หลายคนคงสงสัยว่าทำไมซื้อลอตเตอรี่หรือสลากกินแบ่งรัฐบาลยังไงก็ไม่เคยถูกรางวัลซะที โดยคอหวยส่วนใหญ่ที่ลงทุนไปลอตเตอรี่แน่นอนว่ามีความฝันอันสูงสุดว่าจะถูกรางวัลที่ 1 คว้ารางวัลใหญ่สักครั้งในชีวิต แต่กลับทำได้แค่เฉียดไปมา บางคนไม่เคยกระทั่งถูกราววัลเล็กสุดอย่างเลขท้าย 2 ตัว
ดังนั้นเราจึงควรใช้หลักคณิตศาสตร์มาช่วยในการวิเคราะห์ โดยจากการคำนวณเชิงสถิติหรือความน่าจะเป็นในการถูกรางวัลแล้ว ในแต่ละงวด "คอหวย" จะมีโอกาสที่จะถูกหวยรางวัลใดรางวัลหนึ่ง มีเพียง 1.4% แต่โอกาสถูกหวยรับประทาน คือ 98.6% ส่วนโอกาสที่เราจะถูกรางวัลที่ 1 นั้นยิ่งน้อยนิดมากไปมีเพียงแค่ 0.0001% เป็นคือ 1 ในล้านที่จะถูกหวยรางวัลที่ 1
ข้อมูลจากปัจจุบันสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กำหนดโควต้าในการพิมพ์สลากฯ ต่องวดไว้ที่ไม่เกินจำนวน 100 ล้านฉบับ โดยแบ่งจัดการการพิมพ์เป็นสลากจำนวน 100 ชุด โดยสลากแต่ละชุด จะมีจำนวน 1 ล้านฉบับ นั่นเอง ดังนั้นเมื่อมาศึกษาความน่าจะเป็นของโอกาสในการถูกสลากควรเปรียบโอกาสในการถูกรางวัลต่อ 1 ชุด จำนวน 1 ล้านฉบับ จะทำให้นักเสี่ยงโชคจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นในการถูกรางวัลมากยิ่งขึ้น โดยสลาก 1 ชุด หรือจำนวน 1 ล้านฉบับ จะมี 14,168 รางวัล เป็นเงินรางวัลจำนวน 48,000,000 บาท
รางวัลที่ 1 มีจำนวน 1 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 1 ในล้าน หรือ 0.0001%
รางวัลที่ 2 มีจำนวน 5 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 5 ในล้าน หรือ 0.0005%
รางวัลที่ 3 มีจำนวน 10 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 10 ในล้าน หรือ 0.0010%
รางวัลที่ 4 มีจำนวน 50 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 50 ในล้าน หรือ 0.0050%
รางวัลที่ 5 มีจำนวน 100 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 100 ในล้าน หรือ 0.001%
รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 มีจำนวน 2 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 2 ในล้าน = 0.0002%
รางวัลเลขหน้า 3 ตัว มีจำนวน 2,000 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 2,000 ในล้าน หรือ 0.2%
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว มีจำนวน 2,000 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 2,000 ในล้าน หรือ 0.2%
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว มีจำนวน 10,000 รางวัล จะมีโอกาสถูกเงินรางวัล 10,000 ในล้าน หรือ 1%
ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล