ข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างอิสราเอลและฮามาส เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อเวลา 08.30 น. ของเช้าวันที่ 19 มกราคม 2025 หรือ 13.30 น. ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย โดยชาวปาเลสไตน์หลายพันคนเริ่มทยอยกลับบ้านในกาซา
อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้ข้อตกลงล่าช้าในนาทีสุดท้าย เนื่องจากฮามาสไม่สามารถส่งรายชื่อของตัวประกันทั้งสามให้กับอิสราเอลได้ทันเวลา โดยทางฮามาสอ้างว่าสาเหตุเกิดจาก "ปัญหาด้านการปฏิบัติการในพื้นที่" จนกระทั่งถึงเวลาก่อนการหยุดยิง อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา ก่อนในที่สุด การส่งรายชื่อเรียบร้อย และอิสราเอลเริ่มบังคับใช้การหยุดยิง
และในวันนี้ ฮามาสจะส่งมอบตัวประกันล็อตแรกคืน โดยกลุ่มฮามาสได้ระบุชื่อผู้หญิงสามคน ประกอบด้วยดอรอน สไตน์เบรชเชอร์ วัย 31 ปี, เอมิลี ดามารี วัย 28 ปี ซึ่งมีสองสัญชาติอังกฤษ-อิสราเอล และโรมี โกเนน วัย 24 ปี ซึ่งถูกลักพาตัวจากงานเทศกาลดนตรี
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสบุกเข้าโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 คน และลักพาตัวคน 251 คนกลับไปยังกาซา การโจมตีดังกล่าวทำให้อิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ในฉนวนกาซา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์กว่า 46,800 คน ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยฮามาส
ตามข้อตกลงหยุดยิง จะมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษ โดยกลุ่มฮามาสจับตัวประกัน 251 คนเอาไว้ เมื่อตอนบุกเข้าโจมตีอิสราเอลในเดือนตุลาคม 2023 และขณะนี้ยังคงมีตัวประกันอยู่ในควบคุม 94 คน แต่อิสราเอลเชื่อว่า ตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือแค่ 60 คนเท่านั้น
ขณะที่คาดว่า อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ประมาณ 1,000 คน ซึ่งบางคนถูกคุมขังมานานหลายปี เพื่อแลกเปลี่ยนกับตัวประกันเหล่านั้น
การหยุดยิงจะมีทั้งหมด 3 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกจะใช้เวลาหกสัปดาห์ โดยจะมี "การหยุดยิงเต็มรูปแบบและสมบูรณ์"
สำหรับขั้นตอนที่สอง จะมีการ "ยุติสงครามอย่างถาวร" โดยตัวประกันที่ยังมีชีวิตรอด ซึ่งรวมถึงผู้ชาย จะได้รับการปล่อยตัว แลกเปลี่ยนกับนักโทษชาวปาเลสไตน์เพิ่มเติม
ส่วนขั้นตอนที่สามเป็นขั้นตอนสุดท้าย จะเกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูฉนวนกาซา ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายปี รวมถึงการส่งคืนร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตด้วย