ดัชนีราคาหุ้นไทย SET Index เช้านี้เปิดตลาดที่ 1,315.98 จุด ลดลง -3.17 จุด -0.24% เนื่องจากปัจจัยการเมืองในประเทศยังยืดเยื้อทำให้ SET Index ยังมีโอกาส Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค อย่างไรก็ดีมีความคาดหวังว่าปัจจัยเชิงเศรษฐกิจ อาทิเช่น ดัชนีอุตสาหกรรมและรายงานประชุม กนง. อาจจะส่งสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการผลิตได้
Innovest X มอง SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ โดยมีกรอบบนอยู่ที่บริเวณแนวต้าน 1,325 และ 1,330 จุด ตามลำดับ และกรอบล่างบริเวณแนวรับ 1,310 และ 1,300 จุด ตามลำดับ เนื่องจากตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามากำหนดทิศทาง โดยวันพรุ่งนี้ มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ตัวเลข PCE ของสหรัฐ ที่ตลาดใช้ประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด
ด้าน KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ แกว่งตัวลง หลังจากเมื่อวานนี้หุ้นไทยเทรดกรอบแคบๆ (ใกล้เคียงที่คาด)โดยแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปรายตัวที่มีข่าวบวกช่วยประคองดัชนีฯ แม้ว่าฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังขายสุทธิ สำหรับในวันนี้ ปัจจัยตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อยกล่าวคือจิตวิทยาของตลาดหุ้นเอเชียและของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นลบหลังจากดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ปรับขึ้นค่อนข้างแรง(กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าค่อนข้างแรง) ปัจจัยหลักคือแนวนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และยุโรปยังแตกต่างกัน
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดระมัดระวังในการปรับลดดอกเบี้ยแต่ฝั่งยุโรปได้ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่ออีก 1-2 ครั้งในปี 2567 หลังจาก ECB เริ่มลดดอกเบี้ยแล้ว 1 ครั้งในวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ในช่วงสั้น Innovest X มองตลาดหุ้นไทยยังผันผวนและเปราะบาง จากกังวลความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศ ส่วนปัจจัยต่างประเทศในสัปดาห์นี้คาดยังไร้ปัจจัยใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้
1) หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE SCGP TU MINT
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์ Cover Short หลังตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 67 เลือก HANA TOP BEM KCE MINT OSP BBL SCGP AOT
3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2024) ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค. 67 เลือก ADVANC TRUE CPALL MINT TU
4) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP