ขยะมากมายกองล้นอยู่ทั่วตามท้องถนนของเมืองเบอร์มิงแฮม กองขยะใหญ่โตส่งกลิ่นรบกวนและกลายเป็นภาพไม่น่ามอง ทำให้ทิวทัศน์ของเมืองเบอร์มิงแฮม เมืองใหญ่อันสองของประเทศอังกฤษ และสถาการณ์นี้ดำเนินต่อเนื่องมานานกว่า 5 สัปดาห์ ชาวเมืองบ่นเห็นหนูตัวใหญ่กว่าแมว
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2567 สภาเทศบาลเมืองเบอร์มิงแฮมประกาศลดค่าตอบแทนนอกเวลางาน ห้ามทำงานล่วงเวลา และลดตำแหน่งเก็บขยะ เพื่อเป็นการตอบโต้การคัดค้านและเลื่อนเวลาการตัดสินใจดังกล่าวของสภาเทศบาลเมือง สหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ United the Union ประกาศว่า พนักงานรีไซเคิลและเก็บรวบรวมขยะจะหยุดงานประท้วงช่วงต้นปี 2568 โดยแผนการประท้วงหยุดงานที่ประกาศออกมาเมื่อปลายปีก่อน ประกาศว่าการประท้วงจะเกิดขึ้นใน เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เดือนละ 4 วัน หรืออาทิตย์ละวัน เดือนมีนาคม 3 วัน และเดือนเมษายน 1 วัน
เจ้าหน้าที่สหภาพแรงงาน โซอี มาโย กล่าวว่า “สหภาพแรงงานยอมโอนอ่อนประนีประนอมเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งนี้แล้ว แต่สภาเทศบาลเมืองกลับเจรจาโดยปราศจากความจริงใจ และปฏิเสธจะปฏิบัติต่อพนักงานด้วยความเป็นธรรมและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การประท้วงหยุดงานนี้ เมื่อนานเข้าจะขัดขวางงานให้บริการทั่วไปในเบอร์มิงแฮมแน่ ปัญหานี้เป็นเพราะสภาเทศบาลเมืองทำตัวเองทั้งนั้น ทางออกของปัญหาอยู่ในมือสภาเทศบาลเมือง”
สหภาพแรงงานกล่าวว่ามีแรงงานเก็บขยะกว่า 150 คนได้รับผลกระทบ และอาจเสียรายรับกว่า 8,000 ปอนด์ หรือราว 300,000 บาท นอกจากนี้การตัดค่าตอบแทนดังกล่าวยังมีผลต่อเงินบำนาญอีกด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2023 เทศบาลเมืองเบอร์มิงแฮมที่บริหารโดยพรรคแรงงานประสบปัญหาล้มละลาย ทำให้สภาเมืองต้องหยุดการใช้จ่ายทั้งหมดยกเว้นการบริการที่จำเป็น เช่น การศึกษา และ การเก็บขยะ แต่ทำไมเทศบาลจึงล้มละลายได้?
ในปี 2012 อดีตพนักงานเทศบาลเมือง 174 คน ประกอบไปด้วยพนักงานทำความสะอาด แม่ครัว และพนักงานทั่วไป ทั้งหมดล้วนเป็นผู้หญิง ฟ้องสภาเทศบาลเมืองเบอร์มิงแฮมภายใต้พระราชบัญญัติความเท่าเทียมกันปี 2010 และพระราชบัญญัติการจ่ายค่าจ้างที่เท่าเทียมกัน ปี 1970 กล่าวว่าพวกเธอไม่ได้รับเงินเดือนเท่าเทียมกับผู้ชาย ทั้งยังไม่ได้โบนัสและเงินพิเศษเหมือนเพื่อนร่วมงานเพศชายอีกด้วย
แรงงานชนะในยกนี้ เทศบาลเมืองจึงต้องจ่ายค่าจ้างย้อนหลังให้แก่พนักงานที่เคยได้รับค่าจ้างไม่เป็นธรรมตามคำสั่งของศาลกีฎาในปี 2012 ซึ่งมีมูลค่าราว 650-760 ล้านปอนด์ หรือ 24,600-28,800 ล้านบาท
นอกเหนือจากการแก้ไขความไม่เป็นธรรมของค่าจ้างย้อนหลัง การตัดงบประมาณ 1,000 ล้านปอนด์โดยรัฐบาลอนุรักษ์นิยมในปี 2010 ก็เป็นอีกปัจจัยที่แชรอน ทอมป์สัน รองผู้นำสภาเมืองเบอร์มิงแฮม ชี้ว่าเป้นตัวการการล้มละลาย
อีกด้าน พนักงานเก็บขยะในเบอร์มิงแฮมมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 24,027-25,992 ปอนด์ หรือราว 911,000-986,000 บาท ซึ่งมากกว่ารายได้เฉลี่ยของสหราชอาณาจักรที่ 23,795 ปอนด์ หรือ 902,000 บาทอยู่เพียงเล็กน้อย
หลังสภาเทศบาลเมืองประกาศล้มละลาย พนักงานเก็บขยะยอมรับการตัดเงินเดือนโดยสมัครใจและเขื่อนไขอื่นๆ ของเทศบาลไปแล้ว รวมถึงการสละเงินค่าจ้างล่วงเวลา 1,000 ปอนด์
ตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างเทศบาลเมืองและสหภาพแรงงานเริ่มต้นขึ้น ขยะบนถนนในเมืองเบอร์มิงแฮมก็ค่อยๆ ปรากฎบ่อยครั้งและค้างคาบนถนน สมาชิกสหภาพฯ ออกเสียงขยายระยะเวลาการประท้วงให้ยาวนานขึ้น เนื่องจากไม่มีท่าทียอมผ่อนผันจากฝั่งเทศบาล แรงงานที่ไม่ใช่พนักงานรีไซเคิลและเก็บรวบรวมขยะมาเก็บขยะส่วนเกินแทนเป็นการชั่วคราว แต่ก็พบกับอุปสรรคเมื่อพนักงานเก็บขยะผู้ประท้วงหยุดงานกีดขวางไม่ให้รถเก็บขยะที่ถูกว่าจ้างมาชั่วคราวออกมาจากศูนย์เก็บขยะได้
“การกีดขวางทางออกศูนย์ของเราทุกวันโดยกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้เราไม่สามารถออกไปเก็บขยะให้ชาวเมืองได้” สภาเทศบาลกล่าวในแถลงการณ์
“การใช้แรงงานนอกกฎหมายมาพยายามทำลายแผนประท้วงของเราอย่างไร้เกียรติ ลงเอยด้วยการประท้วงที่ยาวนานขึ้น ทางเดียวที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้คือการหยุดโจมตีค่าจ้างของพนักงานอย่างโหดร้ายและไม่จำเป็น” เลขาธิการทั่วไป Unite the Union กล่าวเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา
เมื่อเรื่องราวล่วงเลยมาถึงเดือนมีนาคม ก็มีแรงงานกว่า 400 ชีวิตร่วมประท้วงหยุดงานครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้ 150 ชีวิตที่ได้รับผลการทบจากการตัดค่าจ้างของเทศบาลเมือง
เมื่อวันที่ 28 มีนาคมเมืองเบอร์มิงแฮมออกแถลงการณ์อธิบายสถาการณ์ดังกล่าว ระบุว่าไม่มีพนักวานคนใดจำเป็นต้องเสียรายรับปีละ 8,000 ปอนด์ตามที่สหภาพแรงงานอ้าง เนื่องจากสภาเทศบาลเมืองเสนอ “การว่าจ้างทางเลือก” ให้แก่พนักงานเก็บขยะที่มีรายได้ล่วงเวลาหดหาย เช่น การฝึกสอนขับรถ หรือการลาออกโดยสมัครใจ ซึ่งก็ได้รับเสียงสะท้อนว่าการเสนองานเพิ่มนั้นไม่ตรงจุด และมีตำแหน่งงานไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับตำแหน่งงานที่ถูกตัดออกไปอย่างไม่จำเป็น
CNN รายงานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ว่า มีขยะกองสะสมในเมืองเบอร์มิงแฮมมากกว่า 17,000 ตันส่งกลิ่นเหม็นอบอวล สัตว์และแมลงไม่พึงประสงค์เริ่มโจมตีที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร และโรงแรมหรู
“กลิ่นเลวร้ายมากจนไม่น่าเชื่อ มีทั้งอาหารเน่า หนอนแมลงวันคลานออกจากถุงขยะไปตามพื้น” วิล ทิมม์ นักควบคุมศัตรูพืชกล่าวกับ CNN เขากล่าวว่าชาวเมืองโทรตามตัวเขาไปช่วยกำจัดหนู แมลงสาบ และสัตว์อื่นๆ จามบ้านเรือนของประชาชนมากขึ้นราว 50% ตั้งแต่พนักงานเก็บขยะประจำเมืองหยุดงานประท้วง ทิมม์กล่าวว่า งานกำจัดหนูและแมลงสาบล้นมือมากจนเขาทำคนเดียวไม่ไหว และต้องขอความช่วยเหลือจากนักกำจัดศัตรูพืชคนอื่นๆ
“คุณเห็นน้ำขยะไหลนองออกมาจากถุงขยะบนถนนได้เลย เหม็นมาก” นาฮีม ยูซาฟ ชาวเมืองเบอร์มิงฮมกล่าว “ขยะพวกนี้ทำให้เมืองแย่ไปหมด คนเขาจะพูดกันว่า ‘ดูแถวนี้สิ คนที่นี่ต้องสกปรกกันขนาดไหน’”
วานิตา พาเทล ชาวเมืองเบอร์มิงแฮมอีกคนกล่าวว่า เธอต้องทิ้งขยะที่ถังขยะบ้านญาตินอกเมืองเบอร์มิงแฮม ขณะที่ยูซาฟต้องขนย้ายอุปกรณ์การทำงานจากรถตู้ที่ทำงาน เพื่อขนขยะของเขาและเพื่อนบ้านไปทิ้งที่ลานทิ้งขยะ ซึ่งต้องจองคิวล่วงหน้าก่อนไปทิ้งด้วย
“จองคิวได้ทุกวันนี้นี่รู้สึกเหมือนถูกหวยเลย” ยูซาฟกล่าว
อ้างอิง: AP, CNN, Unite the Union, BirminghamGov, Farrer&Co