ททท.เตรียมดึง ‘น้องหมีเนย’ เป็นพรีเซนเตอร์หน้าใหม่ โปรโมตท่องเที่ยวไทย

ททท.เตรียมดึง น้องหมีเนย เป็นพรีเซนเตอร์หน้าใหม่

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้ททท.มีแผนดึง น้องหมีเนย มาสคอตจากร้าน Butterbear มาเป็นพรีเซนเตอร์หน้าใหม่ โปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน เนื่องจากน้องหมีเนยมี คาแรกเตอร์ น่ารักสดใส และทำให้ใครหลายคนต่างโดนตกเพราะความน่ารักของน้องแม้จะไม่ใช่คนไทยก็ตาม

ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงเดือน ก.ค.นี้ ร่วมจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยว ร่วมโปรโมตให้ทุกคนเข้ามาตามรอยท่องเที่ยว ตามรอยโครงการลาบูบู้เที่ยวไทย

ลาบูบู้เที่ยวไทย สร้างการรับรู้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านคน/ครั้ง

มาสคอตลาบูบู้ ได้ถึงประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวไทย ภายใต้กลยุทธ์ 5 Must Do in Thailand ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ Must Eat อาหารไทย Must See โชว์ไทย Must Seek วัฒนธรรมไทย MUST Buy ผ้าไทย และ MUST Beat มวยไทย 

โดยมีการทำกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างเช่น

1. รับประทานอาหารซีฟู้ดสดใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ร้าน Horsamut Restaurant

2. นั่งรถตุ๊กตุ๊ก EV เที่ยวชมความสวยงามบริเวณวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง

3. นวดไทยที่วัดโพธิ์

4. เดินเล่นแหล่งชอปปิงยอดนิยมอย่างสยามดิสคัฟเวอรี่และสยามสแควร์

5. ซื้อของที่ระลึกผลิตภัณฑ์จากฝีมือคนไทย ชมศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยที่สนามมวยลุมพินี 

โดยมาสคอตลาบูบู้ จะมีการแต่งกายด้วยชุดไทยพร้อมออกเดินทางถ่ายทำคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยสื่อสารไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนตามโปรแกรมการท่องเที่ยว ที่ททท. เตรียมต่อยอดทางการตลาดด้วยการร่วมมือกับ Qunar.com ซึ่งเป็น Online Travel Agency (OTAs) ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจีนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแพ็กเกจให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในเส้นทางกรุงเทพมหานคร และพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน -  1 กันยายน 2567 ซึ่งตรงกับช่วงฤดูร้อนของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ จากโครงการลาบูบู้เที่ยวไทย ททท. คาดหวังว่าการบูรณาการความร่วมมือกับพันธมิตรในการดำเนินโครงการดังกล่าวจะสร้างการรับรู้ได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านคน - ครั้ง และสามารถเสนอขายแพ็กเกจเดินทางมาประเทศไทยได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 Pax

รู้จัก ‘น้องหมีเนย’ ไอดอลสาววัย 3 ขวบ (ฉามขวบ)

น้องหมีเนย มาสคอตจากร้าน Butter Bear ร้านคาเฟ่สุดน่ารักแบรนด์ลูกของ Coffee Bean by Dao ได้เริ่มโด่งดังในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง TikTok ทำเอาเหล่าแฟนๆ ต่างโดนตก จนได้เกิดการร่วมกลุ่มกันมาเจอน้องเนยตัวจริงเสียงจริงที่ห้าง Emsphere

ความโด่งดังของน้องเนยได้สร้างปรากฎการณ์ห้างแตก ผันตัวจาก Brand ambassador ของร้าน Butter Bear สู่วงการไอดอลสาววัย 3 ขวบ (ฉามขวบ) เปรียบเสมือนศิลปิน ดารา หรือแม้แต่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ท่านหนึ่ง ที่มีเพลงเป็นของตัวเอง ถึง 2 เพลงอย่างเพลง It’s Butterbear! และน่ารักมั้ยไม่รู้ จนน้องหมีเนยได้รับเชิญ ไปออกรายการดนตรีไทยชื่อดัง อย่าง T-POP Stage Show และมีชื่อแฟนคลับของตัวเองอย่าง #ด้อมน้องเนย

นอกจากนี้ น้องหมีเนย ยังไม่มีโอกาสกระทบไหล่เหล่าคนดังไปเต้นเพลงกับ ไอซ์ ศรัณยู, แกรนด์ เดอะสตาร์ หรือแม้แต่การได้ออกรายการข่าวชื่อดัง อย่าง เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ และน้องหมีเนยยังได้ถูกสัมภาษณ์โดย คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา

น้องหมีเนย soft power ของไทย ที่มาแรง

จากกระแสน้องหมีเนย ที่โด่งดังในหมู่ชาวไทยและชาวประเทศ ทำให้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า น้องหมีเนย กำลังกลายเป็นหนึ่งในชอฟต์พาวเวอร์ของไทยมที่กำลังมาแรง ไม่แพ้

Cry Baby X POP MART

ร้านของเล่นสัญชาติจีนสุดฮิต ที่สายนักจุ่มจอมสะสมแห่กันไปต่อคิวกันจนห้างแตก ที่ไม่ว่าศิลปินคนไหนๆหากได้ออกคอลเลคชั่นกับ POP MART เป็นต้องแจ้งเกิดทุกราย เช่นเดียวกับ อาร์ตทอยตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า Cry Baby เด็กน้อยที่ทำหน้าตาเศร้าสร้อย ที่มาพร้อมกับหยดน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา ผลงานชิ้นโบแดงของศิลปินไทยที่มีชื่อว่า คุณนิสา ศรีคำดี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คุณมอลลี่”

ROCKSTAR

เพลงโซโล่ใหม่ล่าสุดของลิซ่า Blackpink หรือ ลลิษา มโนบาล ศิลปินสายเลือดไทยชื่อดังระดับโลกที่สร้างตำนานให้คนไทยชื่นใจได้ตลอดเวลา เพราะ MV เพลง ROCKSTAR ได้มีการถ่ายทำในประเทศไทย เช่น ถนนเยาวราช และ โรงหนังออสก้าเก่า เพชรบุรี 39 และยังได้มีการดึงคนไทยเข้ามาร่วมถ่ายทำด้วย ตั้งแต่งแดนเซอร์และผู้ร่วมในฉากล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยทั้งสิ้น  นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารโต้รุ่ง การตั้งโต๊ะกินจิ้มจุ่ม รถเข็นผลไม้ ร้านสัก แฝงด้วยกลิ่นอายความเป็นไทย รวมทั้งฉากกับชาวไบเกอร์และชาว LGBTQ+ ถือเป็นการเปิดกว้างความหลากหลายในสังคมและเผยแพร่ความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลมีการสนับสนุนและผลักดันมากกว่านี้ ก็ทำให้ชอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยเข้าไปอยู่ในใจ และสายตาของชาวโลกได้ไม่อยาก และหากถ้าชาฟต์พาวเวอร์ได้เข้าไปอยู่ในใจคนแล้ว ก็จะทำให้พวกเขาเหล่านั้น อยากมาเที่ยวประเทศไทย กินอาหารไทย ไปจนถึงสร้างกระแสไทยแลนด์ฟีเวอร์ ได้เทียบเท่ากับเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่นเลยทีเดียว