Radio Free Asia รายงานว่า คดีลักพาตัว การปล้น และการฆาตกรรม กำลังเพิ่มขึ้นในเมืองใหญ่ต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหารเมียนมา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายให้สัมภาษณ์ Radio Free Asia โดยไม่เปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัย เล่าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังโฟกัสไปที่การคุ้มครองรัฐบาลทหารจากกลุ่มกบฏ มากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย และบางพื้นที่ ระบบกฎหมายแทบไม่มีหลงเหลือแล้ว โดยตำรวจมุ่งเน้นไปที่การตามหาตัวและจับกุมสมาชิกขององค์กรที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ขณะเดียวกันก็ละเลยหน้าที่หลักของการเป็นตำรวจ
รัฐบาลทหาร ซึ่งเข้าควบคุมเมียนมาหลังการทำรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในหลายตำบลทั่วประเทศ เพื่อปราบปรามการต่อต้านในพื้นที่ที่มีกลุ่มต่อต้านรัฐบาล
อัตราการเกิดอาชญากรรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเมืองใหญ่และเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ แหล่งข่าวระบุว่า ในปี 2024 มีรายงานว่า มีประชาชนอย่างน้อย 5 คนถูกลักพาตัวจากในนครย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ รวมถึงในท่าขี้เหล็กและหมู่แจ้ ซึ่งเป็นเมืองชายแดนในรัฐฉานของเมียนมา
โดยเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2024 เกิดเหตุลักพาตัว ข่มขู่เรียกค่าไถ่ และฆ่าหมอสูติ-นรีเวชในมัณฑะเลย์ และเมื่อวันที่ 3 มกราคม เกิดเหตุลักพาตัวเจ้าของปั๊มน้ำมันในเมืองมัณฑะเลย์ ก่อนที่ถัดมาในวันที่ 11 มกราคม เกิดเหตุปล้นธนาคารในตำบลมหาอองมี่ เขตมัณฑะเลย์ กลางวันแสกๆ แต่รายงานระบุว่า แทนที่ตำรวจจะเข้ามาจัดการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารและชาวบ้านได้ช่วยกันล้อมจับคนร้ายเอาไว้ได้
ชาวบ้านจากมัณฑะเลย์ที่ขอไม่เปิดเผยเล่าว่า ผู้คนในพื้นที่ต้องอยู่ในความหวาดกลัวอย่างต่อเนื่อง จากอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการปล้นชิงทรัพย์
รายงานยังระบุอีกว่า เมื่อมีกรณีหญิงสาวในเมืองใหญ่ๆ เช่น ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์หายตัวไป มักจะเป็นการลักพาตัวโดยคนร้ายจะเรียกค่าไถ่ แต่ครอบครัวของเหยื่อมักจะไม่แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากกลัวว่า คนร้ายอาจจะกลับมาทำร้ายได้
แหล่งข่าวที่ขอไม่เปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัยกล่าวถึงเหตุการณ์การลักพาตัวเด็กสาวคนหนึ่ง ขณะกำลังเดินไปโรงเรียนในตอนเช้า ในช่วงเย็น ผู้คนร้ายได้โทรหามารดาของเธอและเรียกค่าไถ่จำนวน 60 ล้านจ๊าต หรือประมาณ 965,000 บาท และขู่จะฆ่าหรือขายเธอหากไม่จ่ายค่าไถ่ มารดาของเธอจึงมอบเงินสดโดยไม่ติดต่อตำรวจ และลูกสาวของเธอได้รับการปล่อยตัว
ชาวบ้านยังเล่าว่า การใช้เคอร์ฟิวในนครย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ไม่ได้ช่วยลดอาชญากรรมแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีการลาดตระเวนของทหารและตำรวจอย่างสม่ำเสมอ โดยพวกคนร้ายก็เพียงแค่หาทางหลักเลี่ยงเคอร์ฟิว ซึ่งกำหนดเอาไว้ระหว่างเวลา 01.00 – 03.00 น. และออกมาก่อเหตุร้ายในช่วง 04.00 -05.00 น. แทน มีการปล้นทุกประเภทเกิดขึ้น ผลลัพธ์ก็คือ ประชาชนต้องช่วยเหลือกันและกัน
RFA รายงานว่า ไม่สามารถติดต่อโฆษกรัฐบาลทหาร พล.ท. ซอว์ มิน ตุน เพื่อขอความคิดเห็นเรื่องนี้ได้ และหลังการทำรัฐประหารในปี 2021 ไม่มีการเปิดเผยอัตราการเกิดอาชญากรรม เนื่องจากกลุ่มตรวจสอบท้องถิ่นและนักกิจกรรม ถูกดำเนินคดีจากรัฐบาลทหารในข้อหาต่อต้านการยึดอำนาจ
สหรัฐอเมริกา แคนาดา นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และประเทศตะวันตกอื่นๆ ได้ออกคำเตือนการเดินทางไปยังเมียนมา โดยแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศนี้เนื่องจากสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง