บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)(OR) หรือ 'โออาร์' เป็นบริษัทในเครือ ปตท. ที่ทำธุรกิจสถานีบริการเติมน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมัน (Non Oil) ทั้งในและต่างประเทศ โดยภายหลังจากโออาร์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเดือน ก.พ. 2564 เริ่มเห็นการขยับรุกหนักขยายไปลงทุนในธุรกิจ Non Oil มากขึ้น
ปัจจุบันเปลี่ยนนิยามใหม่มาเป็น Lifestyle ซึ่งมีธุรกิจอย่างเช่น ธุรกิจกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ร้านสะดวกซื้อ และการบริหารจัดการพื้นที่ ส่วนกลุ่ม Oil เดิมก็เปลี่ยนนิยามใหม่มาเป็น Mobility เพราะต้องการขยายธุรกิจออกไปจากกรอบเดิมที่เคยทำ เช่น กลุ่มธุรกิจ Innovation ด้านอาหาร, ธุรกิจสตาร์อัพ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์อีวี เป็นต้น
โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา โออาร์ได้เปิดดำเนินการศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจค้าปลีกโรงงานผลิตผงผสมเครื่องดื่ม และโรงงานผลิตเบเกอรี่ Cafe Amazon ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และลงทุนเพื่อต่อยอดและสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Mobility & Lifestyle สะท้อนว่ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ถือเป็นธุรกิจที่กำลังมุ่งที่สร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต
โดย OR เริ่มหันมาให้ความสำคัญในธุรกิจกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึง Innovation เพิ่มมากขึ้นซึ่งในระยะหลัง
เนื่องจากจะเห็นได้ว่า ได้จัดตั้งกองทุน “ออร์ซอน เวนเจอร์ส” (ORZON Ventures, L.P.) โดยร่วมกับกองทุน 500 TukTuks เพื่อแสวงหาและสนับสนุนสตาร์ทอัพใหม่ในระดับซีรีย์ A-B ซึ่งเป็นระยะเริ่มต้น โดยมุ่งเน้นทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ โออาร์ และธุรกิจใหม่ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและสร้างความเติบโตระยะยาว
OR ประกาศงบลงทุน 5 ปี ระหว่าง 2565-2569 วงเงิน 93,500 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจต่าง ๆ ประกอบด้วย ธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมัน 36.3% ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน ธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ 21.8% การลงทุนด้านนวัตกรรม 20.4% ธุรกิจต่างประเทศ 14.2% และระบบโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคและอื่น ๆ อีก 7.3% แสดงให้เห็นว่าตาม 5 ปีของ OR จะแบ่งใช้เงินลงทุนมากกว่าสัดส่วน 50% ของงบทั้งก้อนที่ตั้งไว้นำมาใช้ลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน
ขณะที่ 'พิจินต์ อภิวันทนาพร' รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก(OR) ให้ข้อมูลกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ว่า แผนธุรกิจช่วง 5 ปีช่วงระหว่างปี 2565-2569 ต่อโดยบริษัทยังเน้นสัดส่วนการขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน(Non Oil) โดยปัจจุบันบริษัทให้นิยามว่าเป็นธุรกิจกลุ่ม Lifestyle ซึ่งรวมถึงแบรนด์กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) และอื่นๆ เพราะต้องการขยายขอบเขตการลงทุนให้กว้างขึ้น
เนื่องจากกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มีเทรนด์การเติบโตที่ค่อนข้างดี รวมถึงมีอัตรากำไรที่สูง โดยมีอัตรากำไรก่อนภาษี, ค่าเสื่อม และดอกเบี้ยจ่าย(EBITDA Margin)เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25% สูงกว่าของธุรกิจธุรกิจกลุ่มน้ำมัน(Oil) ซึ่งปัจจุบันบริษัทให้นิยามใหม่ว่าเป็น Mobility เพราะมีการขยายธุรกิจออกไปในกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มด้วย อาทิ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ EV ที่มี EBITDA Margin เฉลี่ยเพียง 3-5%
ผู้บริหาร OR อธิบายต่อว่า แม้ในอนาคตจะเน้นการให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจในกลุ่ม Lifestyle เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ภาพรวมอัตรากำไรเฉลี่ยในอนาคตของ OR ดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจกลุ่ม Mobility จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลง โดยธุรกิจกลุ่มนี้ยังสามารถเติบโตได้อยู่ตามแผนธุรกิจ เพียงแต่จะเห็นสัดส่วนพอร์ตธุรกิจ Lifestyle ขยายใหญ่ขึ้นเพราะปัจจุบันยังมีสัดส่วนที่ยังไม่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับทั้งพอร์ตรวมธุรกิจของ OR
โดยหากทำได้สำเร็จตามแผนการลงทุนช่วง 5 ปี 0tส่งผลให้บริษัทจะมีสัดส่วนกำไร(EBITDA) เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันดังนี้
แต่เมื่อไล่เรียงดูข้อมูลย้อนหลังในช่วง 1-2 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า OR รุกหนักลงทุนในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม(F&B) โดยทุ่มงบลงทุนมากกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อเข้าไปซื้อหุ้นแบรนด์ F&B ใหม่ๆ มาเติมในพอร์ต ได้แก่ Peaberry, Pacamara, โอกะจู๋, Kouen, Kamu Tea รวมธุรกิจ Innovation อย่าง Freshket ตลาดสดออนไลน์ที่ขายอาหารสด และยังไม่นับรวมธุรกิจใหม่ๆ อีกจำนวนหลายดีลที่ OR เร่งลงทุนต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ร้านกาแฟ Cafe Amazon กำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2545 จากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นถึงโอกาสในการเพิ่มศักยภาพทางการตลาดของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. จึงได้วางแนวคิดให้เป็นธุรกิจหนึ่งในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่สร้างรายได้ให้กับสถานีฯ และตอบสนองต่อไลฟ์สไตร์ของผู้บริโภคและคนเดินทางได้มากขึ้น ปัจจุบันมี 3,685 สาขา
เริ่มสร้างแบรนด์ PEARLY TEA ในปี 2555 โดยอาศัยจุดแข็งจากการมีพื้นที่ปั๊มปตท. ในช่วงนั้นที่มีกว่า 1,400 แห่ง ในการเข้าไปบุกตลาด สู้กับคู่แข่งส่วนใหญ่ก็อาศัยทำเลในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก โดยใช้โมเดลขายขายแฟรนไชส์ ทางเลือกให้กับผู้บริโภค เจาะกลุ่ทคนไม่ดื่มกาแฟ ปัจจุบันมี 169 สาขา
ปี 2558 เข้าซื้อสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนด์ไซส์แบรนด์ Texas Chicken เพื่อนำเข้าและเปิดให้บริการร้าน Texas Chicken ร้านแบรนด์ “ไก่ทอดรสชาติใหม่” สัญชาติสหรัฐ ปัจจุบันมี 95 สาขา
ปี 2563 ทุ่มเงิน 172 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นสัดส่วน 65% ในบริษัท พีเบอร์รี่ ไทย จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม กาแฟครบวงจรในประเทศไทย โดยเป็นทั้งผู้จัดหา ผลิต และจัดจำหน่ายเมล็ดกาแฟ และอุปกรณ์ส้าหรับการเปิดร้าน กาแฟ รวมถึงให้บริการดูแลรักษาเครื่องชงกาแฟให้กับผู้ประกอบการทังในและต่างประเทศ รวมทั้งประกอบธุรกิจร้านกาแฟประเภท Specialty coffee ภายใต้แบรนด์ Pacamara ปัจจุบันมี 17 สาขา
ต้นปี 2564 ประกาศเข้าซื้อหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 20% ใน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด มูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” มีจุดเด่นในเรื่องความสดใหม่ของผักที่ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ และส่งตรงจากฟาร์มผักขนาดใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่ บริษัทได้ตั้งเป้าขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋เพิ่มเติมในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station รวมถึงการจำหน่ายอาหารแบบ Grab & Go ผ่านร้าน Café Amazon ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และภาคเหนือ ปัจจุบันมี 21 สาขา
เดือน ต.ค.2564 ประกาศเข้าซื้อหุ้นสัดส่วนของบริษัท อิ่มทรัพย์ โกลบอล คูซีน(ISGC) ด้วยเงินลงทุนไม่เกิน 192 ล้านบาท เป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้าน Kouen Sushi Bar แบรนด์ Ono sushi โดยการลงทุนครั้งนี้เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เสริมสร้างศักยภาพในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของ OR รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมี 3 สาขาใน พีทีที สเตชั่น
ปลายปี 2564 ประกาศทุ่มงบอีก 480 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น 25% ใน บริษัท คามุ คามุ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “คามุ ที” แบรนด์เครื่องร้านชานมไข่มุกของคนไทย มีความหลากหลายของเครื่องดื่ม ต่อยอดธุรกิจตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบดื่มชาและเครื่องดื่มไลฟ์สไตล์ เป็นไปตามกลยุทธ์ในการพัฒนา พีทีที สเตชั่น เป็น Living Community เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวัน ปัจจุบันมี 5 สาขาใน พีทีที สเตชั่น
ล่าสุดในเดือน พ.ค. 2565 ประกาศใช้เงิน 14.5 ล้านดอลลาร์ หรือ 500 ล้านบาท เข้าลงทุน freshket แพลตฟอร์มเทคโนโลยีจำหน่ายวัตถุดิบอาหารออนไลน์ หรือ 'ตลาดสดอออนไลน์' แหล่งรวมวัตถุดิบออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2560 เพื่อเป็นศูนย์รวมสินค้าเกษตรและวัตถุดิบคุณภาพจากทั้งเกษตรกรและซัพพลายเออร์ พร้อมคัดวัตถุดิบคุณภาพส่งตรงถึงมือลูกค้ามากกว่า 4,000 รายการ ทั้งกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม และครัวเรือน
*หมายเหตุ จำนวนสาขาของ “คามุ ที” กับ Ono sushi ที่แสดงในข้อมูลข้างต้นนับเฉพาะส่วนที่มี Synergy กับ OR โดย เข้ามาเปิดสาขาใน พีทีที สเตชั่น เท่านั้น เนื่องจาก OR ถือหุ้นสัดส่วน 25% ในทั้ง 2 บริษัทซึ่งเจ้าของเดิมยังมีอำนาจในการบริหารจัดการเป็นหลัก