ปัจจุบันโลกของเรากำลังได้รับผลกระทบจากภาวะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกอย่างหนัก ส่วนหนึ่งที่มีผลทำให้เกิดปัญหาข้างต้น ก็มาจากการเพาะปลูกพืชผักและผลไม้ด้วยการใช้สารเคมีอย่างปุ๋ยเคมี ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลกระทบไปถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโลกร้อนได้เช่นเดียวกัน
งานมหกรรมด้านความยั่งยืน Sustainability Expo 2024 จึงมีเซ็กชั่นทอล์คพิเศษ ในหัวข้อ กินแบบกรีนกรีน สูตรลับสุขภาพดีที่โลกต้องการ ผ่านมุมมองวิทยากรคนดังสายสุขภาพอย่าง นิปปอน นวนันท์ บำรุงพฤกษ์ ผู้ประกาศข่าวและพิธีกรช่อง One31 & GMM25 และ แม็กซีน อินทิพร แต้มสุขิน Content creator ช่อง maxdicine เพื่อแบ่งปันความรู้และแชร์ประสบการณ์การกินแบบกรีนกรีนโดยไม่ทำลายโลก
เทรนด์ทางอาหารคลีน
นิปปอน : จะบอกว่าตัวเองเป็นคนกินกรีนหรือกินคลีนก็พูดไม่ได้เต็มปากสักเท่าไรนะคะ เอาเป็นว่า
นิปก็เหมือนเพื่อนๆ ทุกๆคนที่อยากจะทานอาหารที่ดีแล้วก็ดูแลสุขภาพของเรา หรือบางคนบอกกินกรีนกินคลีนแล้วมันช่วยทำให้เราหุ่นดี ช่วยลดน้ำหนักหรือควบคุมไขมันได้ เราก็ไปหาข้อมูลมาเยอะแยะเลยค่ะสารพัดสูตรเลย ชอบดูชอบอ่านบางทีไปอ่านของต่างประเทศมีสูตรนั้นสูตรนี้มากเลย คีโตบ้าง โลว์คาร์บบ้าง เราก็ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ แต่ว่าสุดท้ายจริงๆ นิปรู้สึกว่าการกินคลีนหรือว่ากินกรีนสำหรับตัวเราแล้ว เราอาจจะต้องหาที่เหมาะกับตัวเราได้ หาในสิ่งที่เราน่าจะทำได้ไม่ฝืน แล้วก็บาลานซ์มันเพื่อไม่ให้ตัวเราเครียด เพราะร่างกายเรามันก็เครียดนะ ถ้าเราไปบังคับให้กินแต่ผักอย่างเดียว อะไรที่เราไปเจาะจง น้ำตาลห้ามเด็ดขาด ต้องศูนย์เปอร์เซ็นต์ มันเครียดนะคะ แล้วสุดท้ายที่แทนจะเป็นผลดีกับเรา มันอาจจะเป็นผลเสียก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าให้นิยามการกินกรีนหรือกินคลีน คืการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้วก็บาลานซ์กับทั้งร่างกายและจิตใจเราค่ะ
แม็กซีน : เห็นด้วยกับพี่นิปปอนมากเลยนะคะ ขอแชร์แล้วกันในฐานะที่เป็นนักเล่าเรื่อง ขอเล่าเรื่องส่วนตัวละกันค่ะ คือก่อนหน้านี้น่าจะประมาณ 6 ปีที่แล้ว แม็กกินคลีน กินแต่ผักนึ่ง ไก่นึ่ง ของนึ่งหมดทุกอย่าง แต่เรากินอาหารซ็ๆ สองคือเราเข้มงวดมาก ห้ามน้ำตาล ห้ามไขมัน สิ่งนั้นทำให้ร่างกายเราเครียดมาก จนกระทั่งเราไม่สบาย ตอนนั้นขนาดที่เรารู้สึกว่าเรากินอะไรที่มันเฮลท์ตี้ที่สุดเราไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่า Growth Hormone เราเป็นเหมือนคนอายุ 80 ค่ะ หมายถึงว่าร่างกายแทบจะฟื้นฟูตัวเองไม่ได้เลย แล้วโรคอย่างอื่นก็ตามมา ประจำเดือนเริ่มมาปีละครั้ง เป็นสะเก็ดเงิน ลมพิษ สารเป็นพิษในเลือด นอนไม่หลับ ซึ่งถ้าให้นิยามคำว่ากินคลีนหรือกินกรีนคืออะไร เห็นด้วยกับพี่นิปปอนเลย คือหาความสมดุลเนอะ มันไม่มีอะไรที่หนึ่งไซส์แล้วมันฟิคกับทุกคน เราต้องฟังร่างกายเรา ร่างกายเราจะเป้ฯคนที่บอกได้ดีที่สุดว่า เราต้องการหรือเราไม่ต้องการอะไร ร่างกายเราชอบอะไร เพราะว่าอย่างผิวเราจะเป็นตัวบอกที่สุดแล้วค่ะ การที่บอกว่าคลีน ลำไส้เราคลีนไหม ขับถ่ายได้ดีไหม สองผิวเราคลีนไหม เป็นสิวเป็นโรคผิวหนัง นั่นอาจจะเป็นตัวชี้วัดว่าต้องปรับละ ร่างกายไม่สมดุลนะ อันนี้เป็นนิยามที่แม็กกินคลีนแล้วก็กินกรีนค่ะ
สัญญาณสุขภาพ ก่อนเริ่มมาทานคลีน
นิปปอน : แชร์เลยละกันนะคะ พี่เป็นคนไม่เคยรักษาสุขภาพเลยช่วงที่ผ่านมา ทำงาน 7 วัน ส-อา คืออะไรไม่รู้จัก เราก็มีความรู้สึกว่าทำงาน 7 วัน เอามาเติมให้มันเต็มเลย มีงานเท่าไรอัดมาให้เต็มที่ เราทำอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้สนใจออกกำลังกาย กลับบ้านมา เหนื่อย กิน นอน รูทีนเป็นแบบนี้จนวันนึงไม่สบายป่วยไปหาหมอ ช็อกมากที่พยว่าเรากำลังจะเป็นโรคร้าย เป็นขั้นที่ตกใจมาก จนกระทั่งเข้าสู่ขั้นตอนการรักษา นั่นเป็นจุดแรกที่เราหันมาเปลี่ยนตัวเอง แต่ใดๆ ก็เปลี่ยนแบบผิดๆ อีกหาข้อมูลใหญ่เลยด้วยความเป็นนักข่าวไง แล้วเราก็ต้องพบคุณหมอเรื่อยๆ ในระหว่างการรักษา เราก็ไปถามหมอทุกอย่างจนหมอบอกว่าคุณต้องรู้จัก Too much Information บางทีมันมากเกินไปคุณไปกูเกิ้ลไปดูไปหาข้อมูลหล่านั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันเป็นเคสเดียวกับตัวเองหรือเปล่า เราก็ไปทำแบบนั้นสุดท้ายกำลังสร้างความเครียดให้กับร่างกาย คุณหมอท่านนี้ดีมากก็เลยบอกว่าคุณทิ้งไปเลยนะไอ้ความกังวล แล้วก็หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพเอาแบบพื้นฐาน ถามหมอพื้นฐานคืออะไรคะ
หมอบอกคุณก็แค่กินให้ได้ นอนให้หลับ ขยับบ้างเป็นครั้งคราว จริงๆ มันก็ดูเบสิคนะ แต่เชื่อไหมไม่รู้ทุกคนคิดเหมือนนิปหรือเปล่า มันยากนะ ลองไปทำ จริงๆ ทุกคนลองถามตัวเองดูก็ได้ว่าวันนี้คุณนอนวันละกี่ชั่วโมง แล้วเรานอนตื่นมาเฟรชทุกวันไหม หรือเราทานอาหารดีๆ มีประโยชน์ครบห้าหมู่เหมือนที่เราเรียนมาตอนเด็ก เราก็ทำไม่ได้นะทุกมื้อ จนสุดท้ายเราก็ออกกำลังกายบ้างไม่ได้บ้าง บางวันขี้เกียจบางวันงานเยอะ ก็ใช้วิธีนี่แหละค่ะ หลักคือบาลานซ์ละกันเนาะ อย่างเรื่องการกินคลีน ณ ตอนนี้ที่ทำอยู่ตอบได้เลยก็คือคลีนเป็นบางมื้อ สะดวกมื้อไหนที่เราพอได้ก็เอามื้อไหนทำงานมันไม่มีทางเลือกเมื่อวานก็ซาลาเปากับนมบนรถ มันก็จำเป็นเนาะ เราก็ใช้ชีวิตไป แต่อย่าไปฝืนถึงขั้นต้องตื่นมาตีสามเพื่อทำข้าวกล่องให้ฉันได้คลีนทุกมื้อ อันนี้เราจะเครียดเปล่าๆ
แม็กซีน : อย่างที่พี่นิปปอนเค้าเล่านะคะ นอกจากจะดูแลเรื่องอาหาร เรื่องของจิตใจก็สำคัญมาก หนึ่งสภาวะความเครียด โอเคมันพูดง่ายนะคะแต่แม็กเข้าใจว่ามันทำค่อนข้างยาก เราเชื่อมาตลอด หลายคนอาจจะมองข้ามเรื่องของขยะอารมณ์หรือว่าสิ่งที่เก็บเอาไว้บนบ่า วันนึงเราออกไปข้างนอกไปเจอหลายอย่างมากเจอนายเจอเพื่อนเจอหัวหน้าปวดหัว แล้วบางทีอะไรที่เราไม่ได้ปล่อยออกไป ไม่ได้ดึงมันออก มันก็ยังจะเก็บกดข้างใน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันเก็บสะสมมาเป็นขยะอารมณ์ มันเลยทำให้หนึ่งตื่นมาบางวันมันไม่อยากไปทำงานมันไม่เฟรช เรื่องของการกินกรีนหรือคลีนอยากให้นึกถึงการคลีนเรื่องของจิตใจด้วย บางคนก็เขียนบางคนก็เป็นการพูดหรือออกกำลังกายก็เป็นวิธีที่ดี หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ง่ายที่สุดอย่างการหายใจก็ช่วยได้ ลองคิดดูนะคะเราใช้วันนึง 3 นาที ตอนตื่นเช้ามากับก่อนนอนใช้เวลาแค่ 3 นาทีหายใจเข้ายาวหายใจออกยาว อันนี้เป็นการคลีนร่างกายหรือดีท็อกร่างกายได้ดีมากๆ ในทุกๆ วันค่ะ
การที่เราไปกำหนดอะไรมาก มันทำให้ร่างกายเราเครียดเกินไป เราต้องรู้จักการให้อภัยตัวเองด้วย ให้อภัยร่างกายตัวเอง ถ้ารู้แล้วว่าสามวันที่ผ่านมากินแย่มากไม่ออกกำลังกายเลย งั้นเราก็ใช้เวลาสักวันนึงคืนให้กับร่างกาย กินอาหารดีๆ หรือว่าพาเขาไปออกกำลังกายสักหน่อย แม็กรู้สึกว่าการรู้จักให้และรับกับตัวเองจะทำให้เรามีความยืดหยุ่นมากขึ้น และลดความเครียดในร่างกายมากขึ้นค่ะ
เคล็ดลับการทานผัก
นิปปอน : จริงๆ มันมีวิธีนึงนะคะ มีช่วงนั้นแหละที่หาข้อมูลเยอะว่าเดี๋ยวจะหันมากินอาหารคลีนๆ หน่อย ไม่ใช่เอะอะก็ขาหมูปากซอย สั่งข้าวหมูแดง ก็ลองดูบ้าง ทีนี้จะทำอะไรจะกินอะไร เชื่อไหมว่ามีตอนที่คิดไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วไปดูชั้นผักมันเยอะมากเลย บางอันก็ไม่รู้จัก ผักนั่นผักนี้ก็เลยคิดเล่นๆ มาทำชาเลนจ์ละกันเนาะ ซื้อผักอะไรที่เราไม่เคยกินแล้วลองมันดูมันต้องอร่อยได้ ไม่งั้นมันมาขายไม่ได้หรอกมันต้องมีซักเมนูนึงที่มันอร่อยได้ จำได้เลยไปซื้ออย่างแรกคือมะเขือม่วง มันกลายเป็นความสุขและสนุกเหมือนกันนะคะ ไปหาผักอะไรที่เราไม่เคยกินแล้วก็ลอง อันนี้นิปใช้ Pinterest เปิดดู อ๋อ ผักอันนี้เค้าเอาไปอบ เอาไปนึ่ง ไปทำอะไรได้ กินน้ำจิ้มกับสุกี้ก็ได้ ล่าสุดก็ไปเปิดใจกับกระเจี๊ยบ ที่มันจะยืดๆ ข้างใน เป็นผักที่แปลกประหลาดนิดนึงเนาะ ข้างในมันยืดๆ เอาไปเสียบไม้ย่างใส่โซยุหน่อยโรยพริกซิมันก็อร่อยหนิแล้วมันก็มีประโยชน์ ก็คือใช้วิธีลองอย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วก็ค่อยๆ ปรับมันไป ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเรารู้จักผักเต็มเลย เข้าซุปเปอร์นี่เราเซียนละ รู้แล้วว่าผักอะไรบ้างเอามาทำอะไรทานได้บ้าง เหมือนเปิดใจแล้วก็เปิดโอกาสลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้างค่ะ
เมนูคลีนที่ลองทำแล้วพบว่าดี
แม็กซีน : แม็กลองเป็นคนที่โชคดีนะคะรอบบ้านเราปลูกผักสวนครัวรอบบ้าน ก็จะมีเมนูที่ชอบมากเลยแล้วเพื่อนที่มาบ้านหรือว่าเราไปบ้านเพื่อน เราต้องทำเมนูนี้ให้กิน ก็คือเราจะหยิบเด็ดผักรอบบ้านซึ่งผักรอบบ้านบางอันเขาโตมาโดยธรรมชาติ เพราะบางทีนกก็เอามาเขาก็จะโตตามวัฏจักรของเขารวมถึงวัชพืชบางชนิดที่กินได้ เช่น กระสัง เราก็จะเอามาทำเป็นเหมือนสลัดแล้วก็อาจจะใส่ความไทยใส่ความแซ่บใส่น้ำพริกเข้าไปก็จะกินง่าย แล้วถ้าเพื่อนคนไหนชอบทานโปรตีนเราก็จะใส่โปรตีนเพิ่มให้หรือว่าธัญพืช ช่วงนี้แมคจะใส่ไข่ผำเข้าไปให้เพื่อนกิน อันนี้ก็จะเป็นเมนูที่แนะนำแล้วที่แม็กแนะนำ
มีวิธีสอนเด็กที่ไม่ชอบทานผัก
นิปปอน : เด็กเนี่ยพี่ว่าก็คงเป็นตัวอย่างให้เขาที่ดี คือการที่เราจะไปบังคับเขากินแต่เราไม่กิน ลูกก็คงเอ้าแม่ยังไม่กิน เราอาจจะพูดได้ไม่เต็มปากเพราะเราไม่ได้เป็นคนมีลูก แต่ในความรู้สึกเรา ใดๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นการกินผัก การใช้ชีวิต หรือว่าการรับประทานอาหารต่างๆการเลือกช้อยส์ของเรา เหล่านี้แหละมันจะส่งผลเป็นตัวอย่างให้กับเด็กที่เขาเห็น ว่าอร่อยหรอทำไมกินจังเลย เราก็เลยรู้สึกว่าการเป็นตัวอย่างที่ดีน่าจะช่วยได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นผักอาหารหรืออะไรเขาก็จะมีตัวอย่างที่ดี
แม็กซีน : สำหรับแม็กนะคะการมีเซ็ตตัวอย่างให้ลูกน้อยดีมากเลย แต่ว่ามันมีผักหลายๆ หลายอย่างที่พอลูกน้อยเห็นหรือว่ารสชาติอาจจะไม่ค่อยชอบ เราก็จะหลอกล่อด้วยการเอามาใส่ผสม เช่น ทำซุป ก็จะไม่ให้เขามองเห็นผักชิ้นนั้นแต่ว่าใส่เข้าไปในซอส หรือหั่นให้มันชิ้นเล็กหรือว่าทำหน้าตาให้มันน่ารักน่าทาน เขาก็จะกินผักไม่รู้ตัว
อาหารคลีนง่ายๆ ที่อยากแนะนำ ในวันที่เร่งรีบ
นิปปอน : มันมีอยู่เมนูหนึ่งนะคะ กินทุกวันเลยเกือบทุกเช้ามันคืออาหารเช้า คือมีความรู้สึกว่าปวดหัวกับการหาอาหารเช้ามากเนาะ เพราะว่าเราต้องออกเร็วออกเช้า กินอะไรดี จำได้เลยช่วงหนึ่งมีช่วงที่ข่าวเช้าไม่มีเวลาแล้วทำยังไงดีจะเบเกอรี่ทุกวันก็ไม่ดีใช่ไหม จะมาแบบไข่คนเอาเวลาตอนไหนทำ สุดท้ายนี้ไปเจอคำตอบจาก YouTube มันคือโอเวอร์ไนท์โอ๊ต ตอนแรกมันดูเหมือนอ้วกเด็กจังเลยแต่ว่ามันอร่อย สุดท้ายเราสนุกไปอีก มันคือข้าวโอ๊ตที่เราซื้อได้ตามซุปเปอร์ตามห้างทั่วไป ใส่ถ้วยตวงแล้วชอบรสอะไรรสช็อกโกแลตก็ไปเอาดาร์กโกโก้ใส่เข้าไปช้อนนึง ใส่โยเกิร์ตเข้าไปอีกช้อน แล้วก็กล้วยหอมหั่นๆวาง เสร็จแล้วเทนมใส่นมอะไรก็ได้ที่เราชอบแล้วก็ปิดฝาทิ้งไว้ทั้งคืน อันนี้คือทำตอนกลางคืนนะคะสองทุ่มได้เลยเสร็จปุ๊บ ตีสี่เปิดตู้เย็นมาเขย่าเล็กน้อยให้มันเข้ากัน เติมนมอีกหน่อยถ้ามันข้นเกินไป สุดท้ายเราจะสนุกเลยล่ะตอนสองทุ่มของทุกคืน วันนี้รสอะไรดีนะแล้วเราก็ทำเก็บเอาไว้ในตู้เย็น เช้ามาก็คือพร้อมทานได้เลย แล้วก็มันก็มีประโยชน์ด้วย ข้าวโอ๊ตทำให้ย่อยง่าย เรื่องของระบบทางเดินอาหารก็ช่วยได้ดี แล้วก็ประหยัดเวลาได้มากๆเลย ลองดูนะคะสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับอาหารเช้า
แม็กซีน : ของแม็กจะมี 2 แบบคือค่ะ คือจะมี Meal Prep ไว้ คือแม็กจะไม่ค่อยชอบกินของที่ปรุงสุกแล้วเราไปแช่ตู้เย็นแล้วมาอุ่นซ้ำใหม่ ถ้ารีบตอนเช้าก็จะทานเป็นของสดถ้าไม่มีเวลาอุ่น หรือสองแม็กก็จะทำเป็น Prep สำหรับปั่นตอนเช้า ทำเป็นน้ำปั่นผักเลยค่ะแล้วก็ใส่ เมล็ดเจีย ใส่แฟล็กซีด ใส่อะไรที่ทำให้มันอิ่มท้อง มีกล้วยแล้วก็มีผักใบเขียว จริงๆ complete meal เลยค่ะ ถ้าวันไหนรู้สึกว่าเพลียหน่อยเราอยากจะใส่เป็นโปรตีนเพิ่มอันนี้ก็ได้แล้วแต่เลยนะคะ คือแม็กจะไม่ชอบกินเวลาเร่งรีบเพราะกระเพาะมันเครียดอยู่แล้ว เวลาที่เรากินเราเครียดระบบย่อยไม่ดี ระบบขับถ่ายไม่ค่อยดี ระบบดูดซึมจะไม่ค่อยดีเราก็จะข้ามไปเลยทำเป็นฟาสติ้งไปเลย ไปกินอีกทีนึงเที่ยงที่เราจะสามารถหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพเราได้และกินแบบสบายใจมากๆ เลย
คิดว่าการที่เรารู้สึกหิว เป็นการที่ลำไส้เราคลีนตัวเองด้วย หรือว่าเซลล์เขาคลีนตัวเองด้วย การที่เรางดอาหารอย่างต่ำประมาณ 20 ชั่วโมง เซลล์เราจะมีกระบวนการคือเซลล์ไปกินเซลล์ที่ไม่ดี นี่ก็คือทำไมคนถึงทำฟาสติ้ง หรือหนึ่งสัปดาห์แม็กจะไม่กินอะไรเลยค่ะ คือเราเป็นคนชอบทดลองกับตัวเองแม็กเคยทำมอเตอร์ฟาสติ้ง 7 วัน คือกินแต่น้ำ 7 วัน โอเคสดชื่นมากเลย แปลกมากคนถามอย่างแรกเลยหิวไหม ทำอะไรได้ไหม มีแรงไหม โอเคมันอาจจะมีวันท้ายๆ หน่อยที่ลุกขึ้นมาแล้วหน้ามืดเพราะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำมากนะคะ แต่ว่าอย่างอื่นคือมีแรง ช่วงแรกๆสองสามวันแรกคือต่อยมวยเล่นโยคะได้หมดเลย แต่ว่าสิ่งที่ได้มาคือตับเราได้พักค่ะ เขาเป็นหน้าที่ที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย เราไม่เคยให้เขาได้พักเลย พอเราให้เขาได้พักไม่ต้องมาทำหน้าที่ย่อยอาหาร เขาก็จะสะอาดมาก
แต่ถ้าใครไม่เคยทำฟาสติ้งนะคะ อันนี้ไม่แนะนำมอเตอร์ฟาสติ้งแบบหลายๆ วันแบบนี้ อันนี้แม็กทำที่ศูนย์ เพราะฉะนั้นมันมีคนคอยดูแล ถ้าเริ่มเองทำหนึ่งวันก็ได้ค่ะ หรือว่า 16 ชั่วโมงก็ได้ 20 ชั่วโมงแค่นี้ก็เก่งมากแล้วเซลล์ร่างกายเราจะได้ประโยชน์มากๆ แล้วค่ะ
เคล็ดลับการทำ Intermittent Fasting หรือ IF ให้เหมาะกับร่างกาย
แม็กซีน : จริงๆ ถ้าเป็นไปได้น้อยที่สุดก็คือ 16/8 ค่ะ ก็คือกิน 8 ชั่วโมงแล้วก็พัก 16 ชั่วโมง ซึ่งจริงๆ แล้วพอเรามาดูแล้วคนเราจริงๆ ไม่จำเป็นต้องกินสามมื้อก็ได้ค่ะ เรากินหนึ่งแม็กจะเลือกกินเมื่อหิว จริงๆ สองมื้อต่อวันเพียงพอแล้วเพื่อที่จะคุมน้ำหนัก ถ้าเรากินสามมื้อเราต้องหาวิธีออกเพราะว่าวันนึงผู้หญิงโดยทั่วไปสามารถเผาผลาญได้อยู่ที่ประมาณ 1200 ถึง 1500 แคลอรี่ ถ้าแค่หายใจเข้าหายใจออกเดินไปเดินมาอยู่ที่ประมาณ 800 แคลอรี่ ฉะนั้นการที่เรากินแล้วเรากินสามมื้อมีหมูกระทะไปมื้อหนึ่งแล้วข้าวขาหมู ข้าวมันไก่มาอีก มันก็จะทำให้หลายคนรู้สึกว่าใส่กางเกงเราอึดอัด เราอาจจะลองปรับลดดูก่อนแล้วก็เริ่มจากการIF 16/8 แต่คนที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคความดันอาจจะต้องปรึกษาแพทย์นะคะ ในการทำเรื่อง IF
นิปปอน : พี่ไม่เคยเลยค่ะ เพราะคิดว่าตัวเองต้องไม่รอดแน่ แต่มันมีอันนึงเรามักจะรู้สึกว่าเราอ้วนไปไหมหรือตอนนี้เราผอมไปไหม สำหรับนิปไม่ได้ใช้ตาชั่งจะใช้พิสูจน์จากเสื้อผ้าที่เราใส่ โอ้โหเราเคยใส่กางเกงตัวนี้ได้เพรียวทำไมตอนนี้มันคับแล้ว เราก็สังเกตตัวเองจากตรงนั้น ทีนี้มันมีอยู่อันนึงเอ็นจอยมาก สงกรานต์ปีที่แล้วข้าวเหนียวมะม่วง ปาร์ตี้กันบ่อยจนกระทั่งรู้สึกไม่ไหวแล้วเริ่มแน่น ไปดู YouTube เหมือนเดิม เจอมันเป็น Benefits of Walking การเดินเฉยๆ มันก็ดีนะไม่เสียตังค์สักบาท เดินตอนเช้าเขาแนะนำนะคะตื่นเช้ามาปั๊บล้างหน้าแปรงฟันแล้วไปเดินเลยโดยที่คุณยังไม่ได้กินอาหารเข้าไป เขาบอกว่าร่างกายเรามันจะไปเอาไขมันเอามาใช้เป็นพลังงานในตอนนั้น เราไม่ต้องวิ่งนะคะ เดินเร็วๆ หน่อยให้เหงื่อมันออก สิ่ง
หนึ่งที่ได้คือมันก็สนุกดีนะแล้วมันได้ทางด้านจิตใจเยอะเรา ได้เห็นอะไรตอนเช้าวิวแบบนี้ชีวิตแบบนี้เขาเป็นกันยังไง เราก็เดินทุกวัน 50 นาทีแล้วก็กลับมาบ้านเริ่มทานอาหารเช้า ปรากฏว่าลองทำ 7 วันเท่านั้นแหละ กางเกงเพรียวเลย มันเวิร์คจริงๆ สังเกตร่างกายตัวเองค่ะเราอาจจะดีขึ้นในแบบใดก็ตาม แต่เชื่อถือว่าสิ่งที่เราทำมันจะมีประโยชน์แต่ว่าทางใดทางหนึ่ง ทดลองดูนะคะอย่าเพิ่งไปทำอะไรที่มันสุดโต่งมากๆ อย่างที่น้องแม็กบอกเนาะ การจะเริ่มทำเหมือนทดลองไปก่อน ถ้ามันเวิร์คกับเราแล้วค่อยลุยต่อไป
แม็กซีน : เหมือนกันเลยนอกจากจะได้เพื่อนใหม่ สิ่งที่เราได้รับคือเมื่อก่อนเป็นคนที่อารมณ์ร้อนมากๆ เลยค่ะ การที่เราออกไปอยู่กับธรรมชาติทุกวัน ได้หายใจลึกๆ พลังจากธรรมชาติโฟลวดีนะคะ
พอ energy มันไม่มีอะไรบล็อก หนึ่งเราอารมณ์ดีขึ้นเราใจเย็นลง แล้วก็การที่เราดึงออกซิเจนเข้าไปร่างกายโอเคส่วนหนึ่งพลังของการเดินทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น เพราะมีออกซิเจนเข้าไปในเซลล์ของเรามากขึ้น เมื่อก่อนแมคแข่งวิ่งมาราธอน ตื่นตีสามครึ่งตีสี่เพื่อไปวิ่ง แต่ตอนนั้นเชื่อมั้ยคะวิ่งเยอะขนาดนั้นยังไงก็มีเซลล์ลูไลท์ ตัวบวมๆ เพราะว่าร่างกายมันคือความเครียด การที่เราเดินอย่างที่นิปปอนเดิน มันไม่ใช่ fat burning activity แต่ว่ามันคือการทำให้ร่างกายกลับมาอยู่ในที่รีแล็กซ์ มีความสุขและธรรมชาติทำให้ระบบการเผาผลาญดีขึ้น รู้สึกแฮปปี้ ไม่ต้องกักเก็บไขมันแล้วฉันยินดีที่จะปล่อยไปตามเหงื่อแล้วมันง่ายมากค่ะ
คำถามแปลกๆ ด้านสุขภาพในฐานะคนทำคอนเทนต์
แม็กซีน : จริงๆ คำถามแปลกไม่ค่อยมี แต่ว่าตอนนี้น่าจะกลายเป็นเจ้าแม่สะเก็ดเงินแล้วค่ะ คือแม็กเป็นสะเก็ดเงินมาประมาณสองปี มันเป็นโรคที่ทรมานมากเลย พอเรากล้าออกมาพูดเราไม่เคยรู้เลยว่าคนเป็นสะเก็ดเงินเยอะขนาดนี้ สองประเด็นหลักๆ เลยก็คือเรื่องของความเครียด เรื่องของสภาวะรวมจิตใจ หลายคนจะสังเกตว่าถ้าหนึ่งเมื่อก่อนเราไม่เคยเป็นสะเก็ดเงินอยู่ดีๆ มันมีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตแล้วมันเกิดสะเก็ดเงินขึ้นมา เราต้องกลับไปดูจุดเริ่มต้นแล้วก็สองเรื่องปัจจัยใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ด้วย ถ้าเราเป็นคนที่กินอาหารน้ำตาลเยอะ ทำให้ลำไส้ไม่แข็งแรง จุลินทรีย์ในลำไส้เราไม่แข็งแรง ทำให้เรามีสิ่งที่เรียกว่าลำไส้รั่ว อันนั้นเป็น 90% ของเหตุผลที่ทำให้เป็นโรคผิวหนังด้วยเช่นกันค่ะ อยากให้รู้เลยว่า 90% ของโรคผิวหนังเกิดมาจากสภาวะที่ตับร้อนหรือว่ามีเลือดเสีย และส่วนใหญ่สิ่งนั้นเกิดมาจากที่ลำไส้ของเราผนังลำไส้ไม่แข็งแรง ก็เลยทำให้ลำไส้รั่วจนเป็นโรคผิวหนังได้ค่ะ
กินคลีนกับความยั่งยืนของโลกใบนี้
นิปปอน : ถ้าพูดถึงเรื่องของความยั่งยืนนิปอยากฝากเอาไว้อย่างหนึ่งเหมือนกัน บางทีเป็นสิ่งเรื่องน้อยๆ แต่เราไม่ได้นึกถึงเนาะ เราอาจจะทานอาหารที่ใส่อยู่ในกล่องโฟมจนชิน บางทีเราลืมภาชนะเนอะ อาหารคลีนๆ แต่มาในกล่องโฟม พวกอะไรเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ถ้าเราปรับเปลี่ยนได้มันเคยชินเป็นนิสัย ขณะที่โต๊ะทำงานเราอาจจะมีชามไว้เปลี่ยน ว่าเราใช้กล่องข้าวที่มันล้างได้ มันก็จะช่วยเราได้มากๆ แล้วก็เป็นความยั่งยืนด้วยไม่ใช่แค่ความยั่งยืนในการรักษ์โลกนะคะ แต่ก็รักตัวเราด้วยเพราะว่าพวกนี้มันอันตรายมากบางทีเราทานๆ เข้าไป ถ้าเราเปลี่ยนได้มันจะช่วยได้ทั้งเรื่องของสุขภาพแล้วก็ความยั่งยืนค่ะ
แม็กซีน : การที่เราเอาอาหารผ่านเข้าไปในร่างกายแม๊กว่าเป็นแค่ส่วนนึงมันเป็นปลายทาง อยากจะฝากเรื่องของการดูต้นทางด้วยค่ะ ต้นทางการผลิตผู้ผลิต โอเคถ้าเป็นไปได้นะคะเราก็จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้เคมีน้อยที่สุดเพื่อที่จะมีผลกระทบต่อโลกเราน้อยกว่า ก็อย่างที่พี่นิปปอนพูดเรื่องของบรรจุภัณฑ์ อีกส่วนหนึ่งก็คือความรับผิดชอบส่วนตัวแล้วก็การตระหนักรู้ว่าเราจะต้องดูแลรักษาโลกใบนี้ เราก็จะมีความรู้สึกเรื่องของความรับผิดชอบของการที่สั่งมาให้พอดี กินให้หมดจาน จริงๆ มันเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราค่อยๆ ปรับทีละอย่าง แล้วงานนี้เป็นงานที่ดีมากเพราะว่ามันมีตัวอย่างให้ดูเยอะแล้วก็มีอุปกรณ์มี YouTube ที่มีความรู้เยอะมาก เรื่องของการกินการใช้ชีวิตให้มันยั่งยืนยังไง มันมีช้อยส์เล็กๆ ที่เราสามารถทำได้ในทุกวันแล้วช้อยส์เล็กๆ อย่างนี้ทุกคนทำมันจะกลายเป็นอิมแพคที่ใหญ่มาก แล้วบอกเลยว่าเรื่องนี้ที่ตอนนี้มีเรื่องของน้ำท่วมทางเหนือ จะเห็นได้เลยว่าผลกระทบของภาวะโลกร้อนมันรุนแรงและมันสาหัสมากๆ ไม่ใช่แค่ในประเทศประเทศไทย ทั่วโลกที่เราเห็นอย่างง่ายๆ ดอกไม้ที่โตในแอนตาร์กติกามันไม่ใช่เรื่องสวยหรือปกติเลย มันเป็นภาวะฉุกเฉินซึ่งอยากให้ทุกคนตระหนักและปรับทีละนิดทีละหน่อยในชีวิตประจำวันค่ะ
วิธีรักสุขภาพ รักตัวเองเพื่อส่งต่อความรักต่อโลก
นิปปอน : อย่างแรกที่อยากฝากทุกคนไว้ก็คือ ดื่มน้ำบ่อยๆ นะคะ ไม่ต้องรอให้หิวน้ำแล้วนึกจนดื่ม เพราะเขาบอกว่าการที่เรามีน้ำค่อยๆ หล่อเลี้ยงตัวเองไปเรื่อยๆ จิบไปเรื่อยๆ มันช่วยได้มากๆ เลยทั้งด้านสุขภาพแล้วก็ด้านอารมณ์จิตใจของเราด้วย เติมเต็มความชุ่มชื้นประกอบกัน ส่วนเรื่องอาหารเราก็ไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มความเครียดให้กับร่างกายของเรา อะไรที่เราผ่อนได้เราก็ผ่อน อะไรที่เราพอจะทำได้เราก็ปรับตัวเองให้มันได้บาลานซ์ ทำยังไงก็ได้ค่ะให้เรามีความสุขในทุกวัน เติมเต็มสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ขอให้ทุกคนมีรอยยิ้มในทุกวันแล้วก็มีความสุขไปแบบยั่งยืนค่ะ
แม็กซีน : อยากจะฝากเรื่องของการฟังร่างกายตัวเอง ขอพูดอีกสักครั้งนึงแล้วกันค่ะ จริงๆ แล้วไม่มีสูตรอะไรที่ดีที่สุดสำหรับการมีสุขภาพดีและแข็งแรง การฟังร่างกายตัวเองแล้วก็ค่อยๆ ปรับไปวันนี้เราอาจจะมีอารมณ์ดี แฮปปี้มาก เฮลท์ตี้ พรุ่งนี้อาจจะไม่ใช่เป็นแบบนี้ ก็ผ่อนผันหยวนให้ร่างกายบ้างทำความเข้าใจเขา แล้วก็ค่อยๆ แก้เขาไป แกรู้สึกว่านี่เป็นวิธีที่จะทำให้เรามีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน นอกจากฟังร่างกายแล้วก็อยากให้ฟังโลกด้วย คือโลกกำลังร้องไห้อยู่นะคะตอนนี้เนื่องจากว่าสภาวะของโลกร้อนมีความรุนแรงมากๆ ก็อยากจะฝากเรื่องของพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันที่จะช่วยดูแลรักษาโลกของเรานะคะ เริ่มได้ทุกอย่างตั้งแต่สิ่งที่เราเลือกใช้เลือกกินหรือว่าเลือกวิธีกำจัดสิ่งของที่เราไม่ใช้แล้ว อย่างด้านล่างก็มี SX Department store สามารถส่งต่อสิ่งเหล่านี้ไปให้กับคนอื่นแล้วเขาได้เป็นประโยชน์ ก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่งเหมือนกันค่ะ