สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล ในเขตชานเมืองทางตอนใต้กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน พร้อมเผยแพร่ภาพวีดิโอปรากฏให้เห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นจากบริเวณดังกล่าว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 เม.ย.) ในช่วง 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล และรัฐมนตรีกลาโหม อิสราเอล แคตซ์ แถลงร่วมระบุว่า เป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้คือคลังอาวุธและโรงงานจัดเก็บ ‘ขีปนาวุธนำวิถีความแม่นยำ’ สูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ก่อนที่กองทัพอิสราเอลจะเริ่มปฏิบัติการทำลายคลังอาวุธ อาวิเชย์ อะดราอี โฆษกกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ได้แนะนำให้พลเรือนอพยพออกจากพื้นที่ฮาดาธ ซึ่งเป็นเขตที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใช้เป็นฐานที่ตั้งอย่างลับ ๆ โดยแจ้งเพียงให้ประชาชนอยู่ห่างจากเขตดังกล่าวอย่างน้อย 300 เมตร ทั้งนี้ การโจมตีดังกล่าวฉีกข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งประกาศใช้ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
ด้านประธานาธิบดีเลบานอน โจเซฟ อูน ประณามการโจมตีดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ และฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิงที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ออกมากดดันอิสราเอลให้ยุติการรุกรานทันที โดยออกแถลงการณ์ระบุว่า “อิสราเอลยังคงบ่อนทำลายเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ความตึงเครียดทวีความรุนแรงมากขึ้น และทำให้ภูมิภาคนี้เผชิญกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงและเสถียรภาพ”
ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างเลบานอนและฮิซบอลเลาะห์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2024 ทั้งอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ตกลงที่จะยุติการโจมตีข้ามพรมแดน พร้อมถอนกำลังออกจากพื้นที่ชายแดนเลบานอน-อิสราเอล
BBC รายงานว่า นับตั้งแต่การหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มีผลบังคับใช้ กองทัพอิสราเอลได้โจมตีหลายครั้ง โดยโจมตีเลบานอนตอนใต้เป็นประจำ โดยใช้เหตุผลเดียวกันว่าเป็นไปเพื่อการทำลายล้างอาวุธที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์พยายามซุ่มสะสม แต่การโจมตีในเมืองหลวงเช่นนี้ เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และกลับมาเริ่มต้นโจมตีอีกครั้งตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
สำนักข่าวแห่งชาติเลบานอนรายงานว่า นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ การทิ้งระเบิดและการยิงโดยฝีมืออิสราเอลได้คร่าชีวิตผู้คนในเลบานอนไปแล้ว 149 ราย ขณะที่ข้อมูลจากสหประชาชาติเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว เป็นพลเรือน 71 ราย
จีนีน เฮนนิส ผู้ประสานงานพิเศษของสหประชาชาติประจำเลบานอน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดโจมตีตามข้อตกลงที่เคยลงนามกันไว้ และกล่าวว่า การโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้เกิดความตื่นตระหนกและความกลัวต่อความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นใหม่ เท่ากับความความคาดหวังที่จะมีสันติภาพจนสถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติยิ่งเป็นไปได้ยาก
ช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ สำนักงานสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเตือนว่า การโจมตีของอิสราเอลในเลบานอนยังคงคร่าชีวิตพลเรือนอย่างต่อเนื่อง ในการแถลงข่าวที่เจนีวา ทามีน อัล-คีตัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิ มนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างอิสราเอลและเลบานอน รวมถึงการโจมตีอาคารที่พักอาศัยในเขตชานเมืองทางใต้ของเบรุตเมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทำให้พลเรือนเสียชีวิต 2 ราย พื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับโรงเรียน 2 แห่งและได้รับความเสียหายอย่างหนัก
สองวันต่อมา การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้ทำลายศูนย์การแพทย์ที่เพิ่งเปิดใหม่ในเมืองนาคูรา ทางตอนใต้ของเลบานอน และทำให้รถพยาบาลที่ประจำการอยู่ใกล้ๆ ได้รับความเสียหาย การโจมตีเพิ่มเติมระหว่างวันที่ 4 ถึง 8 เมษายน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 รายในเมืองต่างๆ ทั่วตอนใต้ของเลบานอน
ขณะเดียวกัน นับตั้งแต่เริ่มมีการหยุดยิง กองทัพอิสราเอลก็ออกมาเปิดเผยว่าเลบานอนก็โจมตีอิสราเอลเช่นกัน ทั้งยิงจรวดอย่างน้อย 5 ลูก ยิงปืนครก 2 ลูก และใช้โดรนโจมตี 1 ลำ ในพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล ทำให้ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนได้รับความเดือดร้อนและต้องอพยพออกจากพื้นที่หลายครั้ง