Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดกฎหมายอากาศสะอาด ในต่างประเทศ แล้ว พ.ร.บ.อากาศสะอาดไทยไปถึงไหน?
โดย : พลวัฒน์ รินทะมาตย์

เปิดกฎหมายอากาศสะอาด ในต่างประเทศ แล้ว พ.ร.บ.อากาศสะอาดไทยไปถึงไหน?

1 ก.พ. 68
11:13 น.
|
176
แชร์

Highlight

ไฮไลต์

SPOTLIGHT รวบรวม ตัวอย่างกฎหมายอากาศสะอาดจาก 4 ภูมิภาคหลักของโลก ที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมคุณภาพอากาศ เพื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายอากาศสะอาดของประเทศไทยที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาวาระ 2 และ 3 ต่อไป

เปิดกฎหมายอากาศสะอาด ในต่างประเทศ แล้วพ.ร.บ.อากาศสะอาดไทยไปถึงไหน?

ต้องยอมรับว่ามลพิษทางอากาศและ PM 2.5 ถือเป็นอีกฤดูกาลหนึ่งของประเทศไทยไปเสียแล้ว เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างมาก สำหรับกรุงเทพฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าเพียง 1 เดือน  PM 2.5 ได้ก่อให้เกิดมูลความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท นี่จึงทำให้แนวทางการแก้ปัญหาเรื่องอากาศต้องมีการกำหนดออกมาเป็นกฏหมาย 

ทั้งนี้ในหลายประเทศมีการจัดทำ พระราชบัญญัติอากาศสะอาด (Clean Air Act) หรือกฎหมายที่คล้ายกันเพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรม ยานพาหนะ และแหล่งกำเนิดอื่น ๆ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบจากการใช้พลังงานฟอสซิล ซึ่งกฏหมายอากาศสะอาดของแต่ละประเทศมีกลไกการดำเนินงานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และบริบททางสังคม 

SPOTLIGHT รวบรวม ตัวอย่างกฎหมายอากาศสะอาดจาก 4 ภูมิภาคหลักของโลก ที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมคุณภาพอากาศ เพื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายอากาศสะอาดของประเทศไทยที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาวาระ 2 และ 3 ต่อไป

1. พระราชบัญญัติอากาศสะอาด (Clean Air Act) – สหรัฐอเมริกา

พระราชบัญญัติอากาศสะอาดของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก มีการแก้ไขหลายครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

สาระสำคัญของกฎหมาย

  • ใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2506 (1963) และปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2533 (1990)
  • บังคับใช้โดย สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (Environmental Protection Agency - EPA)
  • กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศแห่งชาติ (NAAQS – National Ambient Air Quality Standards) เพื่อลดระดับมลพิษทางอากาศ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂), ไนโตรเจนออกไซด์ (NOₓ), คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), โอโซน (O₃), ฝุ่นละออง (PM10 และ PM2.5)
  • ใช้มาตรการ "Cap and Trade" สำหรับการซื้อขายสิทธิปล่อยมลพิษ เช่น การลดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน
  • ควบคุมการปล่อยมลพิษจาก อุตสาหกรรม โรงงานไฟฟ้า และยานพาหนะ อย่างเข้มงวด

ที่น่าเป็นห่วงคือ การชนะการเลือกตั้งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2024 มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ พระราชบัญญัติอากาศสะอาด (Clean Air Act) ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐอย่างเป็นทางการ ลุยพัฒนาอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล ถอนสหรัฐฯ ออกจากความตกลงปารีส อีกด้วย

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

  • คุณภาพอากาศในเมืองใหญ่อย่าง ลอสแอนเจลิส และนิวยอร์ก ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคพลังงานลง 40% ตั้งแต่ปี 1990
  • อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าทำให้ต้นทุนดำเนินงานของภาคธุรกิจสูงขึ้น และบางรัฐยังคงเผชิญกับปัญหามลพิษจากอุตสาหกรรมหนัก

2. มาตรฐานคุณภาพอากาศสหภาพยุโรป (European Union Air Quality Standards) – สหภาพยุโรป

สหภาพยุโรป (EU) มีนโยบายที่เข้มงวดเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ เพื่อปกป้องสุขภาพประชาชนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สาระสำคัญของกฎหมาย

  • Directive on Ambient Air Quality and Cleaner Air for Europe (2008/50/EC) เป็นกรอบกฎหมายหลักของ EU
  • กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศที่ เข้มงวดกว่าสหรัฐฯ เช่น ค่าฝุ่น PM2.5 ต้องไม่เกิน 25 µg/m³ ในขณะที่สหรัฐฯ อนุญาตให้สูงถึง 35 µg/m³
  • ตั้งกลไก ค่าปรับทางเศรษฐกิจ สำหรับประเทศสมาชิกที่ไม่สามารถควบคุมมลพิษให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ พลังงานหมุนเวียน และการใช้ยานพาหนะไฟฟ้า

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

  • เยอรมนี สวีเดน และเดนมาร์ก มีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นอย่างมากจากการลดการใช้ถ่านหินและส่งเสริมพลังงานสะอาด
  • อย่างไรก็ตาม ประเทศในยุโรปตะวันออกเช่น โปแลนด์และบัลแกเรีย ยังคงมีปัญหามลพิษจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน


3. กฎหมายควบคุมมลพิษทางอากาศ (Air Pollution Control Law) – จีน

จีนเป็นประเทศที่เผชิญปัญหามลพิษทางอากาศรุนแรงจากการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหานี้

สาระสำคัญของกฎหมาย

  • กฎหมาย Air Pollution Control Law ของจีนมีการปรับปรุงครั้งสำคัญในปี พ.ศ. 2558 (2015)
  • บังคับใช้มาตรฐาน "Ultra-Low Emissions" สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหิน
  • ใช้ระบบ Social Credit Score ลงโทษบริษัทที่ปล่อยมลพิษเกินกำหนด
  • ติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศในเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

  • ระดับ PM2.5 ในปักกิ่งลดลง 35% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
  • ลดจำนวน "วันอากาศเป็นพิษ" ในเมืองใหญ่จาก 100 วัน/ปี เหลือ 25 วัน/ปี

แม้คุณภาพอากาศในเมืองใหญ่จะดีขึ้น แต่ พื้นที่ชนบทและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ยังมีปัญหามลพิษที่ต้องได้รับการจัดการต่อไป

4. แผนปฏิบัติการอากาศสะอาดแห่งชาติ (National Clean Air Programme – NCAP) – อินเดีย

อินเดียเผชิญปัญหามลพิษฝุ่น PM2.5 และ PM10 อย่างหนัก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น นิวเดลี

สาระสำคัญของกฎหมาย

  • เปิดตัว แผนปฏิบัติการอากาศสะอาดแห่งชาติ (NCAP) ในปี พ.ศ. 2562 (2019)
  • ตั้งเป้าหมายลดมลพิษลง 20-30% ภายในปี 2567
  • ส่งเสริมการใช้ พลังงานสะอาดและมาตรการลดฝุ่นจากการเผาขยะ

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

  • แม้มีการดำเนินมาตรการ แต่ นิวเดลียังคงเป็นเมืองที่มีมลพิษสูงที่สุดในโลก
  • อินเดียต้องการความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้นเพื่อลดปัญหามลพิษ

แม้ว่าหลายประเทศจะออกกฎหมายอากาศสะอาดและมีมาตรการลดมลพิษที่เข้มงวด แต่ยังคงเผชิญกับความท้าทาย เช่น การบังคับใช้กฎหมาย ที่อาจไม่ทั่วถึง ค่าใช้จ่ายสูง สำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด การประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชน

อย่างไรก็ตาม การพัฒนากฎหมายอากาศสะอาดถือเป็นก้าวสำคัญสู่ "อากาศสะอาดเพื่อทุกคน"

แล้ว พ.ร.บ. อากาศสะอาดของประเทศไทย ไปถึงไหน?

สำหรับความคืบหน้าของ พ.ร.บ.อากาศสะอาดของไทย ณ วันที่ 31 มกราคม 2568 ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... ของประเทศไทยมีความคืบหน้าดังนี้:

มกราคม 2567 สภาผู้แทนราษฎรได้รับร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด จำนวน 7 ฉบับ จากคณะรัฐมนตรี พรรคการเมือง และภาคประชาชน เพื่อพิจารณา 

17 มกราคม 2567 สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 7 ฉบับในวาระที่ 1 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณารวมร่างกฎหมายเหล่านี้เป็นร่างเดียว 

มกราคม - ตุลาคม 2567 คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ประชุมทั้งหมด 114 ครั้ง เพื่อแปรญัตติและปรับปรุงเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. 

30 ตุลาคม 2567 คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แถลงความคืบหน้าว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. คืบหน้าไปประมาณ 85% และเตรียมเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2567 

24 มกราคม 2568 คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เปิดเผยว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ใกล้เสร็จสมบูรณ์ และคาดว่าจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ. เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 และ 3 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 

หากร่าง พ.ร.บ. นี้ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2568

สารสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … 

มีเป้าหมายสำคัญในการ กำหนดให้ประชาชนมีสิทธิในการหายใจเอาอากาศสะอาด กำหนดให้รัฐมีหน้าที่ในการควบคุมและจัดการแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ ประชาชนมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลคุณภาพอากาศ กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศ ส่งเสริมพลังงานสะอาด สร้างกลไกบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพและเศรษฐกิจอีกด้วย


แชร์
เปิดกฎหมายอากาศสะอาด ในต่างประเทศ แล้ว พ.ร.บ.อากาศสะอาดไทยไปถึงไหน?