ด้วยโครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนสู่สังคมสูงวัย รวมถึงครอบครัวส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจไม่มีลูก ทำให้ทุกวันนี้หลายคนกลายมาเป็นทาสน้องหมาน้องแมวกันมากขึ้น ซึ่งเกือบครึ่งของคนไทยในกลุ่มนี้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อให้เป็นเหมือนลูก พร้อมดูแลเสมือนคนในครอบครัว (49%) ตามด้วยเหตุผลอื่น ๆ อย่างเช่น เลี้ยงเพื่อแสดงออกถึงไลฟ์สไตล์และเสริมภาพลักษณ์ เช่นการเลี้ยงสัตว์หายากราคาแพง (33%) และ เลี้ยงเพื่อช่วยเหลือและบำบัดรักษา ฮีลทั้งด้านจิตใจและร่างกาย (18%) (CMMU Research)
กลายเป็นปรากฏการณ์ “Pet Humanization” ที่คนยุคใหม่เริ่มมองสัตว์เลี้ยงเหมือนสมาชิกในครอบครัว เปลี่ยนตัวเองกลายเป็น “พ่อแม่” ที่พร้อมลงเงินลงเวลา ดูแลทุกอย่างให้น้องหมาน้องแมวมีความสุขที่สุด
เทรนด์นี้จึงเปิดโอกาสใหม่ให้แบรนด์ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดย Euromonitor คาดว่า ตลาดธุรกิจสินค้าและบริการเกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงในไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 10.9% และมีมูลค่า 100,756 ล้านบาท ภายใน 4 ปีข้างหน้า (Euromonitor Passport Pet Care Forecast)
ในโลกที่เปลี่ยนไป ความท้าทายในการสร้างความแตกต่างและความผูกพันกับแบรนด์ก็สูงขึ้น ถึงขนาดที่ว่าหากแบรนด์กว่า 65% ที่อยู่ในตลาดจะหายไป ผู้บริโภคก็ไม่สนใจ เพราะมีแบรนด์ใหม่ ๆ ที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจทุกวัน
แล้วแบรนด์จะใช้ความเข้าใจใน Pet Humanization เพื่อเข้าถึงจิตใจของสัตว์เลี้ยงและสร้างคุณค่าในใจคนได้ยังไง (Ogilvy’s Brands that Do – Building a Behavior Brand)
ด้วยพลังของความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีใหม่ ปัจจุบันแบรนด์ทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนจากภาพเดิม ๆ ของน้องหมาน้องแมวที่เป็นแค่นางแบบนายแบบในโฆษณา มาเป็นศูนย์กลางของไอเดียและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ฉีกกฎเพื่อชนะใจคนและช่วยให้แบรนด์สร้าง Brand Differentiation & Brand Love จนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนได้จริง
1.ชนะใจคน ด้วยการเข้าถึงอิสระการเลือกของสัตว์เลี้ยง (Win with pet empowerment)
เวลาเลือกซื้อของให้สัตว์เลี้ยง หลายคนมักสงสัยว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้องจะชอบหรือไม่ชอบอะไร บางครั้งก็เหมือนกำลังเล่นเกมเดาใจ แต่จริง ๆ แล้วน้องหมาน้องแมวฉลาดกว่าที่เราคิดเยอะ ดังนั้น ทำไมเราถึงไม่ลองให้เค้ามีสิทธิ์เลือกช็อปเองบ้าง
ด้วยพลังของ AI Marketing วันนี้แบรนด์อย่าง Petz จากบราซิล ร่วมกับ Ogilvy Brazil, D2G Tecnologia และ Hogarth ตอบโจทย์นี้ได้แล้ว โดยการนำ AI มาช่วยตรวจจับอารมณ์และท่าทางของน้องหมาบนเว็บ เพื่อให้เจ้าของรู้ว่าสินค้าไหนที่น้องอยากได้ และเพิ่มเข้าตะกร้าให้เองโดยอัตโนมัติ เป็นไอเดียที่ฉีกทุกกฎทุกการช็อป จาก commerce และ e-commerce สู่ AI Powered Pet-commerce ที่ ชนะใจคน ที่สามารถให้น้องเลือกซื้อได้เองโดยที่ไม่ต้องมานั่งเดาใจอีกต่อไป ผลลัพธ์คือทราฟฟิคเพิ่มขึ้น 104% ยอดขายพุ่งเกือบ 60% และสร้างกระแสที่คนพูดถึงกันทั่วประเทศ
2.ชนะใจคน ด้วยการเข้าถึงปัญหาสุขภาพที่มองไม่เห็น (Win with insight to wellbeing)
ปัญหาสุขภาพและความเจ็บป่วยของสัตว์เลี้ยงมักเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น จนกลายเป็นอาการเรื้อรังที่อาจสายเกินแก้ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อมที่พบได้ในแมวกว่า 40% แต่กลับไม่ได้รับการรักษาเพราะเป็นภัยเงียบที่ซ่อนตัวอยู่ทำให้อาจคาดไม่ถึง
โดยภัยเงียบนี้ เป็นสิ่งที่แบรนด์เวชภัณฑ์และยาสัตว์เลี้ยงอย่าง Zoetis มุ่งมั่นหาทางรับมือ จึงจับมือกับสัตวแพทย์ และ Ogilvy Health NA พัฒนา “Cat Pain IQ” ที่ใช้ Machine Learning เพื่อประเมินความเจ็บปวดในการเคลื่อนไหวของน้องแมวจากวิดีโอที่เจ้าของถ่าย ทำให้สามารถตรวจพบและระบุอาการเบื้องต้นเองได้จากบ้าน แคมเปญนี้ช่วยดึงดูดเจ้าของแมวให้ลองใช้ Cat Pain IQ จนทำให้กว่า 55% ของผู้ใช้พาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที และเป็นไอเดียที่ตอบโจทย์หลายด้าน เพราะนอกจากจะช่วยให้ Zoetis เข้าถึงความรู้สึกและสุขภาพของสัตว์เลี้ยง และชนะใจเจ้าของแล้ว ยังคงสร้างคุณค่าในใจสัตว์แพทย์ที่เป็นลูกค้าหลักของแบรนด์ได้อีกด้วย
3.ชนะใจคน ด้วยคุณภาพที่กล้าท้าให้ลองด้วย (Win with daring authenticity)
ปัจจุบันเจ้าของสัตว์เลี้ยงกว่า 51% ในไทยมองหาอาหารจากวัตถุดิบสดใหม่ที่ดีต่อสุขภาพน้อง ๆ และกว่า 27% ต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่สะท้อนถึงคุณภาพการกินของตัวเอง เพราะมองว่าหากไม่ดีพอสำหรับตัวเอง อาหารนั้นก็ไม่เหมาะสำหรับน้อง ๆ เช่นกัน (Dynata/Mintel)
Furry’s Kitchen แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงหน้าใหม่ในสิงคโปร์ ได้หยิบอินไซต์นี้มาเป็นโอกาสในการสร้างความโดดเด่นขึ้นมาจากแบรนด์ใหญ่อื่น ๆ ที่ครองตลาดมายาวนาน ด้วยการเน้นมาตรฐานอาหารที่มากกว่าแค่ระดับ "high-quality" แต่เป็น "human-grade" ทั้งในด้านคุณภาพ โภชนาการ และรสชาติ โดยร่วมมือกับ Ogilvy Singapore และเชฟชื่อดัง จัดแคมเปญ blind taste test ให้แก่อินฟลูเอนเซอร์สายอาหารได้ลองชิมเมนูที่ถูกสร้างสรรค์จากวัตถุดิบของแบรนด์ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี สามารถทำให้ทุกคนประทับใจจนแชร์รีวิวไปยังผู้ติดตาม โดยแคมเปญนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้แบรนด์สร้างความโดดเด่น ด้วยคุณภาพและรสชาติที่กล้าท้าให้ลอง แต่ยังช่วยให้แบรนด์เติบโต 19% และเพิ่มจำนวนผู้ติดตามถึง 746%
ในยุคที่แบรนด์ต้องเผชิญกับความท้าทายและการแข่งขันที่สูงขึ้น ตัวอย่างเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยให้แบรนด์โดดเด่นขึ้น และยังสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะเมื่อพลังของความคิดสร้างสรรค์ผสานกับพลังของเทคโนโลยีและโซเชียลในโลกใหม่ เราจะค้นเจอนวัตกรรมหรือประสบการณ์ที่ฉีกกฎทุกตำราการตลาด ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนไปในทุกวันของผู้บริโภค และสร้างคุณค่าในใจคนได้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
ผู้เขียน: สลิล ดุษฎีสุรพจน์
ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ โอกิลวี่ ประเทศไทย
References:
https://www.cm.mahidol.ac.th/web/about/more-about/archieve-news?view=article&id=108&catid=11
https://www.portal.euromonitor.com/Analysis/Tab
https://www.ogilvy.com/sites/g/files/dhpsjz106/files/pdfdocuments/Ogilvy_BrandsThatDo.pdf
https://www.ogilvy.com/cn/eng/work/pet-commerce#portfolio-info
https://www.catpainiqpro.com/
https://clients.mintel.com/content/report/a-year-of-innovation-in-pet-food-and-products-2024#workspace_SpacesStore_60910339-9883-44a2-b5bc-7fb77494bfda
https://furryskitchen.sg/blogs/news/furry-s-kitchen-challenges-dog-food-perception-with-three-course-menu-for-humans?srsltid=AfmBOopiEN_-msJxd35jcnwOXzTiez1TTVqovPQ7AFBq45coBCzjHtBt
Sustainability & Social Impact