สุนัข ถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก จงรักภัคดีต่อเจ้าของ จนมีบางคนเปรียบเปรยว่า “หมาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” หรือแม้กระทั้งกลายเป็นคนสำคัญในครอบครัว หรือ ปรากฎการณ์ Pet Parents หรือ การเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก
แม้ว่าอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง หรือ “Petconomy” (Pet + Economy) ที่ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง และ ธุรกิจบริการที่ครอบคลุม จะมีแนวโน้มขยายตัวและเติบโตรวดเร็วทั่วโลก โดยมูลค่าตลาด Petconomy ทั่วโลก อาจพุ่งสูงไปถึง ถึง 2.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2026 เลยทีเดียว
ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับคนที่รักสุนัข การที่ต้องเห็นภาพของสุนัขถูกฆ่าอย่างทรมานเพื่อนำไปบริโภคถือเป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างมาก แต่เราก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ถึงโลกแห่งความจริงในอีกเเง่มุมหนึ่ง ว่ายังคงมีอีกหลายประเทศในแถบทวีปเอเชียยังคงมีการบริโภคเนื้อสุนัข ทั้งในประเทศจีน,เวียดนาม,ไทย โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้
บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมาหาคำตอบ วัฒนธรรมความเชื่อของชาวเกาหลีในการบริโภคสุนัข และ กฎหมายใหม่ที่เพิ่งผ่านรัฐสภานั้นก็คือ ‘ห้ามค้าเนื้อสุนัข’
คนเกาหลีกินเนื้อสุนัข ตั้งแต่ยุคโกรยอและโซซอน
หลายๆคนคงอาจเคยได้ยิน เรื่องเล่าถึงการบริโภคเนื้อสุนัขของชาวเกาหลีใต้ แต่แท้จริงแล้วหากไปดูตามประวัติศาตร์เกาหลี พบว่า การบริโภคเนื้อสุนัขเริ่มมาตั้งแต่สมัยโกรยอและสมัยโชซอน หรือในช่วงค.ศ.1374-1392 ที่แล้ว
ซึ่งในช่วงนั้นพบปัญหาสุนัขจรจัดอยู่มาก ทำให้ทางการเกาหลีออกคำสั่งให้ฆ่าสุนัขซึ่งถือว่าเป็นชนชั้นที่ต่ำที่สุด (แบ็กจอง=백정) ทำให้เนื้อสุนัขจึงกลายเป็นอาหารของชนชั้นล่างในยุคโชซอน นอกจากนั้นในช่วงเวลาโซซอน ยังเป็นจุดกำเนิดของเมนู “โบชินทัง” หรือเมนูเนื้อซุปสุนัขอีกด้วย ที่เชื่อว่ามีคุณค่าทางอาหารสูง เพิ่มคอลลาเจนให้แก่ร่างกาย อาหารฟื้นฟูพลังเปรียบเสมือนการกินยาอายุวัฒนะ
ประเทศที่กินเนื้อสุนัข = ประเทศป่าเถื่อน
แม้ว่าสิทธิในการรับประทานเนื้อดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแต่ละคนก็ตาม แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป วิถีชีวิตและความคิดของคนก็ได้เปลื่ยนไป คนส่วนใหญ่ก็ได้เห็นตรงกันว่าสุนัขควรเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่ควรมีไว้เพื่อการบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้สึกไม่พอใจและไม่สบายหากยังมีกลุ่มคนที่ยังรับประทานอยู่ เนื่องจากพวกเขามองว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ล้าหลัง และส่งผลต่อภาพลักษณ์ความศิวิไลซ์ของประเทศ
จากการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ในประเทศเกาหลีใต้ ในการสัมภาษณ์ของ BBC พบว่า คนรุ่นใหม่ชาวเกาหลีใต้ปฏิเสธการบริโภคเนื้อสุนัข เนื่องจาก นิยมเลี้ยงสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง และสุนัขคือส่วนหนึ่งในครอบครัว ไปจนถึงการต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์อย่างเหี้ยมโหด
อย่างไรก็ตาม ก็คงยังมีบางส่วนที่เห็นด้วยกับการบริโภคเนื้อสุนัข เนื่องจากการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม หรืออิทธิพลและความเชื่อของชาติตะวันตก ทำหั้วัฒธรรมกรรมเกาหลีโดนกลืนกิน
"ประเทศของเรากินเนื้อสุนัขมาตั้งแต่สมัยก่อน แต่เพราะได้รับอิทธิพลว่าจากตะวันทำให้คนออกมาต่อต้าน นอกจากนั้นคนเกาหลียังถูกมองว่าเป็นคนป่าเถื่อน แต่การที่มีคนมาสั่งห้ามเราไม่ให้กินสิ่งที่เรากินมาตลอด เป็นใครก็ต้องรู้สึกไม่พอใจ"
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายความคิดเห็น เช่น การรับประทานเนื้อสุนัขอาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เข่นโรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคติดต่ออื่นๆได้
อุตหกรรมการค้าเนื้อสุนัขของเกาหลีใต้
The Korean Association of Edible Dogs สมาคมผู้เพาะพันธุ์ และผู้ค้าสุนัข เผยว่าหากย้อนกลับไปดูตัวเลขเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าเกาหลีใต้มีฟาร์มเลี้ยงสุนัขกว่า 3,500 แห่ง สุนัขอีก 1.5 ล้านตัว และร้านอาหารกว่า 3,000 ร้าน ทำให้ประเทศเกาหลีใต้มีการผลิตและจำหน่ายเนื้อสุนัขกว่า 7 หมื่นตันทั่วประเทศ
ด้านกระทรวงการเกษตร ได้ออกมาแถลงแก้ไขตัวเลขฟาร์มและร้านอาหารที่ขายเนื้อสุนัข ได้ลดลงกว่าครึ่งในปี 65 ที่ผ่านมา โดยมี ฟาร์มเลี้ยงสุนัข 1,600 แห่ง ได้เพราะพันธุ์สุนัข 570,000 ตัว เพื่อจำหน่ายให้ร้านอาหารประมาณ 1,600 แห่ง
หากเจาะลึกไปยังสถานที่ค้าเนื้อสุนัข จะพบว่ากรุงโซลมีร้านอาหารที่ยังคงใช้เนื้อสุนัขประกอบอาหารกว่า 229 แห่ง โดยเฉพาะในตลาดชินจิน เขตจงโน ที่ยังคงมีลูกค้าวัยสูงวัยมากมายที่พร้อมสั่ง’เมนูโบชินทัง’ ในโต๊ะอาหารของพวกเขา
รัฐบาลเกาหลีใต้ ออกกฎหมาย’ห้ามค้าเนื้อสุนัข’
แต่แล้วประวัติศาสตร์ของเกาหลีได้เปลี่ยนไป เมื่อล่าสุด รัฐสภาเกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายห้ามรับประทาน และค้าเนื้อสุนัข โดยมีผลบังคับใช้ภายในปี 2027 หรือในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อให้เวลาแก่เกษตรกรมและเจ้าของร้านอาหาร ปรับตัวและหาทางเลือกอื่นๆในการหารายได้ โดยเจ้าของกิจการฟาร์มและเจ้าของร้านอาหารที่ขายเนื้อสุนัข ยังคงต้องส่งแผนการออกจากธุรกิจขายเนื้อสุนัขให้กับทางการด้วย
โดยหลังจากนี้ 3 ปี หากผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี หรือปรับ 30 ล้านวอน หรือราว 800,000 บาท
ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านการอนุมัติเมื่อวันที่ 8 ม.ค.67 ที่ผ่านมา โดยมีเสียงสนับสนุน 208 เสียง และงดออกเสียง 2 คน จากรัฐสภา
ซอ โบรามี ประธาน Humane Society International Korea องค์กรปกป้องสัตว์ เผยว่า “กฎหมายนี้ทำให้เห็นจุดจบของการเพาะพันธุ์ และการฆ่าสุนัขเพื่อการบริโภคของมนุษย์ เรามาถึงจุดที่ช่วยให้สุนัขหลายล้านตัวรอดพ้นจากอุตสาหกรรมอันโหดร้ายนี้”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการบริโภคสุนัขที่จะเป็นสิ่งที่ใครต่อหลายคนมองว่าโหดร้าย ทารุณกรรม และไร้ความศิวิไลซ์ แต่ก็ยังปฎิเสธไม่ได้ว่าวัฒนธรรมและความเชื่อนั้น เป็นเรื่องที่ตัดสินว่าถูกหรือผิดนั้นอาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่สืบต่อกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ แต่หากกล่าวได้ว่าความเชื่อนั้นสมควรหรือไม่สมควร นั้นอาจเป็นอีกหนึ่งคำถามใหญ่ของสังคมที่เราต้องหาคำตอบกันต่อไป
ที่มา : Reuters