นับว่าเป็นการเสนอขายหุ้น IPO ของแบงก์ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี และเป็นหนึ่งในธนาคารเพื่อผู้ประกอบการรายย่อยที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย
ด้วยจุดเด่น คือ การบริการด้านไมโครไฟแนนซ์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าหลากหลายขนาดและประเภทธุรกิจ และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม สะท้อนให้เห็นถึงการได้จากเงินให้สินเชื่อมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง
สำหรับ 12 เดือนย้อนหลังนับจากวันที่ 30 กันยายน 2566 เท่ากับ 18.9% และ 21.8๔ ตามลำดับ
นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปี 2567 ธนาคารเดินหน้าขยายการเติบโตตามแผนเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ด้วยจำนวนหุ้นที่คาดว่าจะเสนอขายทั้งหมด (รวมหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายโดยธนาคารฯ และหุ้นสามัญที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม) ไม่เกิน 347,029,122 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 28.2% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของธนาคารฯ ภายหลังการทำ IP O โดยเตรียมจัดงานนำเสนอข้อมูลการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO Public Roadshow) ภายในเดือนมกราคมนี้
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินกองทุนของธนาคาร เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายพอร์ตสินเชื่อ และนำไปใช้ปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Security and Infrastructure)
ถือเป็นก้าวสำคัญของธนาคารไทยเลยทีเดียวที่มีบริการสำหรับลูกค้ารายย่อย เพื่อให้ลูกค้ารายย่อยเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น