การเงิน

รายย่อย STARK รวมตัว กว่า 1,300 ราย เสียหาย 2,500 ล้าน

24 มิ.ย. 66
รายย่อย STARK รวมตัว กว่า 1,300 ราย เสียหาย 2,500 ล้าน
ไฮไลท์ Highlight
“ ขอเชิญชวนผู้เสียหายร่วมใจลงชื่อเพื่อร่วมกันจนถึงวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.2566) ได้ถึงเวลา24.00 น โดยหลังรวบรวมรายชื่อเหยื่อผู้เสียหายแล้ว สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดให้กับทนายความดำเนินคดีฟ้องร้องแบบคดีกลุ่ม โดยมีตัวแทนเหยื่อผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีกลุ่ม แทนผู้เข้าชื่อร้องเรียนทั้งหมด ทั้งอาญาและแพ่งต่อผู้กระทำผิด”

เคส STARK คงอีกยาว! ผู้ถือหุ้นราย่อยยังคงต้องเดินหน้าสู้กันต่อไป เพื่อทวงคืนความยุติธรรม ล่าสุดมีผู้ถือหุ้นรายย่อยร่วมลงชื่อแล้วกว่า 1,300 ราย มูลค่าความเสียหายราว 2,500 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นรายย่อยคนไหนยังไม่ร่วมลงชื่อ สามารถลงชื่อได้ภายในเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้(25 มิ.ย.) ก่อนสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจับมือสภาทนายความยื่นฟ้องแบบกลุ่ม

 

(s)istock-1130882367

 

โดยมีเคสตัวอย่างในต่างประเทศเคยเกิดความเสียหายกรณีคล้ายกันและคดีสิ้นสุดด้วยการดำเนินอาญาและจ่ายค่าชดเชยให้ผู้เกี่ยวข้อง

 

“ ขอเชิญชวนผู้เสียหายร่วมใจลงชื่อเพื่อร่วมกันจนถึงวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.2566) ได้ถึงเวลา24.00 น โดยหลังรวบรวมรายชื่อเหยื่อผู้เสียหายแล้ว สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดให้กับทนายความดำเนินคดีฟ้องร้องแบบคดีกลุ่ม โดยมีตัวแทนเหยื่อผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีกลุ่ม แทนผู้เข้าชื่อร้องเรียนทั้งหมด ทั้งอาญาและแพ่งต่อผู้กระทำผิด”

 

ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด แถลงความคืบหน้าในการรวมตัวของผู้ลงทุนรายย่อยหุ้นจากการลงทุนในหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) STARK กล่าว

โดยเชื่อว่า จะมีโอกาสเรียกร้องให้ผู้กระทำผิดชดใช้ค่าเสียหายชดเชยต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะเคยมีกรณีตัวอย่างที่คล้ายกันนี้ในต่างประเทศหลายกรณีที่สิ้นสุดคดีลงด้วยการดำเนินคดีอาญา และจ่ายค่าปรับชดใช้ความเสียหายแก่เหยื่อจะดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้มีผู้เข้าร่วมลงชื่อแล้วจำนวน 1,352 คน วงเงินความเสียหายรวมกัน 2,500 ล้านบาท


สำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อยในบริษัท STARK มีทั้งหมดราว 11,000 คน เท่ากับ ขณะนี้มีผู้ประสงค์จะดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 10% ของเหยื่อทั้งหมด

โดยยังเปิดโอกาสให้เหยื่อเข้าชื่อกรอกแบบฟอร์มผ่านลิงก์นี้

 

ได้ถึงเวลา24.00 น วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายนนี้ ผ่านสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ก่อนจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป

ส่วนแนวทางการช่วยเหลือเหยื่อนั้นทางสมาคมฯ ได้ร่วมมือกับ "สภาทนายความแห่งประเทศไทย" และกลุ่มทนายความผู้มีประสบการณ์ดำเนินคดีแบบกลุ่ม และเชี่ยวชาญคดีธุรกิจ ได้รวมตัวกันเพื่อทวงความยุติธรรมให้แก่นักลงทุน และเอาตัวคนผิดมาลงโทษ รวมทั้งเพื่อกระตุ้นให้องค์กรที่กำกับดูแลและตลาดหลักทรัพย์ฯหาแนวทางป้องกันและกำหนดมาตรการดูแลบริษัทในตลาดหุ้นให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้

 

istock-998287586

 

อย่างไรก็ตาม หุ้น STARK เคยมีมูลค่าสูงสุดตามราคาตลาด ตอนราคา 5.50 บาท อยู่ที่ 73,733 ล้านบาท ล่าสุดถึงวันนี้ (24มิถุนายน) ราคาหุ้นลงมาต่ำสุดที่ 0.02 บาท หรือเหลือเพียง 268 ล้านบาท เท่ากับเงินละลายไปกับหุ้นตัวนี้มากถึง 73,600 ล้านบาท

โดยผู้ลงทุนหุ้นสามัญกับหุ้นตัวนี้เป็นผู้แบกรับความเสียหาย แทบจะกลายเป็นศูนย์ เมื่อเทียบกับเจ้าหนี้มีหลักประกัน เจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้หุ้นกู้ที่ยังอาจพอมีหวังได้รับเฉลี่ยหนี้คืนบ้าง แต่กับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็มีคำเตือนกันไว้แล้วว่า ”การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง” แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องเป็นความเสี่ยงจากความผิดพลาดในการลงทุนตามปกติธุรกิจ

 

แต่กรณี STARK เกิดจากการกระทำอันไม่สุจริตของผู้เกี่ยวข้อง ทางผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงได้รวมตัวกันขึ้นเพื่อรวมรวมหลักฐานในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม เพื่อดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีแบบฟ้องหมู่ หรือ Class Action

 

โดยนักลงทุนรายย่อยที่ตกเป็นเหยื่อ ได้รับความเสียหายจากมูลค่าหุ้น 73,733 ล้านบาท จนแทบจะกลายเป็นศูนย์ในตอนนี้ได้รับการประสานงานสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ให้กรอกแบบฟอร์มข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินคดีแบบกลุ่ม โดยขอให้กรอกตามลิงก์ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ทั้งนี้ภายในเวลา 24.00 น ของวันที่ 25 มิถุนายนนี้เท่านั้น

 

นอกเหนือจาก นักลงทุนรายย่อยที่รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องสิทธิแล้ว STARK ยังคงต้องอยู่ในการดำเนินคดีของ DSI และอยู่ระหว่างการสืบหาข้อเท็จจริงในการกระทำความผิดครั้งนี้ ด้วยมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท กรณีบริษัทจดทะเบียนมีการทุจริตไม่ใช่รายแรก และรายสุดท้าย เราคงต้องติดตามกรณี STARK และบริษัทจดทะเบียนอื่น ที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน เพื่อช่วยกันเตือนตัวเองและนักลงทุนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อกันได้รับความเสียหายกันเพิ่มขึ้นอีก

advertisement

SPOTLIGHT