รายงานของสำนักงานนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ซึ่งถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ระบุว่าปริมาณการปล่อยก๊าซพิษในกรุงลอนดอนลดลง 27% โดยเป็นผลมาจากการขยายเขตควบคุมมลพิษในพื้นที่ใจกลางกรุงลอนดอนเมื่อปี 2023 ซึ่งได้กำหนดการจัดเก็บภาษีจากยานพาหนะที่ก่อมลพิษต่อสภาพอากาศ โดยผู้ที่ขับรถยนต์เชื้อเพลิงเบนซินหรือดีเซลรุ่นเก่าที่ปล่อยมลพิษสูงเข้าไปในเขตควบคุมจะถูกปรับเป็น 180 ปอนด์ หรือประมาณ 7,800 บาท
Ultra Low Emission Zone (ULEZ) หรือเขตควบคุมมลพิษของกรุงลอนดอน ได้รับการเสนอครั้งแรกในปี 2019 โดยนายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีของกรุงลอนดอนจากพรรคแรงงาน ซึ่งต่อมาในเดือนสิงหาคม ปี 2023 ได้มีการขยายเขตควบคุมมลพิษให้ครอบคลุมพื้นที่ของกรุงลอนดอนมากขึ้น
ทั้งนี้ ตามรายงานฉบับล่าสุดของสำนักงานนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนพบว่าระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ในกรุงลอนดอนลดลง 27% ซึ่งก๊าซพิษเกิดจากเครื่องยนต์ของยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซินหรือดีเซลรุ่นเก่า ๆ โดยไนโตรเจนไดออกไซด์อาจส่งผลให้เกิดโรคหอบหืด ชะลอการพัฒนาปอดของเด็ก และเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งปอดแก่ประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม แผนการขยายพื้นที่ ULEZ ยังคงถูกคัดค้านจากประชาชนส่วนหนึ่ง โดยพวกเขาให้เหตุผลว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจะทำให้วิกฤตค่าครองชีพเลวร้ายลง เนื่องจากประชาชนและภาคธุรกิจในเขตชานเมืองมีความจำเป็นต้องพึ่งพารถยนต์และรถตู้ เพราะว่าระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร
“การตัดสินใจขยายเขต ULEZ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพื่อสุขภาพของชาวลอนดอนทุกคน” นายข่านกล่าว
อ้างอิง: Reuters