‘นาฬิกาหรู’ เครื่องประดับทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา เป็นสินค้าที่หมายปองต้องตาของบรรดานักสะสม และเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่รักษามูลค่าได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ราคา Rolex, Patek Philippe หรือ Audemars Piguet พุ่งทะยานจากหน้าร้าน 100-400% ในตลาด Resale
เพราะการหาซื้อจากหน้าร้านนั้นทำได้ยาก หลายรุ่นต้องถือใบจองนาน 2 ถึง 10 ปี ‘ตลาด Resale’ จึงเป็นทางเลือกที่มีสภาพคล่องดีกว่า และได้สินค้ามาอยู่ในมือแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ราคา Rolex และนาฬิกาหรูอื่นๆ ก็อาจทะยานขึ้นได้เป็นหลักแสน หรือล้านบาท หากนาฬิการุ่นนั้นยุติการผลิต หรือผลิตออกมาจำนวนจำกัด
ยิ่งตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ผนวกกับเหตุการณ์ระดับ ‘Black Swan’ อย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยิ่งผลักดันให้ราคา Rolex รวมถึงนาฬิกาหรูแบรนด์อื่นๆ พุ่งทะยานสู่ ‘จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์’ ในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายนที่ผ่านมา
แต่จากจุดสูงสุด ฝันร้ายก็มาเยือนนักสะสมหรือคนที่ต้องการลงทุนกับนาฬิกาหรู เพราะราคาของพวกมันกลับค่อยๆลดลงต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังเมษายน จนถึง กรกฎาคม มีตั้งแต่ 5% ไปจนถึง 20% แล้วแต่รุ่น เกิดอะไรขึ้นกับของสะสมอย่างนาฬืกาหรู หรือ พวกมันกำลังฟองสบู่แตกกันแล้ว วันนี้ Spotlight รวมรวมข้อมูลราคา Rolex 3 รุ่นยอดนิยม Submariner, GMT-Master II และ Daytona มาดูกันว่ารุ่นไหน ลดลงไปเท่าไหร่แล้วบ้าง
ด้วยคุณสมบัติกันน้ำในความลึกระดับ ‘100 เมตร’ เจ้าแรกของโลก นาฬิกาซึ่งมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่สุดของ Rolex รุ่นนี้ จึงได้ชื่อว่า ‘Submariner’ และเกิดมาเพื่อนักประดาน้ำโดยเฉพาะ (Submarine = เรือดำน้ำ) นอกเหนือจากหน้าปัดสีดำ (Black Dial) สุดคลาสสิกเหนือกาลเวลา วงการคนรักนาฬิกา Rolex ยังนิยมตั้งชื่อเล่นให้นาฬิกาสีต่างๆ ตามลักษณะที่สีนั้นสื่อถึงด้วย อย่างเช่น Bluesy สีน้ำเงิน-ทอง และ Hulk สีเขียวล้วนเช่นเดียวกับยักษ์เขียวจอมพลัง ราคา Rolex รุ่น Submariner 3 รุ่นนี้เป็นดังนี้
Rolex Submariner - Black Dial
ราคา Rolex หน้าร้าน
2.66 แสนบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
4.48 แสนบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
4.21 บาท
ลดลง 5.84%
Rolex Submariner - ‘Bluesy’
ราคา Rolex หน้าร้าน
3.36 แสนบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
4.92 แสนบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
4.66 บาท
ลดลง 5.43%
Rolex Submariner - ‘Hulk’
ราคา Rolex หน้าร้าน
3.27 แสนบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
1.14 ล้านบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
9.33 แสนบาท
ลดลง 18.36%
นาฬิกา GMT-Master II แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดังรองลงมาจาก Submariner แต่ฟีเจอร์เรือธงของ Rolex รุ่นนี้คือ ‘หน้าปัดบอกเวลา 24 ชม. แบบหมุนได้’ ซึ่งทำให้ผู้สวมใส่ GMT-Master II สามารถดูเวลา ของสองประเทศได้พร้อมๆ กัน และกลายเป็นขวัญใจของบรรดาผู้ที่ต้องท่องโลก หรือใช้ชีวิตในหลากหลายไทม์โซน 3 รุ่นเอกลักษณ์ที่คนนอกวงการยังรู้จักของซีรีส์นี้คือ ‘Batman’ สีน้ำดำ-น้ำเงิน เหมือนกับอัศวินรัตติกาล ‘Pepsi’ น้ำเงิน-แดง ชวนให้นึกถึงยี่ห้อน้ำอัดลมชื่อดัง และ ‘Rootbeer’ ที่สีละม้ายคล้ายกับเครื่องดื่มรูทเบียร์จริงๆ ซึ่งมีราคาร่วงลงเกือบ 20% ดังนี้
Rolex GMT-Master II - ‘Batman’
ราคา Rolex หน้าร้าน
3.81 แสนบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
9.15 แสนบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
7.76 แสนบาท
ลดลง 15.19%
Rolex GMT-Master II - ‘Pepsi’
ราคา Rolex หน้าร้าน
3.81 แสนบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
1.11 ล้านบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
8.96 แสนบาท
ลดลง 19.59%
Rolex GMT-Master II - ‘Rootbeer’
ราคา Rolex หน้าร้าน
5.51 แสนบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
1.12 ล้านบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
9.36 แสนบาท
ลดลง 16.40%
‘Daytona’ เรือนเวลาที่มีฟังก์ชันมากที่สุด และมูลค่าสูงที่สุด ใน 3 รุ่นที่ยกมา ชื่อ ‘Daytona’ เป็นชื่อของ ‘เมืองหลวงแห่งการแข่งรถ’ ในฟลอริดา Rolex รุ่นนี้เกิดมาเพื่อนักแข่งรถที่ให้คุณค่ากับเวลาทุกเสี้ยววินาที ด้วยฟีเจอร์นาฬิกาจับเวลาในสามหน้าปัดย่อย และขอบหน้าปัด ‘Tachymeter’ ที่ช่วยเทียบว่าคุณกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วกี่กิโลเมตร/ชั่วโมง ผสานกับดีไซน์ลุคสปอร์ต ทำให้ Daytona กลายเป็น Rolex ที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล โดย 3 สีที่ยกมาได้แก่ สีดำอมตะ (Black Dial) ปัดสีขาวล้วนแซมดำเล็กๆ ‘Zenith’ และเรือนสีทองสุดหรูหรา ที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีเขียวที่ได้ชื่อเล่นมาจาก ‘John Mayer’ ศิลปินอเมริกัน และสาวกผู้คลั่งไคล้นาฬิกา Rolex ราคาทั้ง 3 รุ่นเป็นดังนี้
Rolex Daytona - Black Dial
ราคา Rolex หน้าร้าน
5.25 แสนบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
1.75 ล้านบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
1.43 ล้านบาท
ลดลง 18.63%
Rolex Daytona - ‘Zenith’
ราคา Rolex หน้าร้าน
1.53 ล้านบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
1.70 ล้านบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
1.53 ล้านบาท
ลดลง 9.90%
Rolex Daytona - ‘John Mayer’
ราคา Rolex หน้าร้าน
1.36 ล้านบาท
—-----------------
ราคา Resale สูงสุด
4.27 ล้านบาท
ราคา Resale ปัจจุบัน
3.42 ล้านบาท
ลดลง 19.75%
ไม่น่าแปลกใจที่นาฬิกา Rolex เรือนที่มีราคาสูงสุดในโลก จะเป็นนาฬิกาในรุ่น ‘Daytona’ ซึ่งถูกประมูลไปในราคา 643 ล้านบาท! เพชรน้ำหนึ่งแห่งวงการนาฬิกาเรือนนี้ใช้ชื่อเล่นว่า ‘Paul Newman’ ตามชื่อนักแสดงชาวอเมริกันระดับตำนาน ซึ่งได้นาฬิกาเรือนนี้เป็นของขวัญจากภรรยา และสวมใส่มันทั้งในจอและนอกจอ มีดีไซน์หน้าปัดต่างไปจาก Daytona ทั่วไป และใช้สายเป็นหนัง แทนที่จะเป็นสายสแตนเลส ‘Oyster’ เหมือน Rolex ส่วนมากในตลาด
เว็บไซต์ Watchcharts รายงานภาพรวมของตลาดนาฬิกา Rolex ในปีนี้ว่า มีช่วงราคาซื้อขาย Reslae อยู่ที่ 8.23 หมื่นบาท – 5.78 ล้านบาท โดยในช่วงที่พีคสุดของปี ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่
5.86 แสนบาท โดยในปัจจุบัน ลดลงมาที่ 5.22 แสนบาท ปรับตัวลง 10.83%
แม้เทียบกับแวดวงตลาดทุน หรือคริปโทเคอร์เรนซีแล้ว ตลาดนาฬิกาหรู อย่าง Rolex จะ จับต้องได้ และมีความผันผวนน้อยกว่า แต่ปรากฏการณ์ราคาตกในช่วงที่ผ่านมานั้น นักวิเคราะห์จาก Jefferies คาดว่า เกิดจากจากการที่เหล่า ‘เศรษฐีหุ้น-คริปโท’ มีกำลังซื้อน้อยลง โดยปริมาณการซื้อขายสินค้าหรู 25-30% ของสหรัฐนั้นมาจากกลุ่มคนเหล่านี้ และดีมานด์ของสินค้าหรูก็แปรตามดัชนีของตลาดหุ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ปัญหาเงินเฟ้อ การขึ้นดอกเบี้ยและพิษจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็ยังเป็นปัจจัยกดดันให้นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยที่ให้ผลตอบแทสูงขึ้นในช่วงสั้นนี้
‘สามกษัตริย์’ แห่งแวดวงนาฬิกาหรูอย่าง Rolex - Patek Philippe - Audemars Piguet ก็มีความเคลื่อนไหวด้านราคาที่ใกล้เคียงกัน สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าราคานาฬิการุ่นท็อปของทั้งสามค่ายนั้น มีราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2019 และ 2021 ก่อนจะสู่จุดสูงสุดในปี 2022 และปรับลดลงมาในปัจจุบัน ทำให้หลายสำนักพากันตั้งข้อสังเกตว่า หรือแวดวงนาฬิกาหรูจะเกิดอาการ ‘ฟองสบู่แตก’ เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกันสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
ที่มา : Watchcharts, Bloomberg, Chronohunter, Worthy, Phillips