในพื้นที่ที่เป็น Destination/ Workplace มีการจอดนาน ใช้เวลาในการชาร์จขั้นต่ำ 3 ชม. ขึ้นอยู่กับรูปแบบเครื่องยนต์ของรถ และความจุของแบตเตอร์รี่
• สถานีบริการน้ำมัน PTT Station จำนวน 97 แห่ง
1. สถานีชาร์จรูปแบบ Quick Charge 75 แห่ง
• กำลังไฟ 50, 75, 120,160 กิโลวัตต์
• หัวชาร์จ DC CCS COMBO 2, CHAdeMO และ AC Type – 2
2. สถานีชาร์จรูปแบบ Quick Charge + Normal Charge 5 แห่ง
• กำลังไฟ 7.4, 120 กิโลวัตต์
• หัวชาร์จ DC CCS COMBO 2, CHAdeMO และ AC Type – 2
3. สถานีชาร์จรูปแบบ Normal Charge 17 แห่ง
• กำลังไฟ 7.4 กิโลวัตต์
• หัวชาร์จ AC Type – 2
• สถานีบริการ LPG, สถานีบริการ NGV และ Commercial Area จำนวน 8 แห่ง
1. สถานีชาร์จรูปแบบ Quick Charge 3 แห่ง
• กำลังไฟ 120 กิโลวัตต์
• หัวชาร์จ DC CCS COMBO 2, CHAdeMO และ AC Type – 2
2. สถานีชาร์จรูปแบบ Quick Charge + Normal Charge 1 แห่ง
• กำลังไฟ 7, 22, 120 กิโลวัตต์
• หัวชาร์จ DC CCS COMBO 2, CHAdeMO และ AC Type – 2
3. สถานีชาร์จรูปแบบ Normal Charge 5 แห่ง
• กำลังไฟ 7, 22 กิโลวัตต์
• หัวชาร์จ AC Type – 2
ภาคเหนือ
-กรุงเทพมหานคร - เชียงใหม่ จำนวน 14 แห่ง
ภาคใต้
-กรุงเทพมหานคร - สุราษฎร์ธานี จำนวน 7 แห่ง
-กรุงเทพมหานคร - ภูเก็ต จำนวน 11 แห่ง
ภาคตะวันออก
-กรุงเทพมหานคร – ชลบุรี จำนวน 5 แห่ง
ภาคอีสาน
-กรุงเทพมหานคร - อุดรธานี จำนวน 13 แห่ง