เป็นทุกอย่างยกเว้นตัวเอง! Instagram เตรียมก๊อปแอปคู่แข่ง (อีกแล้ว)
มาถึงจุดนี้ได้ยังไง! Instagram กำลังจะก๊อปปี้แอปฯ ที่แอนตี้ตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะถูกทัวร์ลงเพราะก๊อป Tiktok มาแล้ว หรือว่า Instagram จะเป็นทุกอย่างยกเว้น 'เป็นตัวเอง'?
คอนเทนต์แนะนำ
Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram มีประเด็นก๊อปฟีเจอร์ของโซเชียลมีเดียอื่นอีกแล้ว เมื่อมีผู้พัฒนาแอปพลิเคชันรายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Candid Challenges ที่ระบบจะส่งข้อความวันละครั้ง (แบบสุ่มเวลา) เตือนให้ผู้ใช้ ‘เปิดกล้องหน้า+กล้องหลัง’ ถ่ายรูปหน้าตัวเองและกิจกรรมที่ทำอยู่แชร์ให้เพื่อนดูภายใน ‘2 นาที’ แบบ ‘โน ฟิลเตอร์’ (เพราะใส่ไม่ทัน)
ที่เป็นประเด็นก็คือ ฟีเจอร์ใหม่ที่ว่านี้มันดันเป็นฟีเจอร์หลักและฟีเจอร์เดียวของ ‘BeReal’ แอปพลิเคชันคู่แข่งม้ามืดมาแรงที่ขึ้นแท่นเป็นที่ 1 App Store ของสหรัฐในขณะนี้ โดยในเดือนสิงหาคมนี้ มีผู้ใช้เฉลี่ยต่อเดือนถึง 21.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 315% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
และสิ่งที่ทำให้ BeReal บูมขึ้นมาในปีนี้ก็คือ จุดเด่นในแง่ที่เป็นแอป 'Anti-Instagram' คือเน้นให้ผู้ใช้แชร์รูปที่เป็น ‘ธรรมชาติ’ ‘ไม่ผ่านฟิลเตอร์’ และ ‘เรียล’ จนเป็นที่นิยมในหมู่เด็ก Gen-Z ที่เบื่อหน่ายความเฟคและปรุงแต่งของรูปบนแอปโซเชียลทั่วไป โดยเฉพาะ Instagram
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้คนชอปแอปนี้ก็คือ มัน 'ไม่ดูดเวลาชีวิต' เหมือน Facebook หรือ TikTok เพราะผู้ใช้จะเข้าแอปแค่วันละครั้งเท่านั้นเพื่อแชร์รูป และดูรูปของเพื่อนแบบเรียลไทม์
จุดนี้จึงทำให้หลายฝ่ายหันมาตั้งคำถามดังๆ ว่า ทำไม Instagram ถึงจะก๊อปแอปที่เป็น Anti-Instagram และก่อนหน้านี้ก็เพิ่งถูกทัวร์ลงมาแล้วเมื่ออยู่ๆ จะเปลี่ยนเอกลักษณ์ของตัวเองที่เป็นแอปลงรูป ไปเน้นวิดีโอเดินตามรอย Tiktok ซะอย่างนั้น
เบื้องต้นทาง Instagram ได้ออกมาบอกว่าระบบนี้เป็นเพียง ‘การทดสอบ’ ฟีเจอร์กันภายในเท่านั้น และยังไม่ได้มีแพลนจะนำฟีเจอร์นี้ออกมาให้ใช้งานกันจริงๆ
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Meta นำฟีเจอร์ของแอปโซเชียลอื่นที่กำลังมาแรงมาปรับใช้ในแอปพลิเคชันในเครือตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ Meta ก็เคยพยายามยัดเยียดฟีเจอร์คล้ายคู่แข่งที่กำลังมาแรงอย่าง TikTok เช่น คลิปวีดีโอสั้น (Reels) และคอนเทนต์แนะนำ (suggested content) จากคนแปลกหน้าเข้าไปในฟีดของ Facebook และ Instagram จนถูกทัวร์ลงหนักและต้องกลับลำมาแล้ว
ในส่วนของ Instagram เดี่ยวๆ เองก็มีพฤติกรรม ‘กลืน’ ฟีเจอร์แอปอื่นมาใช้อย่างยาวนาน ยกตัวอย่างเด่นๆ ก็อย่างเช่น ฟีเจอร์ ‘สตอรี่’ ที่ Instagram ไปก๊อป Snapchat มาทั้งยวง ซึ่งก็ยังโชคดีที่ก๊อปมาใช้แล้วดันฮิตมากจนผู้ใช้บางคนใช้ฟีเจอร์นี้เป็นหลัก คือลงแต่สตอรี่และไม่ลงภาพ และคิดว่าฟีเจอร์นี้เป็นสิ่งที่ Instagram คิดขึ้นมาเองไปแล้ว
เรียกได้ว่าอะไรที่จะเผยอมาเป็นคู่แข่งได้ Meta ก็ไปเอาของเขามาใช้กับแอปตัวเองหมด ซึ่งถึงแม้ในบางครั้ง Meta จะตาดีหาฟีเจอร์ที่ ‘ส่ง’ แอปตัวเองมาเสริมจนฮิตได้ เช่น ฟีเจอร์สตอรี่ที่ปังขึ้นมาเพราะไปเสริมจุดขายของ Instagram ที่ผู้ใช้ส่วนมากเอาไว้ดูภาพเพื่ออัพเดตความเป็นไปในชีวิตคนรู้จัก
แต่ในหลายๆ ครั้ง Meta ก็ลืมหูลืมตาก๊อปเอาฟีเจอร์ที่ฮิตบนแอปอื่นมายัดใส่ จนพลอยทำให้ "เสน่ห์เดิมๆ" ที่เคยทำให้แอปฮิตติดตลาดมาตั้งแต่แรกหายไป
พูดง่ายๆ ก็คือการที่ Instagram ไปก๊อปฟีเจอร์ชาวบ้านอาจไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป หากส่วนเสริมใหม่นั้นเข้ากับ ‘ดีเอ็นเอ’ เดิมของมัน จนกลายเป็นอวัยวะใหม่ได้ และไม่ได้แปลกแยกเกินไปจนจะทำให้มันกลายพันธุ์
ซึ่งก็น่าจับตาดูว่าถ้า Instagram ซึ่งเป็นแอปที่โดดเด่นเรื่อง ‘ฟิลเตอร์’ นำฟีเจอร์นี้ของ BeReal มาให้คนลองใช้จริง จะได้เสียงตอบรับยังไง
เพราะถึงแม้จะมีคนรุ่นใหม่บางส่วนเบื่อความเฟค จนเทใจไปหา BeReal แต่ก็ยังมีคนไม่น้อยเช่นกันที่ยังชื่นชอบ หรือยังต้องพึ่งการใช้ฟิลเตอร์แต่งรูปลงด้านสวยงามของชีวิตตัวเองใน Instagram อยู่
ที่มา: Bloomberg, Engadget
