อินไซต์เศรษฐกิจ

Garena Academy ปั้นหลักสูตรอีสปอร์ต ปั้นโปรเพลเยอร์ สู่อาชีพคนรุ่นใหม่

22 พ.ค. 67
Garena Academy ปั้นหลักสูตรอีสปอร์ต ปั้นโปรเพลเยอร์ สู่อาชีพคนรุ่นใหม่

เพราะเกมไม่ใช่แค่เล่น แต่เรียนรู้ พร้อมสร้างอนาคตไปกับ Garena Academy ห้องเรียนอีสปอร์ต โดย Garena จับมือกับ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ปั้นหลักสูตรอีสปอร์ต เส้นทางอาชีพใหม่ของคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ตลาดแรงงานไทย

Garena Academy ปั้นหลักสูตรอีสปอร์ต ปั้นโปรเพลเยอร์ สู่อาชีพคนรุ่นใหม่

Garena Academy ปั้นหลักสูตรอีสปอร์ต ปั้นโปรเพลเยอร์ สู่อาชีพคนรุ่นใหม่

การีนา (ประเทศไทย) เดินหน้าสานต่อโครงการ "Garena Academy ห้องเรียนอีสปอร์ต 2024" อย่างต่อเนื่อง โดยผนึกกำลังกับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนและครูมากกว่า 400 คน ได้เข้าถึงการเรียนรู้รูปแบบใหม่ผ่านเกมและอีสปอร์ต ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม และทักษะการสื่อสาร นอกจากนี้ โครงการฯ ยังมุ่งหวังให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นศักยภาพของตนเองและค้นพบเส้นทางอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไม่ได้หยุดอยู่แค่การมอบทุนการศึกษา แต่ยังรวมถึงการต่อยอดหลักสูตรห้องเรียนอีสปอร์ตสู่ระดับอุดมศึกษา เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต นอกจากนี้ โครงการฯ ยังจัดเวทีเสวนา ณ TK Park โดยมี ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เป็นประธาน เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้เชี่ยวชาญ นักการศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงเกมและอีสปอร์ต ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของอีสปอร์ตในการพัฒนาการศึกษาไทย ตลอดจนแนวทางการพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของโลกยุคใหม่

ดร.ชัชชาติ ชี้ การเรียนรู้ของเด็กๆ ไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในตำรา สำหรับการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล

Garena Academy ปั้นหลักสูตรอีสปอร์ต ปั้นโปรเพลเยอร์ สู่อาชีพคนรุ่นใหม่

โลกดิจิทัลหมุนเร็ว สร้างอาชีพใหม่ๆ มากมาย การศึกษาจึงต้องปรับตัวตามให้ทัน ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เน้นย้ำว่า การเรียนรู้ของเด็กๆ ไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในตำรา แต่ต้องเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เพื่อนำไปต่อยอดทั้งในชีวิตประจำวัน การเรียน และการพัฒนาตนเอง นอกจากนี้ ดร.ชัชชาติ ยังได้หยิบยกตัวอย่าง หนังสือ "Whiplash: How to Survive Our Faster Future" ของ Joi Ito ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน และวิธีที่เราจะสามารถปรับตัวและอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนนี้ หนังสือเล่มนี้ได้ให้ข้อคิดที่สามารถนำมาปรับใช้กับระบบการศึกษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี: เทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง เกม ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและการทำงานมากขึ้น ทำให้ทักษะที่จำเป็นในตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ระบบการศึกษาไทยต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคต
  • ความไม่แน่นอนและความซับซ้อน: โลกในยุคดิจิทัล นี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความซับซ้อน ทำให้ยากต่อการคาดการณ์อนาคต ระบบการศึกษาไทยต้องเตรียมผู้เรียนให้มีความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน คิดวิเคราะห์ และปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้
  • ความหลากหลายและความแตกต่าง: โลกในยุคดิจิทัล เป็นโลกที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความคิดเห็น ระบบการศึกษาไทยต้องส่งเสริมความเข้าใจและยอมรับความแตกต่าง สร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างทางความคิด และส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน

แนวทางการปรับตัวของการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล

  • ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต: การเรียนรู้ไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน ผู้เรียนต้องมีทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ค้นคว้าหาความรู้ และพัฒนาทักษะอยู่เสมอ
  • เน้นทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21: ทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกัน และทักษะทางดิจิทัล ควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างจริงจัง
  • ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม: ระบบการศึกษาไทยต้องส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม สร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างทางความคิด และส่งเสริมการทดลองสิ่งใหม่ ๆ
  • สร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ: การศึกษาไม่ใช่หน้าที่ของโรงเรียนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

นอกจากนี้โครงการ ห้องเรียนอีสปอร์ต จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่ช่วยเติมเต็มทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัล นอกจากความสนุกสนาน เด็กๆ ยังได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม การวางแผน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการสื่อสาร ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่ตลาดแรงงานยุคใหม่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น ห้องเรียนอีสปอร์ตยังเป็นประตูสู่โลกอาชีพใหม่ๆ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

เรียนรู้จริง สู่เส้นทางอาชีพ: โครงการห้องเรียนอีสปอร์ต 2024 โดย Sea (ประเทศไทย)

Garena Academy ปั้นหลักสูตรอีสปอร์ต ปั้นโปรเพลเยอร์ สู่อาชีพคนรุ่นใหม่

คุณพุทธวรรณ สุภัทรนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า เกมและอีสปอร์ตไม่ได้เป็นแค่ความบันเทิงหรือกีฬา แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ในประเทศไทย Sea (ประเทศไทย) จึงมองเห็นโอกาสในการใช้เกมและอีสปอร์ตเป็นเครื่องมือในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัลให้กับนักเรียนไทย โดยได้ต่อยอดโครงการ Garena Academy สู่โครงการ "ห้องเรียนอีสปอร์ต 2024 เรียนรู้จริงสู่เส้นทางอาชีพ"

โครงการนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนและคุณครูได้เรียนรู้ทักษะที่เกี่ยวข้องกับอาชีพในวงการอีสปอร์ตผ่านการลงมือปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขัน การฝึกสอน การพากย์ การผลิตสื่อ หรือการควบคุมการถ่ายทอดสด นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการยังมีโอกาสจัดการแข่งขันอีสปอร์ตทั้งในระดับโรงเรียนและระหว่างโรงเรียน โดยรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นที่ Garena Esports Studio เพื่อให้นักเรียนได้สัมผัสประสบการณ์จริงและเรียนรู้จากทีมงานมืออาชีพ

ในปีนี้ มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการถึง 16 โรงเรียน ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาคอื่น ๆ มีครูและนักเรียนเข้าร่วมกว่า 400 คน Sea (ประเทศไทย) ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายผลโครงการนี้ไปสู่โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนที่ต้องการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนในยุคดิจิทัล

หลักสูตรห้องเรียนอีสปอร์ต สร้างการเรียนรู้สู่อาชีพ

Garena Academy ปั้นหลักสูตรอีสปอร์ต ปั้นโปรเพลเยอร์ สู่อาชีพคนรุ่นใหม่

ในช่วงเสวนา ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา คุณครู และผู้แทนจากภาคอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดย ดร.ณัฐพล ตันเจริญทรัพย์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการพิเศษตามนโยบาย (โครงการกีฬา) สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ได้กล่าวถึงประโยชน์ของหลักสูตรนอกห้องเรียนที่มีเนื้อหาเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตว่า สามารถเติมเต็มความรู้และประสบการณ์ของนักเรียนในมิติที่แตกต่างจากการเรียนในห้องเรียนปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning มาใช้ จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนในหลากหลายด้านมากยิ่งขึ้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บัญญพนต์ พูลสวัสดิ์ จากวิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (ANT DPU) ได้กล่าวถึงโครงการ Garena Academy ห้องเรียนอีสปอร์ต ว่าเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะที่จำเป็นในโลกดิจิทัลสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ ช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพในอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ต และเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่สนใจเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคต นอกจากนี้ ANT DPU ยังมีความยินดีที่จะมอบทุนการศึกษาจำนวน 12 ทุน ให้แก่นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการและมีผลการเรียนโดดเด่น

คุณกิตติพล คิดกล้า (ครูเบียร์) จากโรงเรียนแจงร้อนวิทยา เล่าถึงประสบการณ์จากโครงการ Garena Academy ห้องเรียนอีสปอร์ตว่า โครงการนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ค้นพบความเป็นไปได้ที่หลากหลายผ่านความสนใจในเกมและอีสปอร์ต นักเรียนได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม มีวินัย และรับผิดชอบมากขึ้น บางคนค้นพบเส้นทางการศึกษาต่อที่ชัดเจนขึ้น ทั้งในสายที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับอีสปอร์ต โครงการนี้ยังเปลี่ยนบทบาทของครูจากผู้ให้ความรู้สู่ผู้ให้คำปรึกษา ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง

ด้านนายดลประภพ เทียนดำ (SunWaltz) นักพากย์อีสปอร์ตมืออาชีพ กล่าวว่า การเป็นนักพากย์ต้องอาศัยแพสชันและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเกมเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่ยังโชคดีที่มีโอกาสและช่องทางในการเข้าสู่อาชีพในวงการเกมและอีสปอร์ตมากขึ้น ทำให้สามารถสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงได้

ปีนี้ การีนาได้ร่วมมือกับคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ นำหลักสูตร "Garena Academy ห้องเรียนอีสปอร์ต" ไปใช้ในหลักสูตรการเรียนการสอน นี่เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาคการศึกษากำลังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตมากขึ้น และมองเห็นศักยภาพในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับนักเรียนผ่านการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับเกมและอีสปอร์ต

Garena Academy ห้องเรียนอีสปอร์ต ไม่ได้เป็นเพียงแค่โครงการเพื่อสร้างโปรเพลเยอร์ แต่เป็นการเปิดประตูสู่โลกแห่งการเรียนรู้และโอกาสใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัล โครงการนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เกมและอีสปอร์ตสามารถเป็นเครื่องมือทรงพลังในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจและเปิดเส้นทางอาชีพที่หลากหลายให้กับคนรุ่นใหม่ การร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาในโครงการนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทย เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ

advertisement

SPOTLIGHT