นักแสดงลูกครึ่ง ทลายข้อจำกัดละครพีเรียดไทย ทำรายได้สุดปัง ปลุกกระแสหนังไทย

ธี่หยด ภาพยนต์ไทยแนวสยองขวัญ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ เข้าฉายวันแรกก็ทุบสถิติหนังไทยที่เปิดตัวทำรายได้อันดับหนึ่งของปี 2566 ไปครองโดยกวาดรายได้ทั่วประเทศกว่า 39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เรียกว่าช่วงนี้กระแสภาพยนต์ไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะก่อนหน้า ธี่หยด เข้าฉายก็มี หนังไทยอย่าง สัปเหร่อ ที่ทำรายได้ถล่มทลายเช่นกัน 

กระแส ธี่หยด ในโลกออนไลน์นั้นถูกพูดถึงหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นที่มาที่ไปของหนังเรื่องนี้ ที่มาจากเรื่องเล่าสุดหลอน บนกระทู้ในเว็ปไซต์ Pantip.com หรือการเล่าเรื่องผีในรายการช่อง YouTube ชื่อดังอย่าง The Ghost Radio จากเรื่องเล่าในตำนานกลายมาเป็นภาพยนต์สุดหลอนที่สร้างกระแสอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงความหมายของคำว่า ธี่หยด เป็นต้น

อีกด้านหนึ่งของกระแสในโลกออนไลน์ของ ธี่หยด คือ ความคิดเห็นในเรื่องของการเลือกนักแสดงที่ถูกมองว่า ภาพยนต์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องราวในต่างจังหวัด แต่นักแสดงสวย-หล่อ ลูกครึ่ง ที่อาจดูไม่สมจริงหรือไม่เข้ากับบทบาทหรือไม่? ซึ่งหลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์และมีคำถามกลับไปเช่นกันว่า “คนต่างจังหวัดต้องมีหน้าตาเป็นอย่างไร? คนที่หล่อ-สวย ต้องเป็นเพียงคนในเมือง อย่างกรุงเทพฯแค่นั้นหรือไม่?”

SPOTLIGHT ชวนคิดนักแสดงมีผลต่อการสร้างรายได้และความสำเร็จของภาพยนต์มากน้อยแค่ไหน? 

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในสังคมไทย เนื่องจากเคยมีภาพยนต์ไทย รวมถึงละครไทยเรื่องอื่น ที่สร้างกระแสถกเถียงในสังคมถึงการเลือกนักแสดงลูกครึ่งที่มารับบทบาทในละครไทยในหลากหลาย แต่ตัวอย่างภาพยนต์ไทยเหล่ากลับประสบความสำเร็จอย่างดี ฝ่ากระแสคำวิจารณ์ความเหมาะสมของนักแสดงลูกครึ่งมาได้ ตัวอย่างเช่น

พี่มาก..พระโขนง

พี่มาก..พระโขนง ภาพยนต์หนังไทยที่ได้ออกฉายในปี 56 ที่ดัดแปลงเค้าโครงเรื่องมาจากเรื่องจริง และตำนานเล่าขานของแม่นาคพระโนง นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ (รับบทเป็นพี่มาก) และ ดาวิกา โฮร์เน่ (รับบทเป็นนางนาค)

โดยในระหว่างภาพยนต์ฉาย ได้มีกระแสสังคมต่างเข้ามาถกเถียงการคัดเลือกนักแสดง โดยเฉพาะตำนานแม่นาค เชื่อกันว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่พระโขนง (ปัจจุบันอยู่ย่านปลายซอยสุขุมวิท 77) นักแสดงนำที่รับเลือกควรจะเป็นคนที่มีหน้าไทย ไม่ใช่นักแสดงลูกครึ่ง

แต่ใหม่ ดาวิกา และมาริโอ้ 2 นักแสดงนำได้เข้ามาทลายกรอบบทบาททางสังคมถึงความเป็นลูกครึ่ง ด้วยทักษะการแสดง จนพี่มาก..พระโขนง สามารถครองอันดับหนึ่งหนังไทยสร้างรายได้ทำเงินสูงสุดตลอดกาล ด้วยรายได้ 559.59 ล้านบาท

วันทอง

วันทอง ละครไทยที่ได้ออนแอร์ในปี 2564 ทางช่องวัน โดยมีการดัดแปลงมาจากเสภา เรื่องขุนช้าง ขุนแผน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงอยุธยาตอนกลาง ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

โดยในระหว่างภาพยนต์ฉาย ได้มีกระแสสังคมต่างเข้ามาถกเถียงการคัดเลือกนักแสดงโดยเฉพาะ ดาวิกา โฮร์เน่ (รับบทเป็นนางวันทอง) เนื่องจากเป็นลูกครึ่งหน้าฝรั่ง แต่ต้องมารับบทบาทนำเป็นหญิงไทยในสมัยโบราณ 

แต่กระแสวันทองฟีเวอร์กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ส่งผลให้เรตติ้งภาพรวมของช่องวันขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยเรตติ้งตอนจบสูงสุดทั่วประเทศ 7.767, กรุงเทพ 9.280, ปริมณฑล 8.178 และต่างจังหวัด 7.266 (Nielsen 15+ วันทอง EP.16)

เช่นเดียวกันกับกระแสในโลกออนไลน์ใน X (ทวิตเตอร์) ด้วย #วันทองตอนจบ พุ่งขึ้นติดอันดับ 1 ถึงการแสดงที่ตีบทแตกของเหล่านักแสดง

นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนังและละครไทยย้อนยุคที่ผ่านมา “นักแสดงลูกครึ่งได้รับบทนำ” แต่ทำให้ผลงานที่ออกมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี  เพราะผู้ชมส่วนมากอินไปกับองค์ประกอบรวมของหนัง หรือละคร มากกว่าเช่นเค้าโครงเรื่องดี นักแสดงสามารถเข้าถึงบทบาทได้ดีไม่ว่าจะถูกมองว่าหน้าตาเป็นลูกครึ่งแค่ไหนก็ตาม 

เช่นเดียวกันกับ ในมุมมองของผู้จัดละคร หากต้องการสร้างภาพยนต์หรือละครสักเรื่องนั้น การเลือกนักแสดงถือว่าเป็นโจทย์หลักที่สำคัญ เพราะนักแสดงที่มีชื่อเสียง มีผู้ติดตามจำนวนมาก ถือเป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งจำนวนแฟนคลับ กระแสในสังคม และนั่นหมายถึงเม็ดเงินทั้งยอดขายบัตร โฆษณา และ สปอนเซอร์ อื่นๆที่จะตามมา 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของภาพยนต์เรื่องธี่หยด แม้ณเดชน์ จะเป็นลูกครึ่งที่ได้รับบทนำ แต่ในเรื่องของการแสดงของณเดชน์ที่สมบทบาท อาจทำให้ภาพยนต์ไทยเรื่อง  ธี่หยด นี้สร้างกระแส และทำรายได้มากกว่านี้ จนจะสามารถแซงหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลอย่างพี่มาก..พระโขนง ได้หรือไม่ ต้องรอพิสูจน์กันต่อไป